รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฯ ฉบับปัจจุบัน ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฯ (วาระที่หนึ่ง) ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฯ (วาระที่สอง) บันทึกประเด็น ความเห็นและข้อสังเหตุ
หมวด ๖ หมวด ๖ หมวด ๖
รัฐสภา รัฐสภา รัฐสภา
-------- -------- --------
ส่วนที่ ๓ ส่วนที่ ๒ ส่วนที่ ๒
สภาผู้แทนราษฎร สภาผู้แทนราษฎร สภาผู้แทนราษฎร
------------ ------------ ------------
มาตรา ๑๑๒ เพื่อให้การเลือกตั้งสมาชิก มาตรา ๑๑๓ เพื่อให้การเลือกตั้งสมาชิก
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นไปด้วยความสุจริตและ สภาผู้แทนราษฎรเป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยง
เที่ยงธรรม ให้รัฐสนับสนุนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้ ธรรม ให้รัฐสนับสนุนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน
แทนราษฎรในเรื่องดังต่อไปนี้ ราษฎรในเรื่องดังต่อไปนี้
(๑) จัดที่ปิดประกาศและแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง (๑) จัดที่ปิดประกาศและที่ติดแผ่นป้ายเกี่ยว
(๒) พิมพ์และจัดส่งเอกสารเกี่ยวกับการ กับการเลือกตั้งในสาธารณสถานซึ่งเป็นของรัฐ
เลือกตั้งไปให้ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง (๒) พิมพ์และจัดส่งเอกสารเกี่ยวกับการ
(๓) จัดหาสถานที่หาเสียงเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง เลือกตั้งไปให้ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง
(๔) จัดสรรเวลาออกอากาศทางวิทยุกระจาย (๓) จัดหาสถานที่หาเสียงเลือกตั้งให้แก่ผู้
เสียงและวิทยุโทรทัศน์ให้แก่พรรคการเมือง สมัครรับเลือกตั้ง
(๕) กิจการอื่นที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (๔) จัดสรรเวลาออกอากาศทางวิทยุกระจาย
ประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีดำเนินการ เสียงและวิทยุโทรทัศน์ให้แก่พรรคการเมือง
ตามมาตรานี้ ให้เป็นไปตามกฎหมายประกอบ (๕) กิจการอื่นที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศกำหนด
รัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสมาชิกสภาผู้แทน การดำเนินการตาม (๑)(๔) และ (๕) โดยผู้
ราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งต้องให้โอกาสโดยเท่าเทียมกัน สมัครรับเลือกตั้ง พรรคการเมือง หรือบุคคลอื่นนอก
การดำเนินการตามมาตรานี้โดยผู้สมัครรับ จากรัฐ จะกระทำมิได้
เลือกตั้ง พรรคการเมือง หรือบุคคลอื่นนอกจากรัฐ จะกระทำมิได้ หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการดำเนินการ
ตามมาตรานี้ ให้เป็นไปตามกฎหมายประกอบ
รัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
และสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งต้องให้โอกาสโดยเท่าเทียมกัน
มาตรา ๑๑๖ อายุของสภาผู้แทนราษฎรมี มาตรา ๑๑๓ อายุของสภาผู้แทนราษฎรมี มาตรา ๑๑๔ อายุของสภาผู้แทนราษฎรมี
กำหนดคราวละสี่ปีนับแต่วันเลือกตั้ง กำหนดคราวละสี่ปีนับแต่วันเลือกตั้ง กำหนดคราวละสี่ปีนับแต่วันเลือกตั้ง
มาตรา ๑๑๗ เมื่ออายุของสภาผู้แทนราษฎร มาตรา ๑๑๔ เมื่ออายุของสภาผู้แทนราษฎร มาตรา ๑๑๕ เมื่ออายุของสภาผู้แทน
สิ้นสุดลง พระมหากษัตริย์จะได้ทรงตราพระราชกฤษฎีกา สิ้นสุดลง พระมหากษัตริย์จะได้ทรงตราพระราช ราษฎรสิ้นสุดลง พระมหากษัตริย์จะได้ทรงตราพระราช
ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่เป็นการ กฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่ กฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่
เลือกตั้งทั่วไป ซึ่งต้องกำหนดวันเลือกตั้ง ภายในภายในสี่ เป็นการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งต้องกำหนดวันเลือกตั้งภายใน เป็นการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งต้องกำหนดวันเลือกตั้งภาย
สิบห้าวันนับแต่วันที่อายุของสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง สามสิบวันนับแต่วันที่อายุของสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง ในสี่สิบห้าวันนับแต่วันที่อายุของสภาผู้แทนราษฎรสิ้น
และวันเลือกตั้งนั้นต้องกำหนดวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร และวันเลือกตั้งนั้นต้องกำหนดเป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร สุดลง และวันเลือกตั้งนั้นต้องกำหนดเป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร
มาตรา ๑๑๘ พระมหากษัตริย์ ทรงไว้ซึ่ง มาตรา ๑๑๕ พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่ง มาตรา ๑๑๖ พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่ง
พระราชอำนาจที่จะยุบสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้มีการ พระราชอำนาจในการตราพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้ พระราชอำนาจที่จะยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้มีการ
เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่ แทนราษฎรเพื่อให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่ เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่
การยุบสภาผู้แทนราษฎร ให้กระทำโดย ให้นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะ การยุบสภาผู้แทนราษฎรให้กระทำโดยพระ
พระราชกฤษฎีกา ซึ่งต้องกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภา รัฐมนตรีเป็นผู้นำร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทน ราชกฤษฎีกา ซึ่งต้องกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้
ผู้แทนราษฎรใหม่ เป็นการเลือกตั้งทั่วไปภายใน ราษฎรขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย แทนราษฎรใหม่เป็นการเลือกตั้งทั่วไปภายในหกสิบวัน
หกสิบวัน และวันเลือกตั้งนั้นต้องกำหนดวันเดียวกัน พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรต้อง และวันเลือกตั้งนั้นต้องกำหนดเป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร
ทั่วราชอาณาจักร กำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่เป็น การยุบสภาผู้แทนราษฎรจะกระทำได้เพียง
การยุบสภาผู้แทนราษฎรจะกระทำได้เพียงครั้ง การเลือกตั้งทั่วไปภายในสี่สิบห้าวัน และวันเลือกตั้ง ครั้งเดียวในเหตุการณ์เดียวกัน
เดียวในเหตุการณ์เดียวกัน นั้นต้องกำหนดเป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร
การยุบสภาผู้แทนราษฎรจะกระทำได้เพียง
ครั้งเดียวในเหตุการณ์เดียวกัน
มาตรา ๑๑๙ สมาชิกภาพของสมาชิกสภา มาตรา ๑๑๖ สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้ มาตรา ๑๑๗ สมาชิกภาพของสมาชิกสภา
ผู้แทนราษฎรเริ่มตั้งแต่วันเลือกตั้ง แทนราษฎรเริ่มตั้งแต่วันเลือกตั้ง ผู้แทนราษฎรเริ่มตั้งแต่วันเลือกตั้ง
มาตรา ๑๒๐ สมาชิกภาพของสมาชิกสภา มาตรา ๑๑๗ สมาชิกภาพของสมาชิกสภา มาตรา ๑๑๘ สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้
ผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลงเมื่อ ผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง เมื่อ แทนราษฎรสิ้นสุดลง เมื่อ
(๑) ถึงคราวออกตามอายุของสภาผู้แทน (๑) ถึงคราวออกตามอายุของสภาผู้แทน (๑) ถึงคราวออกตามอายุของสภาผู้แทน
ราษฎรหรือมีการยุบสภาผู้แทนราษฎร ราษฎร หรือมีการยุบสภาผู้แทนราษฎร ราษฎร หรือมีการยุบสภาผู้แทนราษฎร
(๒) ตาย (๒) ตาย (๒) ตาย
(๓) ลาออก (๓) ลาออก (๓) ลาออก
(๔) ขาดคุณสมบัติตามมาตรา ๑๑๑ (๑) (๒) หรือ (๔) (๔) ขาดคุณสมบัติตามมาตรา ๑๐๖(๑)(๒) หรือ (๔) (๔) ขาดคุณสมบัติตามมาตรา ๑๐๗
(๕) มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๑๓ (๑) (๕) มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๐๘(๑) (๕) มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๐๙
(๒) (๓) (๔) (๗) (๘) (๙) (๑๐) (๑๑)หรือ (๑๒) (๒)(๓)(๖)(๗)(๘)(๙)(๑๐) (๑๑)(๑๒)(๑๓) หรือ (๑๔) (๑)(๒)(๓)(๕)(๖)(๗) (๘)(๙) (๑๐)(๑๑)(๑๒)(๑๓) หรือ (๑๔)
(๖) กระทำการอันต้องห้ามตามมาตรา ๑๑๔ (๖) กระทำการอันต้องห้ามตามมาตรา ๑๐๙ หรือมาตรา ๑๑๐ (๖) กระทำการอันต้องห้ามตามมาตรา ๑๑๐
(๗) ลาออกจากพรรคการเมืองที่ตนเป็น (๗) ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี รัฐ หรือมาตรา ๑๑๑
สมาชิก หรือพรรคการเมืองที่ตนเป็นสมาชิก มีมติด้วย มนตรี หรือข้าราชการการเมืองอื่น (๗) ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรี
คะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ ของที่ประชุมร่วมของ (๘) ลาออกจากพรรคการเมืองที่ตนเป็น (๘) ลาออกจากพรรคการเมืองที่ตนเป็น
คณะกรรมการบริหารของพรรคการเมือง และสมาชิก สมาชิก หรือพรรคการเมืองที่ตนเป็นสมาชิกมีมติด้วย สมาชิก หรือพรรคการเมืองที่ตนเป็นสมาชิกมีมติด้วย
สภาผู้แทนราษฎรที่สังกัดพรรคการเมืองนั้น ให้พ้นจาก คะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของที่ประชุมร่วมของ คะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของที่ประชุมร่วมของ
การเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองที่ตนเป็นสมาชิก คณะกรรมการบริหารของพรรคการเมืองและสมาชิก คณะกรรมการบริหารของพรรคการเมืองและสมาชิก
ในกรณีเช่นนี้ให้ถือว่าขาดจากสมาชิกภาพ นับแต่วันที่ลา สภาผู้แทนราษฎรที่สังกัดพรรคการเมืองนั้น ให้พ้นจาก สภาผู้แทนราษฎรที่สังกัดพรรคการเมืองนั้น ให้พ้นจาก
ออกหรือพรรคการเมืองมีมติ การเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองที่ตนเป็นสมาชิก ใน การเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองที่ตนเป็นสมาชิก ใน
(๘) สภาผู้แทนราษฎรมีมติให้พ้นจากสมาชิก กรณีเช่นนี้ให้ถือว่าสิ้นสุดสมาชิกภาพนับแต่วันที่ลาออก กรณีเช่นนี้ให้ถือว่าสิ้นสุดสมาชิกภาพนับแต่วันที่ลา
ภาพตามมาตรา ๙๘ หรือคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ มีมติ หรือพรรคการเมืองมีมติ เว้นแต่สมาชิกสภาผู้แทน ออกหรือพรรคการเมืองมีมติ เว้นแต่สมาชิกสภาผู้แทน
ให้พ้นจากสมาชิกภาพตามมาตรา ๙๗ ในกรณีเช่นนี้ให้ ราษฎรผู้นั้นได้อุทธรณ์ต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในสิบห้า ราษฎรผู้นั้นได้อุทธรณ์ต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน
ถือว่าขาดจากสมาชิกภาพนับแต่วันที่สภาผู้แทนราษฎร วันนับแต่วันที่พรรคการเมืองมีมติ คัดค้านว่ามติดัง สามสิบวันนับแต่วันที่พรรคการเมืองมีมติ คัดค้านว่ามติ
หรือคณะตุลาการรัฐธรรมนูญมีมติ กล่าวขัดต่อมาตรา ๔๗ ในกรณีเช่นนี้ ให้ถือว่าสิ้นสุด ดังกล่าวมีลักษณะตามมาตรา ๔๗ วรรคสาม ถ้าศาล
(๙) ขาดจากการเป็นสมาชิกของพรรคการ สมาชิกภาพนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยืนตามมติดังกล่าว รัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามติดังกล่าวมิได้มีลักษณะตาม
เมืองในกรณีที่ศาลมีคำสั่งยุบเลิกพรรคการเมืองที่สมาชิก (๙) ขาดจากการเป็นสมาชิกของพรรคการ มาตรา ๔๗ วรรคสาม ให้ถือว่าสมาชิกภาพสิ้นสุดลงนับ
สภาผู้แทนราษฎรผู้นั้นเป็นสมาชิกและไม่อาจเข้าเป็น เมืองในกรณีที่ศาลมีคำสั่งยกเลิกพรรคการเมืองที่ แต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย แต่ถ้าศาลรัฐธรรมนูญ
สมาชิกของพรรคการเมืองอื่นที่มีสมาชิก ของพรรคการ เข้าเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองอื่นที่มีสมาชิกของ วินิจฉัยว่ามติดังกล่าวมีลักษณะตามมาตรา ๔๗ วรรค
เมือง นั้นเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้ภายในหกสิบ พรรคการเมืองนั้นเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ภาย สาม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้นั้นอาจเข้าเป็นสมาชิก
วันนับแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง ในกรณีเช่นนี้ ในหกสิบวันนับแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง ในกรณีเช่นนี้ให้ถือ ของพรรคการเมืองอื่นได้ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่
ให้ถือว่าขาดจากสมาชิกภาพ นับแต่วันถัดจากวันที่ครบ ว่าสิ้นสุดสมาชิกภาพนับแต่วันถัดจากวันที่ครบกำหนด ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
กำหนดหกสิบวันนั้น หกสิบวันนั้น (๙) ขาดจากการเป็นสมาชิกของพรรคการ
(๑๐) ขาดการประชุมตลอดสมัยประชุมที่มี (๑๐) รัฐสภามีมติให้ถอดถอนออกจาก เมืองในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคการเมือง
กำหนดเวลา ไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันโดยไม่ได้รับอนุญาต ตำแหน่งตามมาตรา ๓๐๕ หรือศาลรัฐธรรมนูญมีคำ ที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้นั้นเป็นสมาชิก และไม่อาจ
จากประธานสภาผู้แทนราษฎร วินิจฉัยให้พ้นจากสมาชิกภาพตามมาตรา ๙๔ ในกรณี เข้าเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองอื่นได้ภายในหกสิบ
(๑๑) ถูกจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้ เช่นนี้ให้ถือว่าสิ้นสุดสมาชิกภาพนับแต่วันที่รัฐสภามีมติ วันนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่ง ในกรณีเช่นนี้ให้
จำคุกเว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท หรือ หรือศาลรัฐธรมนูญมีคำวินิจฉัย แล้วแต่กรณี ถือว่าสิ้นสุดสมาชิกภาพนับแต่วันถัดจากวันที่ครบ
ความผิดลหุโทษ (๑๑) ขาดประชุมตลอดสมัยประชุมที่มี กำหนดหกสิบวันนั้น
กำหนดเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบวันโดยไม่ได้รับ (๑๐) วุฒิสภามีมติตามมาตรา ๓๐๗ ให้ถอด
อนุญาตจากประธานสภาผู้แทนราษฎร ถอนออกจากตำแหน่ง หรือศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย
(๑๒) ถูกจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้น ให้พ้นจากสมาชิกภาพตามมาตรา ๙๖ ในกรณีเช่นนี้ให้
แต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิด ถือว่าสิ้นสุดสมาชิกภาพนับแต่วันที่วุฒิสภามีมติหรือ
ลหุโทษ ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย แล้วแต่กรณี
การสิ้นสุดสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทน (๑๑) ขาดประชุมเกินจำนวนหนึ่งในสี่ของ
ราษฎรตาม (๗) ให้มีผลเมื่อพ้นสามสิบวันนับแต่วันที่มี จำนวนวันประชุมในสมัยประชุมที่มีกำหนดเวลาไม่น้อย
พระบรมราชโองการแต่งตั้ง หรือมีการแต่งตั้ง กว่าหนึ่งร้อยยี่สิบวันโดยไม่ได้รับอนุญาตจากประธาน
สภาผู้แทนราษฎร
(๑๒) ถูกจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำ
คุก เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือ
ความผิดลหุโทษ
การสิ้นสุดสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทน
ราษฎรตาม (๗) ให้มีผลในวันถัดจากวันที่ครบสามสิบ
วันนับแต่วันที่มีพระบรมราชโองการแต่งตั้ง
(ต่อ)
หมวด ๖ หมวด ๖ หมวด ๖
รัฐสภา รัฐสภา รัฐสภา
-------- -------- --------
ส่วนที่ ๓ ส่วนที่ ๒ ส่วนที่ ๒
สภาผู้แทนราษฎร สภาผู้แทนราษฎร สภาผู้แทนราษฎร
------------ ------------ ------------
มาตรา ๑๑๒ เพื่อให้การเลือกตั้งสมาชิก มาตรา ๑๑๓ เพื่อให้การเลือกตั้งสมาชิก
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นไปด้วยความสุจริตและ สภาผู้แทนราษฎรเป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยง
เที่ยงธรรม ให้รัฐสนับสนุนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้ ธรรม ให้รัฐสนับสนุนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน
แทนราษฎรในเรื่องดังต่อไปนี้ ราษฎรในเรื่องดังต่อไปนี้
(๑) จัดที่ปิดประกาศและแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง (๑) จัดที่ปิดประกาศและที่ติดแผ่นป้ายเกี่ยว
(๒) พิมพ์และจัดส่งเอกสารเกี่ยวกับการ กับการเลือกตั้งในสาธารณสถานซึ่งเป็นของรัฐ
เลือกตั้งไปให้ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง (๒) พิมพ์และจัดส่งเอกสารเกี่ยวกับการ
(๓) จัดหาสถานที่หาเสียงเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง เลือกตั้งไปให้ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง
(๔) จัดสรรเวลาออกอากาศทางวิทยุกระจาย (๓) จัดหาสถานที่หาเสียงเลือกตั้งให้แก่ผู้
เสียงและวิทยุโทรทัศน์ให้แก่พรรคการเมือง สมัครรับเลือกตั้ง
(๕) กิจการอื่นที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (๔) จัดสรรเวลาออกอากาศทางวิทยุกระจาย
ประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีดำเนินการ เสียงและวิทยุโทรทัศน์ให้แก่พรรคการเมือง
ตามมาตรานี้ ให้เป็นไปตามกฎหมายประกอบ (๕) กิจการอื่นที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศกำหนด
รัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสมาชิกสภาผู้แทน การดำเนินการตาม (๑)(๔) และ (๕) โดยผู้
ราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งต้องให้โอกาสโดยเท่าเทียมกัน สมัครรับเลือกตั้ง พรรคการเมือง หรือบุคคลอื่นนอก
การดำเนินการตามมาตรานี้โดยผู้สมัครรับ จากรัฐ จะกระทำมิได้
เลือกตั้ง พรรคการเมือง หรือบุคคลอื่นนอกจากรัฐ จะกระทำมิได้ หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการดำเนินการ
ตามมาตรานี้ ให้เป็นไปตามกฎหมายประกอบ
รัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
และสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งต้องให้โอกาสโดยเท่าเทียมกัน
มาตรา ๑๑๖ อายุของสภาผู้แทนราษฎรมี มาตรา ๑๑๓ อายุของสภาผู้แทนราษฎรมี มาตรา ๑๑๔ อายุของสภาผู้แทนราษฎรมี
กำหนดคราวละสี่ปีนับแต่วันเลือกตั้ง กำหนดคราวละสี่ปีนับแต่วันเลือกตั้ง กำหนดคราวละสี่ปีนับแต่วันเลือกตั้ง
มาตรา ๑๑๗ เมื่ออายุของสภาผู้แทนราษฎร มาตรา ๑๑๔ เมื่ออายุของสภาผู้แทนราษฎร มาตรา ๑๑๕ เมื่ออายุของสภาผู้แทน
สิ้นสุดลง พระมหากษัตริย์จะได้ทรงตราพระราชกฤษฎีกา สิ้นสุดลง พระมหากษัตริย์จะได้ทรงตราพระราช ราษฎรสิ้นสุดลง พระมหากษัตริย์จะได้ทรงตราพระราช
ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่เป็นการ กฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่ กฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่
เลือกตั้งทั่วไป ซึ่งต้องกำหนดวันเลือกตั้ง ภายในภายในสี่ เป็นการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งต้องกำหนดวันเลือกตั้งภายใน เป็นการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งต้องกำหนดวันเลือกตั้งภาย
สิบห้าวันนับแต่วันที่อายุของสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง สามสิบวันนับแต่วันที่อายุของสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง ในสี่สิบห้าวันนับแต่วันที่อายุของสภาผู้แทนราษฎรสิ้น
และวันเลือกตั้งนั้นต้องกำหนดวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร และวันเลือกตั้งนั้นต้องกำหนดเป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร สุดลง และวันเลือกตั้งนั้นต้องกำหนดเป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร
มาตรา ๑๑๘ พระมหากษัตริย์ ทรงไว้ซึ่ง มาตรา ๑๑๕ พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่ง มาตรา ๑๑๖ พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่ง
พระราชอำนาจที่จะยุบสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้มีการ พระราชอำนาจในการตราพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้ พระราชอำนาจที่จะยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้มีการ
เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่ แทนราษฎรเพื่อให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่ เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่
การยุบสภาผู้แทนราษฎร ให้กระทำโดย ให้นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะ การยุบสภาผู้แทนราษฎรให้กระทำโดยพระ
พระราชกฤษฎีกา ซึ่งต้องกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภา รัฐมนตรีเป็นผู้นำร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทน ราชกฤษฎีกา ซึ่งต้องกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้
ผู้แทนราษฎรใหม่ เป็นการเลือกตั้งทั่วไปภายใน ราษฎรขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย แทนราษฎรใหม่เป็นการเลือกตั้งทั่วไปภายในหกสิบวัน
หกสิบวัน และวันเลือกตั้งนั้นต้องกำหนดวันเดียวกัน พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรต้อง และวันเลือกตั้งนั้นต้องกำหนดเป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร
ทั่วราชอาณาจักร กำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่เป็น การยุบสภาผู้แทนราษฎรจะกระทำได้เพียง
การยุบสภาผู้แทนราษฎรจะกระทำได้เพียงครั้ง การเลือกตั้งทั่วไปภายในสี่สิบห้าวัน และวันเลือกตั้ง ครั้งเดียวในเหตุการณ์เดียวกัน
เดียวในเหตุการณ์เดียวกัน นั้นต้องกำหนดเป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร
การยุบสภาผู้แทนราษฎรจะกระทำได้เพียง
ครั้งเดียวในเหตุการณ์เดียวกัน
มาตรา ๑๑๙ สมาชิกภาพของสมาชิกสภา มาตรา ๑๑๖ สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้ มาตรา ๑๑๗ สมาชิกภาพของสมาชิกสภา
ผู้แทนราษฎรเริ่มตั้งแต่วันเลือกตั้ง แทนราษฎรเริ่มตั้งแต่วันเลือกตั้ง ผู้แทนราษฎรเริ่มตั้งแต่วันเลือกตั้ง
มาตรา ๑๒๐ สมาชิกภาพของสมาชิกสภา มาตรา ๑๑๗ สมาชิกภาพของสมาชิกสภา มาตรา ๑๑๘ สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้
ผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลงเมื่อ ผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง เมื่อ แทนราษฎรสิ้นสุดลง เมื่อ
(๑) ถึงคราวออกตามอายุของสภาผู้แทน (๑) ถึงคราวออกตามอายุของสภาผู้แทน (๑) ถึงคราวออกตามอายุของสภาผู้แทน
ราษฎรหรือมีการยุบสภาผู้แทนราษฎร ราษฎร หรือมีการยุบสภาผู้แทนราษฎร ราษฎร หรือมีการยุบสภาผู้แทนราษฎร
(๒) ตาย (๒) ตาย (๒) ตาย
(๓) ลาออก (๓) ลาออก (๓) ลาออก
(๔) ขาดคุณสมบัติตามมาตรา ๑๑๑ (๑) (๒) หรือ (๔) (๔) ขาดคุณสมบัติตามมาตรา ๑๐๖(๑)(๒) หรือ (๔) (๔) ขาดคุณสมบัติตามมาตรา ๑๐๗
(๕) มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๑๓ (๑) (๕) มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๐๘(๑) (๕) มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๐๙
(๒) (๓) (๔) (๗) (๘) (๙) (๑๐) (๑๑)หรือ (๑๒) (๒)(๓)(๖)(๗)(๘)(๙)(๑๐) (๑๑)(๑๒)(๑๓) หรือ (๑๔) (๑)(๒)(๓)(๕)(๖)(๗) (๘)(๙) (๑๐)(๑๑)(๑๒)(๑๓) หรือ (๑๔)
(๖) กระทำการอันต้องห้ามตามมาตรา ๑๑๔ (๖) กระทำการอันต้องห้ามตามมาตรา ๑๐๙ หรือมาตรา ๑๑๐ (๖) กระทำการอันต้องห้ามตามมาตรา ๑๑๐
(๗) ลาออกจากพรรคการเมืองที่ตนเป็น (๗) ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี รัฐ หรือมาตรา ๑๑๑
สมาชิก หรือพรรคการเมืองที่ตนเป็นสมาชิก มีมติด้วย มนตรี หรือข้าราชการการเมืองอื่น (๗) ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรี
คะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ ของที่ประชุมร่วมของ (๘) ลาออกจากพรรคการเมืองที่ตนเป็น (๘) ลาออกจากพรรคการเมืองที่ตนเป็น
คณะกรรมการบริหารของพรรคการเมือง และสมาชิก สมาชิก หรือพรรคการเมืองที่ตนเป็นสมาชิกมีมติด้วย สมาชิก หรือพรรคการเมืองที่ตนเป็นสมาชิกมีมติด้วย
สภาผู้แทนราษฎรที่สังกัดพรรคการเมืองนั้น ให้พ้นจาก คะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของที่ประชุมร่วมของ คะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของที่ประชุมร่วมของ
การเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองที่ตนเป็นสมาชิก คณะกรรมการบริหารของพรรคการเมืองและสมาชิก คณะกรรมการบริหารของพรรคการเมืองและสมาชิก
ในกรณีเช่นนี้ให้ถือว่าขาดจากสมาชิกภาพ นับแต่วันที่ลา สภาผู้แทนราษฎรที่สังกัดพรรคการเมืองนั้น ให้พ้นจาก สภาผู้แทนราษฎรที่สังกัดพรรคการเมืองนั้น ให้พ้นจาก
ออกหรือพรรคการเมืองมีมติ การเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองที่ตนเป็นสมาชิก ใน การเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองที่ตนเป็นสมาชิก ใน
(๘) สภาผู้แทนราษฎรมีมติให้พ้นจากสมาชิก กรณีเช่นนี้ให้ถือว่าสิ้นสุดสมาชิกภาพนับแต่วันที่ลาออก กรณีเช่นนี้ให้ถือว่าสิ้นสุดสมาชิกภาพนับแต่วันที่ลา
ภาพตามมาตรา ๙๘ หรือคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ มีมติ หรือพรรคการเมืองมีมติ เว้นแต่สมาชิกสภาผู้แทน ออกหรือพรรคการเมืองมีมติ เว้นแต่สมาชิกสภาผู้แทน
ให้พ้นจากสมาชิกภาพตามมาตรา ๙๗ ในกรณีเช่นนี้ให้ ราษฎรผู้นั้นได้อุทธรณ์ต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในสิบห้า ราษฎรผู้นั้นได้อุทธรณ์ต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน
ถือว่าขาดจากสมาชิกภาพนับแต่วันที่สภาผู้แทนราษฎร วันนับแต่วันที่พรรคการเมืองมีมติ คัดค้านว่ามติดัง สามสิบวันนับแต่วันที่พรรคการเมืองมีมติ คัดค้านว่ามติ
หรือคณะตุลาการรัฐธรรมนูญมีมติ กล่าวขัดต่อมาตรา ๔๗ ในกรณีเช่นนี้ ให้ถือว่าสิ้นสุด ดังกล่าวมีลักษณะตามมาตรา ๔๗ วรรคสาม ถ้าศาล
(๙) ขาดจากการเป็นสมาชิกของพรรคการ สมาชิกภาพนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยืนตามมติดังกล่าว รัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามติดังกล่าวมิได้มีลักษณะตาม
เมืองในกรณีที่ศาลมีคำสั่งยุบเลิกพรรคการเมืองที่สมาชิก (๙) ขาดจากการเป็นสมาชิกของพรรคการ มาตรา ๔๗ วรรคสาม ให้ถือว่าสมาชิกภาพสิ้นสุดลงนับ
สภาผู้แทนราษฎรผู้นั้นเป็นสมาชิกและไม่อาจเข้าเป็น เมืองในกรณีที่ศาลมีคำสั่งยกเลิกพรรคการเมืองที่ แต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย แต่ถ้าศาลรัฐธรรมนูญ
สมาชิกของพรรคการเมืองอื่นที่มีสมาชิก ของพรรคการ เข้าเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองอื่นที่มีสมาชิกของ วินิจฉัยว่ามติดังกล่าวมีลักษณะตามมาตรา ๔๗ วรรค
เมือง นั้นเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้ภายในหกสิบ พรรคการเมืองนั้นเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ภาย สาม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้นั้นอาจเข้าเป็นสมาชิก
วันนับแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง ในกรณีเช่นนี้ ในหกสิบวันนับแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง ในกรณีเช่นนี้ให้ถือ ของพรรคการเมืองอื่นได้ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่
ให้ถือว่าขาดจากสมาชิกภาพ นับแต่วันถัดจากวันที่ครบ ว่าสิ้นสุดสมาชิกภาพนับแต่วันถัดจากวันที่ครบกำหนด ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
กำหนดหกสิบวันนั้น หกสิบวันนั้น (๙) ขาดจากการเป็นสมาชิกของพรรคการ
(๑๐) ขาดการประชุมตลอดสมัยประชุมที่มี (๑๐) รัฐสภามีมติให้ถอดถอนออกจาก เมืองในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคการเมือง
กำหนดเวลา ไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันโดยไม่ได้รับอนุญาต ตำแหน่งตามมาตรา ๓๐๕ หรือศาลรัฐธรรมนูญมีคำ ที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้นั้นเป็นสมาชิก และไม่อาจ
จากประธานสภาผู้แทนราษฎร วินิจฉัยให้พ้นจากสมาชิกภาพตามมาตรา ๙๔ ในกรณี เข้าเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองอื่นได้ภายในหกสิบ
(๑๑) ถูกจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้ เช่นนี้ให้ถือว่าสิ้นสุดสมาชิกภาพนับแต่วันที่รัฐสภามีมติ วันนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่ง ในกรณีเช่นนี้ให้
จำคุกเว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท หรือ หรือศาลรัฐธรมนูญมีคำวินิจฉัย แล้วแต่กรณี ถือว่าสิ้นสุดสมาชิกภาพนับแต่วันถัดจากวันที่ครบ
ความผิดลหุโทษ (๑๑) ขาดประชุมตลอดสมัยประชุมที่มี กำหนดหกสิบวันนั้น
กำหนดเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบวันโดยไม่ได้รับ (๑๐) วุฒิสภามีมติตามมาตรา ๓๐๗ ให้ถอด
อนุญาตจากประธานสภาผู้แทนราษฎร ถอนออกจากตำแหน่ง หรือศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย
(๑๒) ถูกจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้น ให้พ้นจากสมาชิกภาพตามมาตรา ๙๖ ในกรณีเช่นนี้ให้
แต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิด ถือว่าสิ้นสุดสมาชิกภาพนับแต่วันที่วุฒิสภามีมติหรือ
ลหุโทษ ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย แล้วแต่กรณี
การสิ้นสุดสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทน (๑๑) ขาดประชุมเกินจำนวนหนึ่งในสี่ของ
ราษฎรตาม (๗) ให้มีผลเมื่อพ้นสามสิบวันนับแต่วันที่มี จำนวนวันประชุมในสมัยประชุมที่มีกำหนดเวลาไม่น้อย
พระบรมราชโองการแต่งตั้ง หรือมีการแต่งตั้ง กว่าหนึ่งร้อยยี่สิบวันโดยไม่ได้รับอนุญาตจากประธาน
สภาผู้แทนราษฎร
(๑๒) ถูกจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำ
คุก เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือ
ความผิดลหุโทษ
การสิ้นสุดสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทน
ราษฎรตาม (๗) ให้มีผลในวันถัดจากวันที่ครบสามสิบ
วันนับแต่วันที่มีพระบรมราชโองการแต่งตั้ง
(ต่อ)