กรุงเทพ--17 เม.ย.--ศูนย์ข่าว ส.ส.ร.
นายคณิณ บุญสุวรรณ ส.ส.ร.ชลบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญรับฟังความคิดเห็นและประชาสัมพันธ์ ประจำจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า หลังจากสรุปและประมวลความคิดเห็นในการร่างรัฐธรรมนูญและส่งแบบสอบถามไปยังประชาชน จำนวน 60,00 ฉบับ ได้รับการตอบรับ 9,250 ฉบับ และจากการออกไปเปิดเวทีประชาพิจารณ์ เพื่อถามความเห็นประชาชนอีก 53 ครั้ง ปรากฎว่ามีประเด็นที่ประชาชนเห็นด้วยมากมาย โดยเฉพาะในเรื่องคุณสมบัตินายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ว่าควรจะจบการศึกษาในระดับปริญญาตรีถึงร้อยละ 93.9 และเห็นควรให้ผู้ดำรงตำแหน่ง ส.ส. หรือรัฐมนตรี ควรแสดงทรัพย์สินต่อสาธารณชน โดยที่องค์การตรวจสอบการทุจริตอย่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แบะประพฤติมิชอบในวงราชการ ควรเป็นองค์กรอิสระ ไม่ขึ้นกับฝ่ายใด และยังเรียกร้องให้ประชาชนมีสิทธิในการรวมตัวกันทางการเมืองถึงร้อยละ 90.7
นายคณิณ เปิดเผยด้วยว่า ชาวชลบุรีที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ร้อยละ 67.3 เสนอให้การเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของพลเมือง ร้อยละ 35.5 เสนอให้ใช้แบบแบ่งเขตเรียงเบอร์แต่ไม่ห้าม ส.ส. ที่เป็นรัฐมนตรีจะต้องลาออกจากการเป็น ส.ส. และร้อยละ 40.1 เห็นว่าวุฒิสมาชิกควรจะมาจากการเลือกตั้งโดยตรง เช่นเดียวกับความเห็นเรื่องนายกรัฐมนตรีควรมาจากการเลือกตั้งโดยตรงร้อยละ 54.4
สำหรับความเห็นในเรื่องชุมชนนั้น ส.ส.ร.ชลบุรี เปิดเผยว่า ผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 86.8 เห็นว่าควรตั้งสภาเกษตรแห่งชาติ ร้อยละ 81 เสนอว่า ควรกำหนดเขตป่าสงวนให้ชัดเจนเสียใหม่ และร้อยละ 57.3 ยังอยากให้มีการออกกฎหมายปฎิรูปที่ดินทำกิน หรือ สปก. 4 - 01 ต่อไป ร้อยละ 88.4 เสนอให้ประชาชนมีสิทธิเลือกตั้งผู้บริหาร และสภาท้องถิ่นทุกระดับ รวมถึงขอให้โอนงบพัฒนาจังหวัดของ ส.ส. ไปให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ส่วนสิทธิของประชาชนในกระบวนการยุติธรรมนั้น ส.ส.ร. จังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ชาวชลบุรีร้อยละ 78.3 เห็นว่าผู้ต้องหาในคดีอาญาควรมีสิทธิให้ทนายความเข้าร่วมฟังการสอบปากคำ และระหว่างสมัยประชุมสมาชิกรัฐสภาถูกดำเนินคดีอาญาไม่ควรมีเอกสิทธิคุ้มครอง และที่สำคัญศาลปกครองควรเป็นอิสระไม่ขึ้นกับฝ่ายใด
นอกจากนี้ชาวชลบุรียังเสนอให้มีสภาสื่อมวลชน เพื่อควบคุมกำกับดูแลจรรยาบรรณของสื่อมวลชนขณะเดียวกันก็เห็นว่าสื่อมวลชนทุกแขนง ควรมีอิสระในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร--จบ--
นายคณิณ บุญสุวรรณ ส.ส.ร.ชลบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญรับฟังความคิดเห็นและประชาสัมพันธ์ ประจำจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า หลังจากสรุปและประมวลความคิดเห็นในการร่างรัฐธรรมนูญและส่งแบบสอบถามไปยังประชาชน จำนวน 60,00 ฉบับ ได้รับการตอบรับ 9,250 ฉบับ และจากการออกไปเปิดเวทีประชาพิจารณ์ เพื่อถามความเห็นประชาชนอีก 53 ครั้ง ปรากฎว่ามีประเด็นที่ประชาชนเห็นด้วยมากมาย โดยเฉพาะในเรื่องคุณสมบัตินายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ว่าควรจะจบการศึกษาในระดับปริญญาตรีถึงร้อยละ 93.9 และเห็นควรให้ผู้ดำรงตำแหน่ง ส.ส. หรือรัฐมนตรี ควรแสดงทรัพย์สินต่อสาธารณชน โดยที่องค์การตรวจสอบการทุจริตอย่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แบะประพฤติมิชอบในวงราชการ ควรเป็นองค์กรอิสระ ไม่ขึ้นกับฝ่ายใด และยังเรียกร้องให้ประชาชนมีสิทธิในการรวมตัวกันทางการเมืองถึงร้อยละ 90.7
นายคณิณ เปิดเผยด้วยว่า ชาวชลบุรีที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ร้อยละ 67.3 เสนอให้การเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของพลเมือง ร้อยละ 35.5 เสนอให้ใช้แบบแบ่งเขตเรียงเบอร์แต่ไม่ห้าม ส.ส. ที่เป็นรัฐมนตรีจะต้องลาออกจากการเป็น ส.ส. และร้อยละ 40.1 เห็นว่าวุฒิสมาชิกควรจะมาจากการเลือกตั้งโดยตรง เช่นเดียวกับความเห็นเรื่องนายกรัฐมนตรีควรมาจากการเลือกตั้งโดยตรงร้อยละ 54.4
สำหรับความเห็นในเรื่องชุมชนนั้น ส.ส.ร.ชลบุรี เปิดเผยว่า ผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 86.8 เห็นว่าควรตั้งสภาเกษตรแห่งชาติ ร้อยละ 81 เสนอว่า ควรกำหนดเขตป่าสงวนให้ชัดเจนเสียใหม่ และร้อยละ 57.3 ยังอยากให้มีการออกกฎหมายปฎิรูปที่ดินทำกิน หรือ สปก. 4 - 01 ต่อไป ร้อยละ 88.4 เสนอให้ประชาชนมีสิทธิเลือกตั้งผู้บริหาร และสภาท้องถิ่นทุกระดับ รวมถึงขอให้โอนงบพัฒนาจังหวัดของ ส.ส. ไปให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ส่วนสิทธิของประชาชนในกระบวนการยุติธรรมนั้น ส.ส.ร. จังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ชาวชลบุรีร้อยละ 78.3 เห็นว่าผู้ต้องหาในคดีอาญาควรมีสิทธิให้ทนายความเข้าร่วมฟังการสอบปากคำ และระหว่างสมัยประชุมสมาชิกรัฐสภาถูกดำเนินคดีอาญาไม่ควรมีเอกสิทธิคุ้มครอง และที่สำคัญศาลปกครองควรเป็นอิสระไม่ขึ้นกับฝ่ายใด
นอกจากนี้ชาวชลบุรียังเสนอให้มีสภาสื่อมวลชน เพื่อควบคุมกำกับดูแลจรรยาบรรณของสื่อมวลชนขณะเดียวกันก็เห็นว่าสื่อมวลชนทุกแขนง ควรมีอิสระในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร--จบ--