กรุงเทพ--16 พ.ค.--ศูนย์ข่าวส.ส.ร.
การจัดประชาพิจารณ์ระดับภาค ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกวันนี้ (16 พ.ค.2540) สำหรับภาคตะวันออก ณ โรงแรมเคพี แกรนด์ จ.จันทบุรี ถ่ายทอดสดผ่านช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ตั้งแต่เวลาประมาณ 14.00 น. มีประชาชนเข้ามาร่วมฟังและแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ในประเด็นต่างๆ ของต้นร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โดยนายอานันท์ ปันยารชุน ประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญกล่าวว่า ขณะนี้มีการตั้งชื่อรัฐธรรมนูญฉบับนี้หลากหลาย แต่ก็เชื่อว่าหลังการทำประชาพิจารณ์และปรับปรุงให้สมบูรณ์เหมาะสมกับสภาพสังคมไทยก็จะกลายเป็นรัฐธรรมนูญฉบับสายฝนที่จะนำความชุ่มชื่นมาสู่สังคมไทย โดยการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นถือเป็นสิ่งที่ต้องแก้ไขและสามารถยืดหยุ่นให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันได้ด้วย ฉะนั้นจึงต้องการให้คนไทยทุกคนร่วมกันแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวางในทุกๆ ด้าน หลังจากนั้นถือเป็นหน้าที่ของส.ส.ร. ที่จะวินิจฉัยตามความเหมาะสมของร่างรัฐธรรมนูญในแง่วิชาการ การปฎิบัติและการบังคับใช้และที่สำคัญงานชิ้นนี้จะพลาดหรือล้มเหลวไม่ได้เพราะถือเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่ต้องร่วมมือกันเพราะประโยชน์จะตกอยู่กับคนไทยทั้งประเทศ
ด้านนายอุทัย พิมพ์ใจชน ประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญมั่นใจว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้คืนอำนาจให้ประชาชนมากที่สุด แม้ร่างรัฐธรรมนูญจะมีเนื้อหายาว แต่ก็ไม่ได้ร่างโดยผู้ที่ยึดอำนาจไว้เช่นในอดีต นอกจากนี้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ยังให้อำนาจประชาชนมากขึ้นในการตรวจสอบรัฐ เช่นสามารถฟ้องร้องรัฐและถอดถอนผู้มีอำนาจของรัฐได้
ส่วนนายคณิน บุญสุวรรณ รองประธานคณะกรรมาธิการฯ ระบุที่ผ่านมาระบบรัฐสภาอยู่ในสภาพป่วยไข้ส่งผลต่อฝ่ายนิติบัญญติทำให้ออกกฎหมายล่าช้า และมีการริดรอนสิทธิประชาชนเกิดขึ้น รวมทั้งส.ส.ยังมีปัญหา โดยเฉพาะการกระทำเพื่อประสงค์จะผลักดันตัวเองให้เป็นรัฐมนตรีจึงไม่มีเวลาทำงานในฝ่ายนิติบัญญติ เนื่องจากส.ส.บางรายเป็นรัฐมนตรียังต้องทำงานฝ่ายบริหารด้วย จนทำให้ปัจจุบันยังมีกฎหมายที่ล้าหลังอยู่ถึงประมาณ 800 ฉบับที่ไม่ได้รับการดูแลและแก้ไขฉะนั้นจึงควรแยกหน้าที่เพื่อให้ทำงานเต็มที่ จากนั้นได้เปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมแสดงความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ คนละประมาณ 3 นาที งปรากฎว่ามีผู้สนใจแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลายจนถึงเวลาประมาณ 17.00 น.--จบ--
การจัดประชาพิจารณ์ระดับภาค ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกวันนี้ (16 พ.ค.2540) สำหรับภาคตะวันออก ณ โรงแรมเคพี แกรนด์ จ.จันทบุรี ถ่ายทอดสดผ่านช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ตั้งแต่เวลาประมาณ 14.00 น. มีประชาชนเข้ามาร่วมฟังและแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ในประเด็นต่างๆ ของต้นร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โดยนายอานันท์ ปันยารชุน ประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญกล่าวว่า ขณะนี้มีการตั้งชื่อรัฐธรรมนูญฉบับนี้หลากหลาย แต่ก็เชื่อว่าหลังการทำประชาพิจารณ์และปรับปรุงให้สมบูรณ์เหมาะสมกับสภาพสังคมไทยก็จะกลายเป็นรัฐธรรมนูญฉบับสายฝนที่จะนำความชุ่มชื่นมาสู่สังคมไทย โดยการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นถือเป็นสิ่งที่ต้องแก้ไขและสามารถยืดหยุ่นให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันได้ด้วย ฉะนั้นจึงต้องการให้คนไทยทุกคนร่วมกันแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวางในทุกๆ ด้าน หลังจากนั้นถือเป็นหน้าที่ของส.ส.ร. ที่จะวินิจฉัยตามความเหมาะสมของร่างรัฐธรรมนูญในแง่วิชาการ การปฎิบัติและการบังคับใช้และที่สำคัญงานชิ้นนี้จะพลาดหรือล้มเหลวไม่ได้เพราะถือเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่ต้องร่วมมือกันเพราะประโยชน์จะตกอยู่กับคนไทยทั้งประเทศ
ด้านนายอุทัย พิมพ์ใจชน ประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญมั่นใจว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้คืนอำนาจให้ประชาชนมากที่สุด แม้ร่างรัฐธรรมนูญจะมีเนื้อหายาว แต่ก็ไม่ได้ร่างโดยผู้ที่ยึดอำนาจไว้เช่นในอดีต นอกจากนี้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ยังให้อำนาจประชาชนมากขึ้นในการตรวจสอบรัฐ เช่นสามารถฟ้องร้องรัฐและถอดถอนผู้มีอำนาจของรัฐได้
ส่วนนายคณิน บุญสุวรรณ รองประธานคณะกรรมาธิการฯ ระบุที่ผ่านมาระบบรัฐสภาอยู่ในสภาพป่วยไข้ส่งผลต่อฝ่ายนิติบัญญติทำให้ออกกฎหมายล่าช้า และมีการริดรอนสิทธิประชาชนเกิดขึ้น รวมทั้งส.ส.ยังมีปัญหา โดยเฉพาะการกระทำเพื่อประสงค์จะผลักดันตัวเองให้เป็นรัฐมนตรีจึงไม่มีเวลาทำงานในฝ่ายนิติบัญญติ เนื่องจากส.ส.บางรายเป็นรัฐมนตรียังต้องทำงานฝ่ายบริหารด้วย จนทำให้ปัจจุบันยังมีกฎหมายที่ล้าหลังอยู่ถึงประมาณ 800 ฉบับที่ไม่ได้รับการดูแลและแก้ไขฉะนั้นจึงควรแยกหน้าที่เพื่อให้ทำงานเต็มที่ จากนั้นได้เปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมแสดงความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ คนละประมาณ 3 นาที งปรากฎว่ามีผู้สนใจแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลายจนถึงเวลาประมาณ 17.00 น.--จบ--