1. แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสิทธิบัตร
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ให้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสิทธิบัตร จำนวน 12 คน แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้ดำรงตำแหน่งมาครบกำหนด 2 ปี ตามวาระในวันที่ 31 มกราคม 2550 ดังนี้ 1. นายอำพล ไมตรีเวช 2. นายวีระศักดิ์ ว่องปรีชา 3. นายกิตติ อมรรักษา 4. นายวิชา ธิติประเสริฐ 5. นายสำเริง จักรใจ 6. นายอุดมเกียรติ นนทแก้ว 7. นายพลาวุธ เชาวนโยธิน 8. นายเย็นใจ เลาหวณิช 9. นายฉัตรชัย บุญรัตน์ 10. นายกิตติ ตั้งจิตรมณีศักดา 11. นายสวราช สัจจมาร์ค และ 12. นายมิ่งพันธ์ ฉายาวิจิตรศิลป์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2550 เป็นต้นไป
2. การสรรหาและคัดเลือกเลขาธิการอาเซียนจากประเทศไทย
คณะรัฐมนตรีรับทราบการสรรหาและคัดเลือกเลขาธิการอาเซียนจากประเทศไทย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า ประเทศไทยมีพันธกิจในการเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมเพื่อดำรงตำแหน่งเลขาธิการอาเซียนเป็นระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2551 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ต่อจากนาย Ong Keng Yong เลขาธิการอาเซียนคนปัจจุบันซึ่งจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 31 ธันวาคม 2550 ทั้งนี้ ผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการอาเซียนมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนกระบวนการต่าง ๆ ของอาเซียนในภาพรวม ซึ่งบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งดังกล่าวจากประเทศไทย นอกจากจะต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถและได้รับการยอมรับจากสมาชิกอาเซียนทั้งหมดแล้ว ยังต้องสามารถให้การสนับสนุนและส่งเสริมบทบาทและผลประโยชน์ของไทยในกรอบอาเซียนและเวทีระหว่างประเทศ ดังนั้น กระบวนการสรรหาและคัดเลือกผู้เหมาะสมเพื่อสมัครเข้าดำรงตำแหน่งเลขาธิการอาเซียน จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประเทศไทยซึ่งต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบภายใต้หลักการของความโปร่งใส เป็นระบบ และตรวจสอบได้ กระทรวงการต่างประเทศได้แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาและคัดเลือกเลขาธิการอาเซียนจากประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจากสาขาต่าง ๆ ที่มีความรู้และประสบการณ์ด้านต่างประเทศ เศรษฐกิจ และสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของอาเซียน จำนวน 6 ราย ดังนี้ 1. นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย อดีตเลขาธิการอาเซียน และอดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศ 2. นายเตช บุนนาค ที่ปรึกษาราชเลขาธิการ และอดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศ 3. ดร.สุทัศน์ เศรษฐบุญสร้าง Partner บริษัท Price Waterhouse Cooper อดีตรองเลขาธิการอาเซียน (ฝ่ายเศรษฐกิจ) 4. นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี อดีตรองอธิบดีกรมเจรจาการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ 5. รศ.ดร.โคทม อารียา ประธาน สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และ 6. รศ.ดร.กุสุมา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เลขาธิการสมาคมเพื่อความร่วมมือด้านความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และที่ปรึกษาสถาบันความมั่นคงและนานาชาติ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
3. การเสนอแต่งตั้งคณะกรรมการ (กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม)
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอการแต่งตั้งคณะกรรมการให้อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดังนี้
1. คณะกรรมการอำนวยการโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ปีที่ 50
2. คณะกรรมการบริหารโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ปีที่ 50
3. คณะกรรมการกองทุนปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ปีที่ 50
4. คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์โครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ปีที่ 50
5. คณะกรรมการโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ปีที่ 50 ประจำจังหวัดทุกจังหวัด
6. คณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาพระสงฆ์ในพื้นที่ป่าไม้
7. คณะกรรมการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา
8. คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก
9. คณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกแม่น้ำปิง จังหวัดเชียงใหม่
10. คณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย
11. คณะกรรมการอำนวยการโครงการจัดหาแหล่งน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคทั่วประเทศ
4. การแต่งตั้งผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอให้แต่งตั้ง นายพิสุทธิ์ ชลากรกุล เป็นผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า ตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญาจ้างเป็นต้นไป ซึ่งกระทรวงการคลังพิจารณาเห็นชอบค่าตอบแทนและสัญญาจ้างแล้ว
5. การแต่งตั้งคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า และการปรับบทบาทภารกิจขององค์การคลังสินค้า
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอให้แต่งตั้งประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การคลังสินค้าชุดใหม่ เนื่องจากประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการอื่นเดิมได้ลาออก โดยมีรายชื่อ ดังนี้ นายสมพงษ์ วนาภา เป็นประธานกรรมการ นายยรรยง พวงราช เป็นรองประธานกรรมการ กรรมการอื่นประกอบด้วย นางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ พลโท เสถียร เพิ่มทองอินทร์ นางสาววิไลพร ลิ่วเกษมศานต์ นายนิพนธ์ พัวพงศกร นายสมจินต์ สันถวรักษ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2550 เป็นต้นไป
6. แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นางสุรางค์ จริยาโกวิท)
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอให้แต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน 1 ราย คือ นางสุรางค์ จริยาโกวิท เป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2550 เป็นต้นไป
7. แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอให้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการชุดใหม่ จำนวน 9 คน แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดเดิมที่ได้ดำรงตำแหน่งมาใกล้จะครบกำหนดตามวาระ ดังนี้ 1.นายกิตติศักดิ์ ปรกติ 2. นายขวัญชัย วศวงศ์ 3. นายครรชิต มาลัยวงศ์ 4. นายชูชัย ศุภวงศ์ 5. นายทศพร ศิริสัมพันธ์ 6. นายเธียรชัย ณ นคร 7. นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ 8. นายมานิจ สุขสมจิตร 9. นางจุรี วิจิตรวาทการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2550 เป็นต้นไป
8. การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์แห่งชาติ
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอให้แต่งตั้งรองศาสตราจารย์บุษบา สุธีธร ประธานกรรมการประจำสาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์แห่งชาติ (กกช.) แทนผู้ช่วยศาสตราจารย์ธนัญญา เชรษฐา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งคณบดี คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตามข้อ 6 และข้อ 9 (6) แห่งระเบียบว่าด้วยวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ. 2535 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2550 เป็นต้นไป
9. ขอความเห็นชอบการแต่งตั้งผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอให้แต่งตั้ง นายพิเณศวร์ พัวพัฒนกุล ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ โดยให้ได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 143,000 บาท และการปรับขึ้นค่าตอบแทนคงที่ ค่าตอบแทนพิเศษ รวมทั้งสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ตามที่กระทรวงการคลังให้ความเห็นชอบแล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2550--จบ--
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ให้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสิทธิบัตร จำนวน 12 คน แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้ดำรงตำแหน่งมาครบกำหนด 2 ปี ตามวาระในวันที่ 31 มกราคม 2550 ดังนี้ 1. นายอำพล ไมตรีเวช 2. นายวีระศักดิ์ ว่องปรีชา 3. นายกิตติ อมรรักษา 4. นายวิชา ธิติประเสริฐ 5. นายสำเริง จักรใจ 6. นายอุดมเกียรติ นนทแก้ว 7. นายพลาวุธ เชาวนโยธิน 8. นายเย็นใจ เลาหวณิช 9. นายฉัตรชัย บุญรัตน์ 10. นายกิตติ ตั้งจิตรมณีศักดา 11. นายสวราช สัจจมาร์ค และ 12. นายมิ่งพันธ์ ฉายาวิจิตรศิลป์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2550 เป็นต้นไป
2. การสรรหาและคัดเลือกเลขาธิการอาเซียนจากประเทศไทย
คณะรัฐมนตรีรับทราบการสรรหาและคัดเลือกเลขาธิการอาเซียนจากประเทศไทย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า ประเทศไทยมีพันธกิจในการเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมเพื่อดำรงตำแหน่งเลขาธิการอาเซียนเป็นระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2551 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ต่อจากนาย Ong Keng Yong เลขาธิการอาเซียนคนปัจจุบันซึ่งจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 31 ธันวาคม 2550 ทั้งนี้ ผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการอาเซียนมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนกระบวนการต่าง ๆ ของอาเซียนในภาพรวม ซึ่งบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งดังกล่าวจากประเทศไทย นอกจากจะต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถและได้รับการยอมรับจากสมาชิกอาเซียนทั้งหมดแล้ว ยังต้องสามารถให้การสนับสนุนและส่งเสริมบทบาทและผลประโยชน์ของไทยในกรอบอาเซียนและเวทีระหว่างประเทศ ดังนั้น กระบวนการสรรหาและคัดเลือกผู้เหมาะสมเพื่อสมัครเข้าดำรงตำแหน่งเลขาธิการอาเซียน จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประเทศไทยซึ่งต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบภายใต้หลักการของความโปร่งใส เป็นระบบ และตรวจสอบได้ กระทรวงการต่างประเทศได้แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาและคัดเลือกเลขาธิการอาเซียนจากประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจากสาขาต่าง ๆ ที่มีความรู้และประสบการณ์ด้านต่างประเทศ เศรษฐกิจ และสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของอาเซียน จำนวน 6 ราย ดังนี้ 1. นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย อดีตเลขาธิการอาเซียน และอดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศ 2. นายเตช บุนนาค ที่ปรึกษาราชเลขาธิการ และอดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศ 3. ดร.สุทัศน์ เศรษฐบุญสร้าง Partner บริษัท Price Waterhouse Cooper อดีตรองเลขาธิการอาเซียน (ฝ่ายเศรษฐกิจ) 4. นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี อดีตรองอธิบดีกรมเจรจาการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ 5. รศ.ดร.โคทม อารียา ประธาน สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และ 6. รศ.ดร.กุสุมา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เลขาธิการสมาคมเพื่อความร่วมมือด้านความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และที่ปรึกษาสถาบันความมั่นคงและนานาชาติ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
3. การเสนอแต่งตั้งคณะกรรมการ (กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม)
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอการแต่งตั้งคณะกรรมการให้อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดังนี้
1. คณะกรรมการอำนวยการโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ปีที่ 50
2. คณะกรรมการบริหารโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ปีที่ 50
3. คณะกรรมการกองทุนปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ปีที่ 50
4. คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์โครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ปีที่ 50
5. คณะกรรมการโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ปีที่ 50 ประจำจังหวัดทุกจังหวัด
6. คณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาพระสงฆ์ในพื้นที่ป่าไม้
7. คณะกรรมการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา
8. คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก
9. คณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกแม่น้ำปิง จังหวัดเชียงใหม่
10. คณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย
11. คณะกรรมการอำนวยการโครงการจัดหาแหล่งน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคทั่วประเทศ
4. การแต่งตั้งผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอให้แต่งตั้ง นายพิสุทธิ์ ชลากรกุล เป็นผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า ตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญาจ้างเป็นต้นไป ซึ่งกระทรวงการคลังพิจารณาเห็นชอบค่าตอบแทนและสัญญาจ้างแล้ว
5. การแต่งตั้งคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า และการปรับบทบาทภารกิจขององค์การคลังสินค้า
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอให้แต่งตั้งประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การคลังสินค้าชุดใหม่ เนื่องจากประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการอื่นเดิมได้ลาออก โดยมีรายชื่อ ดังนี้ นายสมพงษ์ วนาภา เป็นประธานกรรมการ นายยรรยง พวงราช เป็นรองประธานกรรมการ กรรมการอื่นประกอบด้วย นางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ พลโท เสถียร เพิ่มทองอินทร์ นางสาววิไลพร ลิ่วเกษมศานต์ นายนิพนธ์ พัวพงศกร นายสมจินต์ สันถวรักษ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2550 เป็นต้นไป
6. แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นางสุรางค์ จริยาโกวิท)
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอให้แต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน 1 ราย คือ นางสุรางค์ จริยาโกวิท เป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2550 เป็นต้นไป
7. แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอให้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการชุดใหม่ จำนวน 9 คน แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดเดิมที่ได้ดำรงตำแหน่งมาใกล้จะครบกำหนดตามวาระ ดังนี้ 1.นายกิตติศักดิ์ ปรกติ 2. นายขวัญชัย วศวงศ์ 3. นายครรชิต มาลัยวงศ์ 4. นายชูชัย ศุภวงศ์ 5. นายทศพร ศิริสัมพันธ์ 6. นายเธียรชัย ณ นคร 7. นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ 8. นายมานิจ สุขสมจิตร 9. นางจุรี วิจิตรวาทการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2550 เป็นต้นไป
8. การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์แห่งชาติ
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอให้แต่งตั้งรองศาสตราจารย์บุษบา สุธีธร ประธานกรรมการประจำสาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์แห่งชาติ (กกช.) แทนผู้ช่วยศาสตราจารย์ธนัญญา เชรษฐา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งคณบดี คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตามข้อ 6 และข้อ 9 (6) แห่งระเบียบว่าด้วยวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ. 2535 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2550 เป็นต้นไป
9. ขอความเห็นชอบการแต่งตั้งผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอให้แต่งตั้ง นายพิเณศวร์ พัวพัฒนกุล ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ โดยให้ได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 143,000 บาท และการปรับขึ้นค่าตอบแทนคงที่ ค่าตอบแทนพิเศษ รวมทั้งสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ตามที่กระทรวงการคลังให้ความเห็นชอบแล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2550--จบ--