รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฯ ฉบับปัจจุบัน ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฯ (วาระที่หนึ่ง) ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฯ (วาระที่สอง) บันทึกประเด็น ความเห็นและข้อสังเหตุ
หมวด ๖ หมวด ๖ หมวด ๖
รัฐสภา รัฐสภา รัฐสภา
-------- -------- --------
ส่วนที่ ๓ ส่วนที่ ๒ ส่วนที่ ๒
สภาผู้แทนราษฎร สภาผู้แทนราษฎร สภาผู้แทนราษฎร
------------ ------------ ------------
มาตรา ๑๐๙ บุคคลผู้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง มาตรา ๑๐๔ บุคคลผู้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง มาตรา ๑๐๕ บุคคลผู้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
(๑) มีสัญชาติไทย แต่บุคคลผู้มีสัญชาติไทย (๑) มีสัญชาติไทย แต่บุคคลผู้มีสัญชาติไทย (๑) มีสัญชาติไทย แต่บุคคลผู้มีสัญชาติไทย
โดยการแปลงสัญชาติต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่าสิบปี โดยการแปลงสัญชาติ ต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่าสิบปี โดยการแปลงสัญชาติ ต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปี
(๒) มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ในวันที่ (๒) มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ในวัน (๒) มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ในวัน
๑ มกราคม ของปีที่มีการเลือกตั้ง และ ที่ ๑ มกราคมของปีที่มีการเลือกตั้ง และ ที่ ๑ มกราคมของปีที่มีการเลือกตั้ง และ
(๓) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้ง (๓) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้ง (๓) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้ง
ผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งอยู่นอกจังหวัดที่ตนมีชื่อ มาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันนับถึงวันเลือกตั้ง
อยู่ในทะเบียนบ้าน ย่อมมีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง ตาม ผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งอยู่นอกเขตเลือกตั้งตาม
หลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๐๓ ที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน หรือมีชื่ออยู่
ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและ ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้งเป็นเวลาน้อยกว่าเก้าสิบ
สมาชิกวุฒิสภาบัญญัติ วันนับถึงวันเลือกตั้ง หรือมีถิ่นที่อยู่นอกราชอาณาจักร
ย่อมมีสิทธิออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้ง ทั้งนี้ ตามหลัก
เกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กฎหมายประกอบรัฐ
ธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและ
สมาชิกวุฒิสภาบัญญัติ
มาตรา ๑๑๐ บุคคลมีลักษณะดังต่อไปนี้ในวัน มาตรา ๑๐๕ บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ มาตรา ๑๐๖ บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้
เลือกตั้งเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้ง คือ ในวันเลือกตั้ง เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้ง คือ ในวันเลือกตั้ง เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้ง คือ
(๑) วิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือน ไม่สมประกอบ (๑) วิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ (๑) วิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
(๒) เป็นภิกษุ สามเณร นักพรตหรือนักบวช (๒) เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช (๒) เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช
(๓) ต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาลหรือโดย (๓) ต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาล หรือ (๓) ต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาลหรือโดย
คำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย โดยคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย คำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย
(๔) อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งโดยคำพิพากษา (๔) อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งโดยคำพิพากษา (๔) อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง
มาตรา ๑๑๑ บุคคลผู้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ มาตรา ๑๐๖ บุคคลผู้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ มาตรา ๑๐๗ บุคคลผู้มีคุณสมบัติดังต่อไป
เป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นี้ เป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
(๑) มีสัญชาติไทยโดยการเกิด แต่บุคคลผู้มี (๑) มีสัญชาติไทยโดยการเกิด (๑) มีสัญชาติไทยโดยการเกิด
สัญชาติไทยซึ่งบิดาเป็นคนต่างด้าว ต้องมีคุณสมบัติตาม (๒) มีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบห้าปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง (๒) มีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบห้าปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง
ที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้ (๓) เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการ (๓) สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี
แทนราษฎรอีกด้วย เมืองหนึ่งแต่เพียงพรรคเดียว หรือเทียบเท่า เว้นแต่เคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทน
(๒) มีอายุไม่ต่ำกว่า ยี่สิบห้าปีบริบูรณ์ ในวันเลือกตั้ง (๔) ผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภา
(๓) เป็นสมาชิกพรรคการเมืองที่ส่งสมาชิกเข้า ต้องมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ ด้วย (๔) เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการ
สมัครรับเลือกตั้งตามมาตรา ๑๑๒ หรือพรรคการเมือง (ก) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดที่ เมืองหนึ่งแต่เพียงพรรคเดียวนับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง
ตามมาตรา ๑๒๑ วรรคสอง พรรคการเมืองใดพรรคการ สมัครรับเลือกตั้งมาแล้วเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าเก้าสิบวัน
เมืองหนึ่งแต่พรรคเดียว หนึ่งปีนับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง (๕) ผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง
(๔) มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ (ข) เคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือ ต้องมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ด้วย คือ
(ก) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดที่ สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้ง หรือเคยเป็น (ก) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดที่
สมัครรับเลือกตั้งมาแล้ว เป็นเวลาติดต่อกัน ไม่น้อยกว่า สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่นในจังหวัดนั้น สมัครรับเลือกตั้งมาแล้วเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า
หนึ่งปีนับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง (ค) เป็นบุคคลซึ่งเกิดในจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้ง หนึ่งปีนับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง
(ข) เคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ง) เคยศึกษาในสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ใน (ข) เคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
จังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้ง หรือเคยเป็นสมาชิกสภาท้อง จังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า จังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้ง หรือเคยเป็นสมาชิกสภาท้อง
ถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นในจังหวัดนั้น สองปีการศึกษา ถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นในจังหวัดนั้น
(ค) เป็นบุคคลซึ่งเกิดในจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้ง (จ) เคยรับราชการหรือเคยมีชื่ออยู่ใน (ค) เป็นบุคคลซึ่งเกิดในจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้ง
(ง) เคยศึกษาในสถานศึกษาที่ ตั้งอยู่ใน ทะเบียนบ้านในจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติด (ง) เคยศึกษาในสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ใน
จังหวัด ที่สมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า ต่อกันไม่น้อยกว่าสองปี จังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อย
สองปีการศึกษา กว่าสองปีการศึกษา
(จ) เคยรับราชการ หรือเคยมีชื่ออยู่ใน (จ) เคยรับราชการหรือเคยมีชื่ออยู่ใน
ทะเบียนบ้านในจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้ง เป็นเวลาติด ทะเบียนบ้านในจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติด
ต่อกัน ไม่น้อยกว่าสองปี ต่อกันไม่น้อยกว่าสองปี
มาตรา ๑๑๒ ในการเลือกตั้งทั่วไป พรรคการ มาตรา ๑๐๗ ในการเลือกตั้งทั่วไป พรรค มาตรา ๑๐๘ พรรคการเมืองที่ส่งสมาชิก
เมืองที่สมาชิกจะเป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามมาตรา การเมืองที่ส่งสมาชิกเข้าเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งในการ เข้าเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต
๑๑๑ (๓) ได้ ต้องเป็นพรรคการเมืองที่ส่งสมาชิกเข้า เลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งใด จะส่งได้ เลือกตั้งในเขตเลือกตั้งใด จะส่งได้คนเดียวในเขตเลือกตั้งนั้น
สมัครรับเลือกตั้ง ทั้งหมดรวมกัน ไม่น้อยกว่าหนึ่งในสี่ คนเดียวในเขตเลือกตั้งนั้น
ของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อพรรคการเมืองใดส่งสมาชิกเข้าสมัครรับ
ทั้งหมด ที่จะพึงมีในการเลือกตั้งครั้งนั้นและในแต่ละเขต เลือกตั้งแล้ว พรรคการเมืองนั้น หรือผู้สมัครรับเลือกตั้ง
เลือกตั้งที่พรรคการเมืองดังกล่าวส่งสมาชิกเข้าสมัครรับ ของพรรคการเมืองนั้นจะถอนการสมัครรับเลือกตั้งมิได้
เลือกตั้ง พรรคการเมืองต้องส่งสมาชิกเข้าสมัครรับเลือก
ตั้ง ให้ครบจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่จะพึงมีได้
ในเขตเลือกตั้ง และจะส่งได้คณะเดียวในเขตเลือกตั้งหนึ่งเขต
เมื่อพรรคการเมืองใดส่งสมาชิกเข้าสมัครรับ
เลือกตั้งแล้ว พรรคการเมืองนั้นหรือผู้สมัครรับเลือกตั้ง
ของพรรคการเมืองนั้น จะถอนการสมัครรับเลือกตั้งมิได้
เมื่อพรรคการเมืองใดได้ส่งสมาชิกเข้าสมัครรับ
เลือกตั้งครบจำนวนตามวรรคหนึ่งแล้ว แม้ภายหลังจะ
ปรากฏว่าจำนวนผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคการเมือง
นั้นได้ลดลงไปจนไม่ครบจำนวนไม่ว่าเพราะเหตุ
ใด ๆ ก็ให้ถือว่าพรรคการเมืองนั้นส่งสมาชิกเข้าสมัครรับ
เลือกตั้งครบจำนวนตามวรรคหนึ่งแล้ว
มาตรา ๑๑๓ บุคคลที่มีลักษณะดังต่อไปนี้ มาตรา ๑๐๘ บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ มาตรา ๑๐๙ บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้
เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง คือ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น
(๑) ติดยาเสพติดให้โทษ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คือ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คือ
(๒) เป็นบุคคลล้มละลายซึ่งศาลยังไม่สั่งให้พ้นจากคดี (๑) ติดยาเสพติดให้โทษ (๑) ติดยาเสพติดให้โทษ
(๓) เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้ (๒) เป็นบุคคลล้มละลายซึ่งศาลยังไม่สั่งให้พ้นจากคดี (๒) เป็นบุคคลล้มละลายซึ่งศาลยังไม่สั่งให้พ้นจากคดี
สิทธิเลือกตั้งตามมาตรา ๑๑๐ (๑) (๒) หรือ (๔) (๓) เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้ (๓) เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้
(๔) เป็นบุคคลหูหนวกและเป็นใบ้ สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามมาตรา ๑๐๕(๑) (๒) หรือ (๔) สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามมาตรา
(๕) ต้องคำพิพากษาให้จำคุก และถูกคุมขัง (๔) ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขัง ๑๐๖ (๑)(๒) หรือ (๔)
อยู่โดยหมายของศาล อยู่โดยหมายของศาล (๔) ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขัง
(๖) เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกตั้งแต่สองปี (๕) เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกตั้งแต่สอง อยู่โดยหมายของศาล
ขึ้นไปโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึงห้าปีในวันเลือกตั้ง เว้น ปีขึ้นไปโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึงห้าปีในวันเลือกตั้ง (๕) เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกตั้งแต่สอง
แต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท ปีขึ้นไปโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึงห้าปีในวันเลือกตั้ง
(๗) เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจาก ๖) เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออก เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท
ราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริต จากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะ (๖) เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออก
ต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำการทุจริตและประพฤติมิชอบ ทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำการทุจริตและ จากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะ
ในวงราชการ ประพฤติมิชอบในวงราชการ ทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำการทุจริตและ
(๘) เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ (๗) เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาล ประพฤติมิชอบในวงราชการ
ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน เพราะร่ำรวยผิดปกติหรือมี ให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน เพราะร่ำรวยผิดปกติ (๗) เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาล
ทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ ให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติ
(๙) เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือน (๘) เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงิน หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ
ประจำนอกจากข้าราชการการเมือง เดือนประจำนอกจากข้าราชการการเมืองซึ่งสมัครรับ (๘) เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงิน
(๑๐) เป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหาร เลือกตั้งในการเลือกตั้งทั่วไป เดือนประจำนอกจากข้าราชการการเมือง
ท้องถิ่นหรือคณะผู้บริหารท้องถิ่น (๙) เป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (๙) เป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
(๑๑) เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงาน (๑๐) เป็นสมาชิกวุฒิสภา (๑๐) เป็นสมาชิกวุฒิสภา
ของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ หรือของราชการส่วนท้องถิ่น (๑๑) เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วย (๑๑) เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วย
(๑๒) เคยถูกวุฒิสภาหรือสภาผู้แทนราษฎรมี งานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ หรือของราชการส่วนท้อง งานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือของราชการส่วนท้อง
มติให้พ้นจากสมาชิกภาพตามมาตรา ๙๘ โดยยังไม่พ้น ถิ่น หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ถิ่น หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ
กำหนดสี่ปีนับแต่วุฒิสภา หรือสภาผู้แทนราษฎรมีมติ (๑๒) เป็นกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการ (๑๒) เป็นกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการ
จนถึงวันเลือกตั้ง แผ่นดินของรัฐสภา กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แผ่นดินของรัฐสภา กรรมการ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรรมการป้องกันและปราบ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลปกครอง กรรม
ปรามการทุจริตแห่งชาติ ตุลาการคดีอาญาของผู้ดำรง การป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ
ตำแหน่งทางการเมือง หรือกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน
(๑๓) อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรง (๑๓) อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรง
ตำแหน่งทางการเมืองตามมาตรา ๒๙๔ ตำแหน่งทางการเมืองตามมาตรา ๒๙๕
(๑๔) เคยถูกรัฐสภามีมติให้ถอดถอนออก (๑๔) เคยถูกวุฒิสภามีมติตามมาตรา ๓๐๗
จากตำแหน่งตามมาตรา ๓๐๕ และยังไม่พ้นกำหนดห้า ให้ถอดถอนออกจากตำแหน่ง และยังไม่พ้นกำหนดห้า
ปีนับแต่วันที่รัฐสภามีมติจนถึงวันเลือกตั้ง ปีนับแต่วันที่วุฒิสภามีมติจนถึงวันเลือกตั้ง
(ต่อ)
หมวด ๖ หมวด ๖ หมวด ๖
รัฐสภา รัฐสภา รัฐสภา
-------- -------- --------
ส่วนที่ ๓ ส่วนที่ ๒ ส่วนที่ ๒
สภาผู้แทนราษฎร สภาผู้แทนราษฎร สภาผู้แทนราษฎร
------------ ------------ ------------
มาตรา ๑๐๙ บุคคลผู้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง มาตรา ๑๐๔ บุคคลผู้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง มาตรา ๑๐๕ บุคคลผู้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
(๑) มีสัญชาติไทย แต่บุคคลผู้มีสัญชาติไทย (๑) มีสัญชาติไทย แต่บุคคลผู้มีสัญชาติไทย (๑) มีสัญชาติไทย แต่บุคคลผู้มีสัญชาติไทย
โดยการแปลงสัญชาติต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่าสิบปี โดยการแปลงสัญชาติ ต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่าสิบปี โดยการแปลงสัญชาติ ต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปี
(๒) มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ในวันที่ (๒) มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ในวัน (๒) มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ในวัน
๑ มกราคม ของปีที่มีการเลือกตั้ง และ ที่ ๑ มกราคมของปีที่มีการเลือกตั้ง และ ที่ ๑ มกราคมของปีที่มีการเลือกตั้ง และ
(๓) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้ง (๓) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้ง (๓) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้ง
ผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งอยู่นอกจังหวัดที่ตนมีชื่อ มาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันนับถึงวันเลือกตั้ง
อยู่ในทะเบียนบ้าน ย่อมมีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง ตาม ผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งอยู่นอกเขตเลือกตั้งตาม
หลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๐๓ ที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน หรือมีชื่ออยู่
ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและ ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้งเป็นเวลาน้อยกว่าเก้าสิบ
สมาชิกวุฒิสภาบัญญัติ วันนับถึงวันเลือกตั้ง หรือมีถิ่นที่อยู่นอกราชอาณาจักร
ย่อมมีสิทธิออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้ง ทั้งนี้ ตามหลัก
เกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กฎหมายประกอบรัฐ
ธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและ
สมาชิกวุฒิสภาบัญญัติ
มาตรา ๑๑๐ บุคคลมีลักษณะดังต่อไปนี้ในวัน มาตรา ๑๐๕ บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ มาตรา ๑๐๖ บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้
เลือกตั้งเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้ง คือ ในวันเลือกตั้ง เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้ง คือ ในวันเลือกตั้ง เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้ง คือ
(๑) วิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือน ไม่สมประกอบ (๑) วิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ (๑) วิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
(๒) เป็นภิกษุ สามเณร นักพรตหรือนักบวช (๒) เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช (๒) เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช
(๓) ต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาลหรือโดย (๓) ต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาล หรือ (๓) ต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาลหรือโดย
คำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย โดยคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย คำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย
(๔) อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งโดยคำพิพากษา (๔) อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งโดยคำพิพากษา (๔) อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง
มาตรา ๑๑๑ บุคคลผู้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ มาตรา ๑๐๖ บุคคลผู้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ มาตรา ๑๐๗ บุคคลผู้มีคุณสมบัติดังต่อไป
เป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นี้ เป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
(๑) มีสัญชาติไทยโดยการเกิด แต่บุคคลผู้มี (๑) มีสัญชาติไทยโดยการเกิด (๑) มีสัญชาติไทยโดยการเกิด
สัญชาติไทยซึ่งบิดาเป็นคนต่างด้าว ต้องมีคุณสมบัติตาม (๒) มีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบห้าปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง (๒) มีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบห้าปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง
ที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้ (๓) เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการ (๓) สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี
แทนราษฎรอีกด้วย เมืองหนึ่งแต่เพียงพรรคเดียว หรือเทียบเท่า เว้นแต่เคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทน
(๒) มีอายุไม่ต่ำกว่า ยี่สิบห้าปีบริบูรณ์ ในวันเลือกตั้ง (๔) ผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภา
(๓) เป็นสมาชิกพรรคการเมืองที่ส่งสมาชิกเข้า ต้องมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ ด้วย (๔) เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการ
สมัครรับเลือกตั้งตามมาตรา ๑๑๒ หรือพรรคการเมือง (ก) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดที่ เมืองหนึ่งแต่เพียงพรรคเดียวนับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง
ตามมาตรา ๑๒๑ วรรคสอง พรรคการเมืองใดพรรคการ สมัครรับเลือกตั้งมาแล้วเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าเก้าสิบวัน
เมืองหนึ่งแต่พรรคเดียว หนึ่งปีนับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง (๕) ผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง
(๔) มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ (ข) เคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือ ต้องมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ด้วย คือ
(ก) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดที่ สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้ง หรือเคยเป็น (ก) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดที่
สมัครรับเลือกตั้งมาแล้ว เป็นเวลาติดต่อกัน ไม่น้อยกว่า สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่นในจังหวัดนั้น สมัครรับเลือกตั้งมาแล้วเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า
หนึ่งปีนับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง (ค) เป็นบุคคลซึ่งเกิดในจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้ง หนึ่งปีนับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง
(ข) เคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ง) เคยศึกษาในสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ใน (ข) เคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
จังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้ง หรือเคยเป็นสมาชิกสภาท้อง จังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า จังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้ง หรือเคยเป็นสมาชิกสภาท้อง
ถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นในจังหวัดนั้น สองปีการศึกษา ถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นในจังหวัดนั้น
(ค) เป็นบุคคลซึ่งเกิดในจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้ง (จ) เคยรับราชการหรือเคยมีชื่ออยู่ใน (ค) เป็นบุคคลซึ่งเกิดในจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้ง
(ง) เคยศึกษาในสถานศึกษาที่ ตั้งอยู่ใน ทะเบียนบ้านในจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติด (ง) เคยศึกษาในสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ใน
จังหวัด ที่สมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า ต่อกันไม่น้อยกว่าสองปี จังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อย
สองปีการศึกษา กว่าสองปีการศึกษา
(จ) เคยรับราชการ หรือเคยมีชื่ออยู่ใน (จ) เคยรับราชการหรือเคยมีชื่ออยู่ใน
ทะเบียนบ้านในจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้ง เป็นเวลาติด ทะเบียนบ้านในจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติด
ต่อกัน ไม่น้อยกว่าสองปี ต่อกันไม่น้อยกว่าสองปี
มาตรา ๑๑๒ ในการเลือกตั้งทั่วไป พรรคการ มาตรา ๑๐๗ ในการเลือกตั้งทั่วไป พรรค มาตรา ๑๐๘ พรรคการเมืองที่ส่งสมาชิก
เมืองที่สมาชิกจะเป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามมาตรา การเมืองที่ส่งสมาชิกเข้าเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งในการ เข้าเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต
๑๑๑ (๓) ได้ ต้องเป็นพรรคการเมืองที่ส่งสมาชิกเข้า เลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งใด จะส่งได้ เลือกตั้งในเขตเลือกตั้งใด จะส่งได้คนเดียวในเขตเลือกตั้งนั้น
สมัครรับเลือกตั้ง ทั้งหมดรวมกัน ไม่น้อยกว่าหนึ่งในสี่ คนเดียวในเขตเลือกตั้งนั้น
ของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อพรรคการเมืองใดส่งสมาชิกเข้าสมัครรับ
ทั้งหมด ที่จะพึงมีในการเลือกตั้งครั้งนั้นและในแต่ละเขต เลือกตั้งแล้ว พรรคการเมืองนั้น หรือผู้สมัครรับเลือกตั้ง
เลือกตั้งที่พรรคการเมืองดังกล่าวส่งสมาชิกเข้าสมัครรับ ของพรรคการเมืองนั้นจะถอนการสมัครรับเลือกตั้งมิได้
เลือกตั้ง พรรคการเมืองต้องส่งสมาชิกเข้าสมัครรับเลือก
ตั้ง ให้ครบจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่จะพึงมีได้
ในเขตเลือกตั้ง และจะส่งได้คณะเดียวในเขตเลือกตั้งหนึ่งเขต
เมื่อพรรคการเมืองใดส่งสมาชิกเข้าสมัครรับ
เลือกตั้งแล้ว พรรคการเมืองนั้นหรือผู้สมัครรับเลือกตั้ง
ของพรรคการเมืองนั้น จะถอนการสมัครรับเลือกตั้งมิได้
เมื่อพรรคการเมืองใดได้ส่งสมาชิกเข้าสมัครรับ
เลือกตั้งครบจำนวนตามวรรคหนึ่งแล้ว แม้ภายหลังจะ
ปรากฏว่าจำนวนผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคการเมือง
นั้นได้ลดลงไปจนไม่ครบจำนวนไม่ว่าเพราะเหตุ
ใด ๆ ก็ให้ถือว่าพรรคการเมืองนั้นส่งสมาชิกเข้าสมัครรับ
เลือกตั้งครบจำนวนตามวรรคหนึ่งแล้ว
มาตรา ๑๑๓ บุคคลที่มีลักษณะดังต่อไปนี้ มาตรา ๑๐๘ บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ มาตรา ๑๐๙ บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้
เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง คือ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น
(๑) ติดยาเสพติดให้โทษ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คือ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คือ
(๒) เป็นบุคคลล้มละลายซึ่งศาลยังไม่สั่งให้พ้นจากคดี (๑) ติดยาเสพติดให้โทษ (๑) ติดยาเสพติดให้โทษ
(๓) เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้ (๒) เป็นบุคคลล้มละลายซึ่งศาลยังไม่สั่งให้พ้นจากคดี (๒) เป็นบุคคลล้มละลายซึ่งศาลยังไม่สั่งให้พ้นจากคดี
สิทธิเลือกตั้งตามมาตรา ๑๑๐ (๑) (๒) หรือ (๔) (๓) เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้ (๓) เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้
(๔) เป็นบุคคลหูหนวกและเป็นใบ้ สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามมาตรา ๑๐๕(๑) (๒) หรือ (๔) สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามมาตรา
(๕) ต้องคำพิพากษาให้จำคุก และถูกคุมขัง (๔) ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขัง ๑๐๖ (๑)(๒) หรือ (๔)
อยู่โดยหมายของศาล อยู่โดยหมายของศาล (๔) ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขัง
(๖) เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกตั้งแต่สองปี (๕) เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกตั้งแต่สอง อยู่โดยหมายของศาล
ขึ้นไปโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึงห้าปีในวันเลือกตั้ง เว้น ปีขึ้นไปโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึงห้าปีในวันเลือกตั้ง (๕) เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกตั้งแต่สอง
แต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท ปีขึ้นไปโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึงห้าปีในวันเลือกตั้ง
(๗) เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจาก ๖) เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออก เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท
ราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริต จากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะ (๖) เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออก
ต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำการทุจริตและประพฤติมิชอบ ทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำการทุจริตและ จากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะ
ในวงราชการ ประพฤติมิชอบในวงราชการ ทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำการทุจริตและ
(๘) เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ (๗) เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาล ประพฤติมิชอบในวงราชการ
ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน เพราะร่ำรวยผิดปกติหรือมี ให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน เพราะร่ำรวยผิดปกติ (๗) เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาล
ทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ ให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติ
(๙) เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือน (๘) เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงิน หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ
ประจำนอกจากข้าราชการการเมือง เดือนประจำนอกจากข้าราชการการเมืองซึ่งสมัครรับ (๘) เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงิน
(๑๐) เป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหาร เลือกตั้งในการเลือกตั้งทั่วไป เดือนประจำนอกจากข้าราชการการเมือง
ท้องถิ่นหรือคณะผู้บริหารท้องถิ่น (๙) เป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (๙) เป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
(๑๑) เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงาน (๑๐) เป็นสมาชิกวุฒิสภา (๑๐) เป็นสมาชิกวุฒิสภา
ของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ หรือของราชการส่วนท้องถิ่น (๑๑) เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วย (๑๑) เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วย
(๑๒) เคยถูกวุฒิสภาหรือสภาผู้แทนราษฎรมี งานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ หรือของราชการส่วนท้อง งานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือของราชการส่วนท้อง
มติให้พ้นจากสมาชิกภาพตามมาตรา ๙๘ โดยยังไม่พ้น ถิ่น หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ถิ่น หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ
กำหนดสี่ปีนับแต่วุฒิสภา หรือสภาผู้แทนราษฎรมีมติ (๑๒) เป็นกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการ (๑๒) เป็นกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการ
จนถึงวันเลือกตั้ง แผ่นดินของรัฐสภา กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แผ่นดินของรัฐสภา กรรมการ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรรมการป้องกันและปราบ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลปกครอง กรรม
ปรามการทุจริตแห่งชาติ ตุลาการคดีอาญาของผู้ดำรง การป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ
ตำแหน่งทางการเมือง หรือกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน
(๑๓) อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรง (๑๓) อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรง
ตำแหน่งทางการเมืองตามมาตรา ๒๙๔ ตำแหน่งทางการเมืองตามมาตรา ๒๙๕
(๑๔) เคยถูกรัฐสภามีมติให้ถอดถอนออก (๑๔) เคยถูกวุฒิสภามีมติตามมาตรา ๓๐๗
จากตำแหน่งตามมาตรา ๓๐๕ และยังไม่พ้นกำหนดห้า ให้ถอดถอนออกจากตำแหน่ง และยังไม่พ้นกำหนดห้า
ปีนับแต่วันที่รัฐสภามีมติจนถึงวันเลือกตั้ง ปีนับแต่วันที่วุฒิสภามีมติจนถึงวันเลือกตั้ง
(ต่อ)