คณะรัฐมนตรีรับทราบการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยด้านการเกษตรและอนุมัติหลักการแนวทางการให้ความช่วยเหลือ โดยให้พักชำระหนี้เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย เป็นระยะเวลา 3 ปี ตามวงเงินหนี้ 566,598,793 บาท และชดเชยดอกเบี้ยวงเงินปีละ 39,661,915 บาท โดยให้สำนักงบประมาณจัดงบประมาณชดเชยดอกเบี้ยและกระทรวงการคลังดำเนินการช่วยเหลือต่อไป ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
การช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเป็นเงิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับอนุมัติวงเงินช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน 6,305.75 ล้านบาท โดยเริ่มจ่ายตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2550 ข้อมูล ณ วันที่ 26 มกราคม 2550 รวมจ่ายเงินแล้วทั้งสิ้น 2,483.95 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ55 ของวงเงินที่ได้รับอนุมัติ และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 15 กุมภาพันธ์ 2550 แบ่งเป็น
ด้าน จ่ายแล้ว คงเหลือ
จังหวัด เกษตรกร วงเงิน จังหวัด เกษตรกร วงเงิน
(ราย) (บาท) (ราย) (บาท)
ด้านพืช 25 197,988 2,107,099,112.75 6 201,931 1,500,521,889.25
ด้านประมง 31 64,375 353,312,813.07 6 36,062 529,685,920.93
ด้านปศุสัตว์ 21 10,140 23,539,840.25 21 165 15,128,635.00
รวม 272,503 2,483,951,766.07 238,158 2,045,336,445.18
ทั้งนี้ การจ่ายเงินช่วยเหลือที่ผ่านมา ดำเนินการผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ให้เกษตรกรเป็นเงินสด สำหรับปี 2549 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กำหนดให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและ สหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ต้องจ่ายเงินช่วยเหลือเป็นเงินผ่านบัญชีของเกษตรกรเท่านั้น
ผลการตรวจพื้นที่การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยปี 2549
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้หารือกับสำนักนายกรัฐมนตรี ในการแบ่งมอบภารกิจการตรวจสอบพื้นที่เสียหาย โดยมอบหมายให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการตรวจสอบพื้นที่เสียหาย ก่อนมีการจ่ายเงินช่วยเหลือให้แก่เกษตรกรที่ประสบปัญหาอุทกภัย ใน 47 จังหวัด เพื่อให้เกิดความถูกต้อง ชัดเจน และสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพ และผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีดำเนินการตรวจสอบภายหลังการรับเงินว่าถูกต้องหรือไม่
จากการรายงานผลการตรวจสอบของผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เบื้องต้นพบว่า พื้นที่ส่วนใหญ่การสำรวจพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากปัญหาอุทกภัยปี 2549 เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ข้อระเบียบที่เกี่ยวข้อง และขั้นตอนปฏิบัติที่กำหนดไว้ถูกต้อง ไม่พบการร้องคัดค้านของเกษตรกร และคาดว่าหลายพื้นที่มีความพร้อมที่จ่ายเงินช่วยเหลือได้ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด ทั้งนี้ มีเพียงบางพื้นที่ที่พบความคลาดเคลื่อนของตัวเลขพื้นที่เสียหาย มีการร้องเรียนของเกษตรกรเพียงเล็กน้อย และบางพื้นที่การลงรายละเอียดในแบบฟอร์มต่างๆ ไม่ครบถ้วน สมบูรณ์ ประกอบกับยังมีเกษตรกรผู้ประสบภัยที่ตกสำรวจ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่ร่วมกับจังหวัดดำเนินการตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งเพื่อความถูกต้อง ชัดเจน และดำเนินการตามระเบียบก่อนจะจ่ายเงินช่วยเหลือให้เกษตรกรต่อไป
ผลการดำเนินงานช่วยเหลือผู้ประกอบการรายใหญ่ด้านการเกษตร
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แต่งตั้งคณะทำงาน จำนวน 3 คณะ คือ
1) คณะทำงานให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการรายใหญ่ด้านการเกษตรที่ประสบอุทกภัยปี 2549 ได้กำหนดแนวทางการช่วยเหลือ คือ ให้พักชำระหนี้อันเกิดจากการประกอบการเกษตร เป็นเวลา 3 ปี ให้สิทธิในการกู้เงินลงทุนในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 เป็นเวลา 3 ปี และให้ใช้หลักทรัพย์ที่ผู้ประกอบการเกษตรดำเนินการเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ โดยให้สถาบันการเงินผ่อนปรนเงื่อนไขในกรณีหลักทรัพย์ นั้น ยังใช้ค้ำประกันหนี้เดิม และได้เสนอคณะรัฐมนตรีทราบเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2550 แล้ว
2) คณะทำงานให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการรายใหญ่ด้านการเกษตรที่ประสบอุทกภัยปี 2549 ระดับจังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน เพื่อรับแจ้งความเสียหายและพิจารณากลั่นกรองเบื้องต้น ผ่านการพิจารณา จำนวน 518 ราย
3) คณะทำงานกลั่นกรองการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการรายใหญ่ด้านการเกษตรที่ประสบอุทกภัยปี 2549 ระดับกรม กำหนดเกณฑ์การพิจารณากลั่นกรอง ด้านพืช ปศุสัตว์ และประมง และรวบรวมเสนอคณะทำงานฯ ระดับกระทรวง ผ่านการพิจารณาตามเกณฑ์ที่กำหนด จำนวน 382 ราย มูลค่าความเสียหาย 820.47 ล้านบาท โดยผ่านความเห็นชอบของคณะอนุกรรมการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรแล้ว เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2550
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการรายใหญ่ 382 ราย ได้รับความช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว เป็นเงิน 12,197,600 บาท คิดเป็นร้อยละ 1.49 ของมูลค่าความเสียหาย ขณะนี้ ได้ส่งเรื่องให้คณะอนุกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่มีหนี้สินกับสถาบันการเงิน ที่มีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน เพื่อพิจารณาแล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 30 มกราคม 2550--จบ--
การช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเป็นเงิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับอนุมัติวงเงินช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน 6,305.75 ล้านบาท โดยเริ่มจ่ายตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2550 ข้อมูล ณ วันที่ 26 มกราคม 2550 รวมจ่ายเงินแล้วทั้งสิ้น 2,483.95 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ55 ของวงเงินที่ได้รับอนุมัติ และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 15 กุมภาพันธ์ 2550 แบ่งเป็น
ด้าน จ่ายแล้ว คงเหลือ
จังหวัด เกษตรกร วงเงิน จังหวัด เกษตรกร วงเงิน
(ราย) (บาท) (ราย) (บาท)
ด้านพืช 25 197,988 2,107,099,112.75 6 201,931 1,500,521,889.25
ด้านประมง 31 64,375 353,312,813.07 6 36,062 529,685,920.93
ด้านปศุสัตว์ 21 10,140 23,539,840.25 21 165 15,128,635.00
รวม 272,503 2,483,951,766.07 238,158 2,045,336,445.18
ทั้งนี้ การจ่ายเงินช่วยเหลือที่ผ่านมา ดำเนินการผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ให้เกษตรกรเป็นเงินสด สำหรับปี 2549 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กำหนดให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและ สหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ต้องจ่ายเงินช่วยเหลือเป็นเงินผ่านบัญชีของเกษตรกรเท่านั้น
ผลการตรวจพื้นที่การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยปี 2549
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้หารือกับสำนักนายกรัฐมนตรี ในการแบ่งมอบภารกิจการตรวจสอบพื้นที่เสียหาย โดยมอบหมายให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการตรวจสอบพื้นที่เสียหาย ก่อนมีการจ่ายเงินช่วยเหลือให้แก่เกษตรกรที่ประสบปัญหาอุทกภัย ใน 47 จังหวัด เพื่อให้เกิดความถูกต้อง ชัดเจน และสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพ และผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีดำเนินการตรวจสอบภายหลังการรับเงินว่าถูกต้องหรือไม่
จากการรายงานผลการตรวจสอบของผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เบื้องต้นพบว่า พื้นที่ส่วนใหญ่การสำรวจพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากปัญหาอุทกภัยปี 2549 เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ข้อระเบียบที่เกี่ยวข้อง และขั้นตอนปฏิบัติที่กำหนดไว้ถูกต้อง ไม่พบการร้องคัดค้านของเกษตรกร และคาดว่าหลายพื้นที่มีความพร้อมที่จ่ายเงินช่วยเหลือได้ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด ทั้งนี้ มีเพียงบางพื้นที่ที่พบความคลาดเคลื่อนของตัวเลขพื้นที่เสียหาย มีการร้องเรียนของเกษตรกรเพียงเล็กน้อย และบางพื้นที่การลงรายละเอียดในแบบฟอร์มต่างๆ ไม่ครบถ้วน สมบูรณ์ ประกอบกับยังมีเกษตรกรผู้ประสบภัยที่ตกสำรวจ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่ร่วมกับจังหวัดดำเนินการตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งเพื่อความถูกต้อง ชัดเจน และดำเนินการตามระเบียบก่อนจะจ่ายเงินช่วยเหลือให้เกษตรกรต่อไป
ผลการดำเนินงานช่วยเหลือผู้ประกอบการรายใหญ่ด้านการเกษตร
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แต่งตั้งคณะทำงาน จำนวน 3 คณะ คือ
1) คณะทำงานให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการรายใหญ่ด้านการเกษตรที่ประสบอุทกภัยปี 2549 ได้กำหนดแนวทางการช่วยเหลือ คือ ให้พักชำระหนี้อันเกิดจากการประกอบการเกษตร เป็นเวลา 3 ปี ให้สิทธิในการกู้เงินลงทุนในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 เป็นเวลา 3 ปี และให้ใช้หลักทรัพย์ที่ผู้ประกอบการเกษตรดำเนินการเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ โดยให้สถาบันการเงินผ่อนปรนเงื่อนไขในกรณีหลักทรัพย์ นั้น ยังใช้ค้ำประกันหนี้เดิม และได้เสนอคณะรัฐมนตรีทราบเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2550 แล้ว
2) คณะทำงานให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการรายใหญ่ด้านการเกษตรที่ประสบอุทกภัยปี 2549 ระดับจังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน เพื่อรับแจ้งความเสียหายและพิจารณากลั่นกรองเบื้องต้น ผ่านการพิจารณา จำนวน 518 ราย
3) คณะทำงานกลั่นกรองการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการรายใหญ่ด้านการเกษตรที่ประสบอุทกภัยปี 2549 ระดับกรม กำหนดเกณฑ์การพิจารณากลั่นกรอง ด้านพืช ปศุสัตว์ และประมง และรวบรวมเสนอคณะทำงานฯ ระดับกระทรวง ผ่านการพิจารณาตามเกณฑ์ที่กำหนด จำนวน 382 ราย มูลค่าความเสียหาย 820.47 ล้านบาท โดยผ่านความเห็นชอบของคณะอนุกรรมการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรแล้ว เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2550
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการรายใหญ่ 382 ราย ได้รับความช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว เป็นเงิน 12,197,600 บาท คิดเป็นร้อยละ 1.49 ของมูลค่าความเสียหาย ขณะนี้ ได้ส่งเรื่องให้คณะอนุกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่มีหนี้สินกับสถาบันการเงิน ที่มีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน เพื่อพิจารณาแล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 30 มกราคม 2550--จบ--