กรุงเทพ--24 เม.ย.--ศูนย์ข่าว ส.ส.ร.
คณะกรรมาธิการรับฟังความคิดเห็นและประชาพิจารณ์ สภาร่างรัฐธรรมนูญเสนอรายงานสรุปการประเมินผลรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ทั่วประเทศที่มีต่อร่างรัฐธรรมนูญต่อคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณายกร่างรัฐธรรมนูญ โดยร้อยละ 61.25 เห็นว่านายกรัฐมนตรีควรมาจากการเลือกตั้งโดยตรงและร้อยละ 44.30 เห็นว่านายกรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องเป็น ส.ส. และร้อยละ 32.37 เห็นว่าควรมาจาก ส.ส.
ส่วนประเด็นเรื่อง ส.ส. ควรเป็นรัฐมนตรีหรือไม่นั้น มีความเห็นก้ำกึ่งกัน โดยร้อยละ 40.64 เห็นด้วย ขณะที่ร้อยละ 41.88 ไม่เห็นด้วย
ในเรื่องวุฒิสมาชิกประชาชนส่วนใหญ่ ยังต้องการให้มีอยู่ต่อไป แต่เห็นว่าจะต้องมาจากการเลือกตั้งโดยตรง โดยเอาเขตจังหวัดเป็นเกณฑ์ถึงร้อยละ 56.10
สำหรับเรื่อง อื่น ๆ ที่สำคัญ คือ ประชาชนควรมีสิทธิในการลงชื่อเสนอต่อประธานสภา เพื่อขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีได้ และมีสิทธิในการลงคะแนนเสียงปลดสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภาที่ประพฤติไม่ชอบ
ในส่วนของเรื่องศาลนั้น ร้อยละ 60.20 เห็นด้วยที่จะให้ศาลปกครองเป็นองค์กรอิสระมีเพียงร้อยละ 26.91 ที่เห็นว่าศาลปกครองควรขึ้นอยู่กับศาลยุติธรรม--จบ--
คณะกรรมาธิการรับฟังความคิดเห็นและประชาพิจารณ์ สภาร่างรัฐธรรมนูญเสนอรายงานสรุปการประเมินผลรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ทั่วประเทศที่มีต่อร่างรัฐธรรมนูญต่อคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณายกร่างรัฐธรรมนูญ โดยร้อยละ 61.25 เห็นว่านายกรัฐมนตรีควรมาจากการเลือกตั้งโดยตรงและร้อยละ 44.30 เห็นว่านายกรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องเป็น ส.ส. และร้อยละ 32.37 เห็นว่าควรมาจาก ส.ส.
ส่วนประเด็นเรื่อง ส.ส. ควรเป็นรัฐมนตรีหรือไม่นั้น มีความเห็นก้ำกึ่งกัน โดยร้อยละ 40.64 เห็นด้วย ขณะที่ร้อยละ 41.88 ไม่เห็นด้วย
ในเรื่องวุฒิสมาชิกประชาชนส่วนใหญ่ ยังต้องการให้มีอยู่ต่อไป แต่เห็นว่าจะต้องมาจากการเลือกตั้งโดยตรง โดยเอาเขตจังหวัดเป็นเกณฑ์ถึงร้อยละ 56.10
สำหรับเรื่อง อื่น ๆ ที่สำคัญ คือ ประชาชนควรมีสิทธิในการลงชื่อเสนอต่อประธานสภา เพื่อขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีได้ และมีสิทธิในการลงคะแนนเสียงปลดสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภาที่ประพฤติไม่ชอบ
ในส่วนของเรื่องศาลนั้น ร้อยละ 60.20 เห็นด้วยที่จะให้ศาลปกครองเป็นองค์กรอิสระมีเพียงร้อยละ 26.91 ที่เห็นว่าศาลปกครองควรขึ้นอยู่กับศาลยุติธรรม--จบ--