การประกาศกำหนดสินค้าและตัวแปรตามพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 เพิ่มเติม

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 29, 2010 12:00 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง การประกาศกำหนดสินค้าและตัวแปรตามพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 เพิ่มเติม

(สินค้าและตัวแปร จำนวน 14 ประเภท)

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในการกำหนดสินค้าและตัวแปรตามพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 เพิ่มเติม รวม 14 ประเภท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ได้แก่

1. กลุ่มโลหะมีค่า ได้แก่ เงิน แพลทินัม

2. กลุ่มโลหะอื่น ได้แก่ ทองแดง สังกะสี เหล็ก อะลูมิเนียม และดีบุก

3. กลุ่มสินทรัพย์อื่น ได้แก่ ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ ไฟฟ้า และพลาสติก

4. กลุ่มตัวแปร ได้แก่ ค่าระวาง คาร์บอนเครดิต และดัชนีสินค้าโภคภัณฑ์ เพื่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (คณะกรรมการ ก.ล.ต.) จะได้ประกาศกำหนดต่อไป

ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังรับข้อเสนอแนะของกระทรวงพลังงานที่เห็นว่า ในอนาคตหากจะมีการออกสัญญาซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินค้าดังกล่าว ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ควรประสานหารือกับกระทรวงพลังงานด้วย เพราะอาจมีผลกระทบต่อราคาก๊าซธรรมชาติและไฟฟ้าของผู้ที่ซื้อสินค้าไปใช้ประโยชน์ (เช่น โรงไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรม) หากไม่มีการกำหนดหลักเกณฑ์ที่เป็นธรรม ไปพิจารณาประสานดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย

สาระสำคัญของเรื่อง

กระทรวงการคลัง (กค.) รายงานว่า

1. สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ได้เสนอรายชื่อสินค้าและตัวแปรตามพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 เพิ่มเติมจำนวน 14 ประเภท ให้ กค.พิจารณานำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบ

2. พระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 มีการกำหนดประเภทของสินค้าและตัวแปรไว้จำนวนน้อย (สินค้า 3 ประเภท ได้แก่ หลักทรัพย์ ทองคำ น้ำมันดิบ และตัวแปร 4 ประเภท ได้แก่ อัตราแลกเปลี่ยน อัตราดอกเบี้ย ดัชนีทางการเงิน ดัชนีกลุ่มหลักทรัพย์) ส่งผลให้เกิดการใช้ช่องว่างของกฎหมายให้มีการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ที่อ้างอิงกับสินค้าและตัวแปรที่กฎหมายไม่ได้กำหนดไว้ ซึ่งทำให้การกระทำดังกล่าวไม่ได้อยู่ภายใต้กฎหมายว่าด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้าและทำให้ไม่มีหน่วยงานในการกำกับดูแล อย่างไรก็ดีบทบัญญัติของกฎหมายได้กำหนดให้ คณะกรรมการ ก.ล.ต. โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีสามารถประกาศเพิ่มเติมประเภทสินค้าและตัวแปรได้

3. สำนักงาน ก.ล.ต.ได้ประสานงานกับบริษัท ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เพื่อพิจารณาคัดเลือกสินค้าและตัวแปรที่เห็นว่ามีความต้องการในภาคธุรกิจและศักยภาพในการนำการเปิดการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าได้ในอนาคต โดยคณะกรรมการ ก.ล.ต. ในการประชุมครั้งที่ 6/2553 เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2553 ได้มีมติเห็นชอบให้สำนักงาน ก.ล.ต. นำเสนอสินค้าและตัวแปร จำนวน 14 ประเภทดังกล่าวต่อ กค. เพื่อเสนอขอความเห็นชอบต่อคณะรัฐมนตรีในการกำหนดให้เป็นสินค้าและตัวแปรตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 รวม 14 ประเภท

4. การประกาศเพิ่มเติมประเภทสินค้าและตัวแปรทั้ง 14 ประเภทนั้นจะส่งผลให้การซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับสินค้าและตัวแปรเหล่านี้มีหน่วยงานกำกับดูแลตามกฎหมาย คือ สำนักงาน ก.ล.ต.และศูนย์ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ได้รับใบอนุญาตจะสามารถเปิดให้มีการซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับสินค้าและตัวแปรดังกล่าวไว้เพื่อป้องกันการมีการซื้อขายที่เป็นการทั่วไป และไม่อยู่ภายใต้การบังคับใช้ของกฎหมาย โดยตามมาตรา 67 แห่งพระราชบัญญัติซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 ก่อนที่จะเปิดให้มีการซื้อขายศูนย์ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าจะต้องยื่นแบบและ ข้อความของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (contract specification) เพื่อขอความเห็นชอบในสาระสำคัญจากสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งสำนักงาน ก.ล.ต.มีแนวทางการพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ปริมาณการทำธุรกรรมในตลาดปัจจุบัน ความต้องการของผู้ร่วมตลาด ความโปร่งใส และความน่าเชื่อถือของข้อมูลซื้อขาย มาตรการป้องปรามการกระทำอันไม่เป็นธรรมต่าง ๆ และผลสำรวจความเห็นจากผู้ร่วมตลาด เป็นต้น ซึ่งจะเป็นการคุ้มครองผลประโยชน์ของผู้ลงทุนในอีกทางหนึ่ง

5. สินค้าและตัวแปรที่เสนอดังกล่าวมีปริมาณการทำธุรกรรมในประเทศรองรับและภาคเอกชนยังมีการซื้อขายนอกตลาด (OTC) และซื้อขายล่วงหน้าในตลาดต่างประเทศอยู่แล้ว จึงมีศักยภาพที่จะนำมาเปิดให้ซื้อขายในไทยได้ซึ่งจะเป็นการผลักดันให้ตลาดทุนไทยมีสินค้าทางการเงินที่หลากหลายเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่นักลงทุนมากยิ่งขึ้น สำหรับตลาดต่างประเทศที่มีการซื้อขายล่วงหน้าสินค้าและตัวแปรอ้างอิงเหล่านี้ เช่น สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา อินเดีย และญี่ปุ่น เป็นต้น โดยแนวทางการกำหนดสินค้าและตัวแปรใหม่ของตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่จะเป็นไปตามความต้องการของตลาดโดยความเห็นชอบขององค์กรกำกับดูแลไม่ได้ถูกจำกัดขอบเขตไว้โดยกฎหมาย

6. การประกาศกำหนดสินค้าและตัวแปรเพิ่มเติมนี้เป็นเพียงขั้นตอนการสร้างความชัดเจนให้กับผู้ร่วมตลาดและผู้ที่เกี่ยวข้องในการพิจารณาโอกาสทางธุรกิจ ยังไม่สามารถนำสินค้าหรือตัวแปรเหล่านี้มาซื้อขายล่วงหน้าได้ทันทีแต่จะต้องมีการสำรวจความต้องการใช้งานและความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องก่อน ซึ่งในทางปฏิบัติจะไม่สามารถเจรจากับ ผู้ที่เกี่ยวข้องในภาคเอกชนได้ หากภาครัฐไม่มีความชัดเจนในเชิงนโยบายที่จะเปิดให้มีการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงสินค้าและตัวแปรดังกล่าว ดังนั้น กค.จึงเห็นควรเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบในการกำหนดสินค้าและตัวแปรตามพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 เพิ่มเติม จำนวน 14 ประเภทที่กล่าวข้างต้น เพื่อคณะกรรมการ ก.ล.ต. จะได้ประกาศกำหนดต่อไป

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 28 กันยายน 2553--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ