คณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ โดยเพิ่มเติมจากมาตรการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2550 และมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 3 เมษายน 2550 เพื่อบริหารจัดการงบประมาณที่เหลืออยู่ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 และการใช้จ่ายเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปีอย่างมีประสิทธิภาพโดยเร่งรัดให้มีการใช้จ่ายเงินงบประมาณเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศให้มากที่สุดเพื่อเพิ่มอุปสงค์และการลงทุนในประเทศ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และเพื่อเป็นแนวทางให้หัวหน้าส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจใช้ในการกำกับ ดูแล ติดตาม เร่งรัดและแก้ไขปัญหาอุปสรรคให้การดำเนินการเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ตามมติคณะรัฐมนตรี ดังนี้
1. การใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจพิจารณาดำเนินการดังต่อไปนี้
1.1 ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจใช้แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงบประมาณแล้ว เป็นเป้าหมายหลักในการเร่งรัดการดำเนินงาน เพื่อให้การเบิกจ่ายบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2550
1.2 โครงการ/รายการที่ได้ทำสัญญา/ก่อหนี้ผูกพันไว้แล้ว ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเร่งรัดการดำเนินงาน ดังนี้
1) ควบคุม/กำกับ การดำเนินงานตามสัญญาของคู่สัญญา ให้มีการส่งมอบงานก่อสร้าง หรือพัสดุภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา
2) ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ กำกับดูแลการดำเนินงานของคณะกรรมการตรวจการจ้าง และคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ โดยให้ถือหลักปฏิบัติในเรื่องระยะเวลาตรวจรับพัสดุ หรือตรวจการจ้างงาน ก่อสร้าง ตามนัยหนังสือสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ นร 0305 / ว 5855 ลงวันที่ 11 กรกฎาคม 2544 อย่างเคร่งครัด และหากไม่สามารถดำเนินการให้เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนด ให้รายงานเหตุผลความจำเป็นต่อหัวหน้าส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเพื่อพิจารณาดำเนินการแก้ไขเร่งรัดต่อไป
ทั้งนี้ สมควรให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ กำหนดแนวทางหรือวิธีปฏิบัติในการขออนุมัติเบิกจ่ายเงินให้เป็นไปด้วยความถูกต้อง กระชับ รวดเร็ว ลดขั้นตอนการตรวจสอบที่ซ้ำซ้อนและไม่จำเป็น เพื่อให้การเบิกจ่ายเงินเป็นไปโดยเร็ว
3) กรณีที่การดำเนินงานล่าช้ากว่าแผนที่กำหนดไว้ ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจติดตาม เร่งรัด และแก้ไขปัญหาอุปสรรค เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
1.3 โครงการ/รายการที่ยังไม่ได้ทำสัญญา/ก่อหนี้ผูกพัน ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเร่งรัดการดำเนินงาน เพื่อให้สามารถลงนามในสัญญาได้ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2550 โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการ/รายการผูกพันข้ามปีงบประมาณ ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ส่งผลการจัดซื้อจัดจ้างให้สำนักงบประมาณพิจารณาให้ความเห็นชอบ ความเหมาะสมของราคาภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2550
1.4 ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจพิจารณาทบทวนแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ในกรณีที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่สามารถทำสัญญา/ก่อหนี้ผูกพันโครงการ/รายการใดได้ทันภายในไตรมาส 3 (30 มิถุนายน 2550) และไม่มีหนี้ค่าสาธารณูปโภค ให้พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ โดยนำเงินงบประมาณที่ได้จากการปรับแผนฯ ไปดำเนินการ ดังนี้
1) ดำเนินการตามสัญญา กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เช่น เงินชดเชยค่างานสิ่งก่อสร้างตามสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่า K) ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน การจ่ายค่างานตามปริมาณที่ทำจริงซึ่งสูงกว่าสัญญา เป็นต้น
2) ดำเนินโครงการ/รายการ ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่สามารถดำเนินการได้เร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้
3) ดำเนินโครงการ/รายการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนและต้องใช้จ่ายงบประมาณเกินกว่าที่ได้รับการจัดสรร เช่น ราคากลางหรือผลการประกวดราคาสูงกว่างบประมาณที่ได้รับ เป็นต้น
4) ดำเนิน โครงการ / รายการ ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนหรือเพิ่มรายได้ให้ประชาชน เช่น แก้ปัญหาภัยแล้ง แก้ปัญหาน้ำท่วม การจ้างงานในชนบท เป็นต้น
5) ดำเนิน โครงการ/รายการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนตามนโยบายรัฐบาล
6) ดำเนิน โครงการ/รายการที่ทำให้เพิ่มผลิตภาพผลผลิต (Productivity)
ทั้งนี้ โครงการ/รายการที่จะดำเนินการดังกล่าวจะต้องอยู่ในเงื่อนไข ดังนี้
- กรณีที่เป็นรายการเดิมที่ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ซึ่งไม่สามารถใช้จ่ายงบประมาณได้ตามแผนที่กำหนดไว้ในปีงบประมาณ พ.ศ.2550 ให้นำไปใช้ได้แต่เฉพาะในรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณอื่นๆ ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณไว้แล้ว และสามารถดำเนินการได้เร็วกว่าแผน หรือโครงการ/รายการ ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ ไม่เพียงพอ และมีความจำเป็นเร่งด่วนต้องจ่ายเงินตามสัญญาเป็นลำดับแรก ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรักษาวินัยทางการคลังและไม่เป็นภาระงบประมาณในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป
- กรณีที่เป็นโครงการ/รายการใหม่ จะต้องมีความพร้อมที่จะดำเนินการและสามารถก่อหนี้ผูกพันลงนามในสัญญาได้ ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2550 และต้องไม่เป็นโครงการ/รายการผูกพันข้ามปีงบประมาณ โดยสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2550
ทั้งนี้ ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจดำเนินการปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ตามนัยข้อ 1.4 เพื่อนำเสนอรัฐมนตรีเจ้าสังกัดพิจารณาให้ความเห็นชอบแล้วดำเนินการตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป
2. งบประมาณรายจ่ายงบกลาง งบประมาณรายจ่ายงบกลางรายการใดที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจได้รับการจัดสรรงบประมาณไปใช้จ่ายและบรรลุวัตถุประสงค์แล้วมีเงินเหลือให้นำส่งคืนคลังตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2548 หากมีความจำเป็นจะต้องนำไปใช้จ่ายในรายการอื่น ๆ ให้พิจารณาดำเนินการตามนัย ข้อ 1.4 ได้โดยอนุโลม แล้วขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณต่อไป
3. การใช้จ่ายงบประมาณที่ได้รับอนุมัติให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี หรืออยู่ระหว่างการขออนุมัติขยายระยะเวลาเบิกจ่ายเงินดังกล่าวออกไปอีก ให้ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจนำมาตรการ ข้อ 1 ข้างต้น มาใช้โดยอนุโลม
4. ให้สำนักงบประมาณติดตามและรายงานผลการปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณในไตรมาสที่ 3 ให้คณะรัฐมนตรีทราบภายในเดือนกรกฎาคม 2550
5. ให้สำนักงบประมาณนำผลการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 และเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปีของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจไปประกอบการพิจารณาจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ให้กับส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 10 เมษายน 2550--จบ--
1. การใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจพิจารณาดำเนินการดังต่อไปนี้
1.1 ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจใช้แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงบประมาณแล้ว เป็นเป้าหมายหลักในการเร่งรัดการดำเนินงาน เพื่อให้การเบิกจ่ายบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2550
1.2 โครงการ/รายการที่ได้ทำสัญญา/ก่อหนี้ผูกพันไว้แล้ว ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเร่งรัดการดำเนินงาน ดังนี้
1) ควบคุม/กำกับ การดำเนินงานตามสัญญาของคู่สัญญา ให้มีการส่งมอบงานก่อสร้าง หรือพัสดุภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา
2) ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ กำกับดูแลการดำเนินงานของคณะกรรมการตรวจการจ้าง และคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ โดยให้ถือหลักปฏิบัติในเรื่องระยะเวลาตรวจรับพัสดุ หรือตรวจการจ้างงาน ก่อสร้าง ตามนัยหนังสือสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ นร 0305 / ว 5855 ลงวันที่ 11 กรกฎาคม 2544 อย่างเคร่งครัด และหากไม่สามารถดำเนินการให้เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนด ให้รายงานเหตุผลความจำเป็นต่อหัวหน้าส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเพื่อพิจารณาดำเนินการแก้ไขเร่งรัดต่อไป
ทั้งนี้ สมควรให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ กำหนดแนวทางหรือวิธีปฏิบัติในการขออนุมัติเบิกจ่ายเงินให้เป็นไปด้วยความถูกต้อง กระชับ รวดเร็ว ลดขั้นตอนการตรวจสอบที่ซ้ำซ้อนและไม่จำเป็น เพื่อให้การเบิกจ่ายเงินเป็นไปโดยเร็ว
3) กรณีที่การดำเนินงานล่าช้ากว่าแผนที่กำหนดไว้ ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจติดตาม เร่งรัด และแก้ไขปัญหาอุปสรรค เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
1.3 โครงการ/รายการที่ยังไม่ได้ทำสัญญา/ก่อหนี้ผูกพัน ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเร่งรัดการดำเนินงาน เพื่อให้สามารถลงนามในสัญญาได้ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2550 โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการ/รายการผูกพันข้ามปีงบประมาณ ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ส่งผลการจัดซื้อจัดจ้างให้สำนักงบประมาณพิจารณาให้ความเห็นชอบ ความเหมาะสมของราคาภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2550
1.4 ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจพิจารณาทบทวนแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ในกรณีที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่สามารถทำสัญญา/ก่อหนี้ผูกพันโครงการ/รายการใดได้ทันภายในไตรมาส 3 (30 มิถุนายน 2550) และไม่มีหนี้ค่าสาธารณูปโภค ให้พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ โดยนำเงินงบประมาณที่ได้จากการปรับแผนฯ ไปดำเนินการ ดังนี้
1) ดำเนินการตามสัญญา กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เช่น เงินชดเชยค่างานสิ่งก่อสร้างตามสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่า K) ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน การจ่ายค่างานตามปริมาณที่ทำจริงซึ่งสูงกว่าสัญญา เป็นต้น
2) ดำเนินโครงการ/รายการ ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่สามารถดำเนินการได้เร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้
3) ดำเนินโครงการ/รายการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนและต้องใช้จ่ายงบประมาณเกินกว่าที่ได้รับการจัดสรร เช่น ราคากลางหรือผลการประกวดราคาสูงกว่างบประมาณที่ได้รับ เป็นต้น
4) ดำเนิน โครงการ / รายการ ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนหรือเพิ่มรายได้ให้ประชาชน เช่น แก้ปัญหาภัยแล้ง แก้ปัญหาน้ำท่วม การจ้างงานในชนบท เป็นต้น
5) ดำเนิน โครงการ/รายการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนตามนโยบายรัฐบาล
6) ดำเนิน โครงการ/รายการที่ทำให้เพิ่มผลิตภาพผลผลิต (Productivity)
ทั้งนี้ โครงการ/รายการที่จะดำเนินการดังกล่าวจะต้องอยู่ในเงื่อนไข ดังนี้
- กรณีที่เป็นรายการเดิมที่ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ซึ่งไม่สามารถใช้จ่ายงบประมาณได้ตามแผนที่กำหนดไว้ในปีงบประมาณ พ.ศ.2550 ให้นำไปใช้ได้แต่เฉพาะในรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณอื่นๆ ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณไว้แล้ว และสามารถดำเนินการได้เร็วกว่าแผน หรือโครงการ/รายการ ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ ไม่เพียงพอ และมีความจำเป็นเร่งด่วนต้องจ่ายเงินตามสัญญาเป็นลำดับแรก ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรักษาวินัยทางการคลังและไม่เป็นภาระงบประมาณในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป
- กรณีที่เป็นโครงการ/รายการใหม่ จะต้องมีความพร้อมที่จะดำเนินการและสามารถก่อหนี้ผูกพันลงนามในสัญญาได้ ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2550 และต้องไม่เป็นโครงการ/รายการผูกพันข้ามปีงบประมาณ โดยสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2550
ทั้งนี้ ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจดำเนินการปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ตามนัยข้อ 1.4 เพื่อนำเสนอรัฐมนตรีเจ้าสังกัดพิจารณาให้ความเห็นชอบแล้วดำเนินการตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป
2. งบประมาณรายจ่ายงบกลาง งบประมาณรายจ่ายงบกลางรายการใดที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจได้รับการจัดสรรงบประมาณไปใช้จ่ายและบรรลุวัตถุประสงค์แล้วมีเงินเหลือให้นำส่งคืนคลังตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2548 หากมีความจำเป็นจะต้องนำไปใช้จ่ายในรายการอื่น ๆ ให้พิจารณาดำเนินการตามนัย ข้อ 1.4 ได้โดยอนุโลม แล้วขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณต่อไป
3. การใช้จ่ายงบประมาณที่ได้รับอนุมัติให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี หรืออยู่ระหว่างการขออนุมัติขยายระยะเวลาเบิกจ่ายเงินดังกล่าวออกไปอีก ให้ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจนำมาตรการ ข้อ 1 ข้างต้น มาใช้โดยอนุโลม
4. ให้สำนักงบประมาณติดตามและรายงานผลการปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณในไตรมาสที่ 3 ให้คณะรัฐมนตรีทราบภายในเดือนกรกฎาคม 2550
5. ให้สำนักงบประมาณนำผลการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 และเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปีของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจไปประกอบการพิจารณาจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ให้กับส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 10 เมษายน 2550--จบ--