กรุงเทพ--2 มิ.ย.--ศูนย์ข่าว ส.ส.ร.
นายประวิทย์ ทองศรีนุ่น ประธานคณะอนุกรรมาธิการจัดทำประชาพิจารณ์ และ ส.ส.ร.จังหวัดพัทลุง กล่าวถึงผลสรุปการจัดทำประชาพิจารณ์ซึ่งหลายจังหวัดเริ่มทะยอยส่งมายังคณะอนุกรรมาธิการฯ บ้างแล้ว โดยข้อเสนอของประชาชนทั่วประเทศทั้งหมดคาดว่าจะครบภายในจันทร์ที่จะถึงนี้ หลังจากนั้นจะมีการประมวลผลสรุปให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 6 มิ.ย. 2540
สำหรับผลประชาพิจารณ์ของจังหวัดพัทลุงนั้น หลังจากแบ่งกลุ่มย่อยจัดประชาพิจารณ์ออกเป็น 3 กลุ่ม ได้ข้อสรุปมาทั้งสิ้น 51 ประเด็นซึ่งตรงตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ โดยมีข้อเสนอแนะหลายประการได้แก่
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งตามร่างรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ 2 แนวทางคือ มาจากการเลือกตั้งแบบเขตเดียวเบอร์เดียวจำนวน 350 คนและมาจากระบบสัดส่วนรายชื่อพรรคการเมืองอีก 150 คนนั้นประชาชนที่ร่วมทำประชาพิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นว่าเป็นวิธีการและจำนวนที่เหมาะสม แต่ในส่วนที่กำหนดลักษณะของส.ส.นั้น มีการเสนอว่าน่าจะกำหนดให้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน จ.ที่สมัครรับเลือกตั้งติดต่อกันจากเดิมที่กำหนดไว้ 1 ปีเปลี่ยนเป็น 2 ปีแทนและควรอยู่ในตำแหน่งไม่เกิน 2 วาระ อย่างไรก็ตามประชาชนบางส่วนไม่เห็นด้วยกับวิธีการเลือกตั้งเพราะเห็นว่าเป็นวิธีที่ยุ่งยาก และจำกัดจำนวน ส.ส.ที่แต่ละพรรคจะส่งลงสมัคร เท่ากับเป็นการเสนอรายชื่อผู้สมัครเป็น 2 เท่าของจำนวน ส.ส.แต่ละเขต นอกจากนี้ยังเห็นว่า จากจำนวน ส.ส.ที่กำหนด 500 คนน่าจะลดลงเหลือประมาณ 350-450 คน และเห็นว่าควรกำหนดให้ ส.ส.ต้องพ้นจากตำแหน่งหากขาดการประชุมเกิน 5 ครั้งขึ้นไป
ส่วนเรื่องที่มาวุฒิสมาชิกนั้น ชาวพัทลุงส่วนใหญ่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญว่า ส่วนหนึ่งควรมาจากการสรรหาและอีกส่วนควรมาจากการเลือกตั้ง แต่ก็ยังมีส่วนหนึ่งเห็นว่าสมาชิกวุฒิสภาควรมาจากการแต่งตั้งเช่นเดิม ขณะที่บางส่วนเห็นว่าไม่ควรมีวุฒิสมาชิกอีกต่อไป นอกจากนี้ในเรื่องของคณะรัฐมนตรีนั้น ส่วนใหญ่เห็นด้วยที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ต้องลาออกจากการเป็น ส.ส.เมื่อดำรงตำแหน่ง ส่วนที่มานายกรัฐมนตรีนั้นต้องการให้นายกรัฐมนตรีมาจาก ส.ส. ขณะที่บางส่วนให้มาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน
และในการทำประชาพิจารณ์ครั้งนี้ ประชาชนที่ร่วมประชาพิจารณ์ยังเห็นว่าการกำหนดให้เจ้าพนักงานต้องส่งตัวผู้ต้องหาไปศาลภายใน 24 ชั่วโมงนั้น จำกัดเวลาเกินไปจนอาจทำงานไม่ทัน จึงเสนอให้ขยายเวลาออกไปเป็น 72 ชั่วโมงแทน--จบ--
นายประวิทย์ ทองศรีนุ่น ประธานคณะอนุกรรมาธิการจัดทำประชาพิจารณ์ และ ส.ส.ร.จังหวัดพัทลุง กล่าวถึงผลสรุปการจัดทำประชาพิจารณ์ซึ่งหลายจังหวัดเริ่มทะยอยส่งมายังคณะอนุกรรมาธิการฯ บ้างแล้ว โดยข้อเสนอของประชาชนทั่วประเทศทั้งหมดคาดว่าจะครบภายในจันทร์ที่จะถึงนี้ หลังจากนั้นจะมีการประมวลผลสรุปให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 6 มิ.ย. 2540
สำหรับผลประชาพิจารณ์ของจังหวัดพัทลุงนั้น หลังจากแบ่งกลุ่มย่อยจัดประชาพิจารณ์ออกเป็น 3 กลุ่ม ได้ข้อสรุปมาทั้งสิ้น 51 ประเด็นซึ่งตรงตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ โดยมีข้อเสนอแนะหลายประการได้แก่
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งตามร่างรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ 2 แนวทางคือ มาจากการเลือกตั้งแบบเขตเดียวเบอร์เดียวจำนวน 350 คนและมาจากระบบสัดส่วนรายชื่อพรรคการเมืองอีก 150 คนนั้นประชาชนที่ร่วมทำประชาพิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นว่าเป็นวิธีการและจำนวนที่เหมาะสม แต่ในส่วนที่กำหนดลักษณะของส.ส.นั้น มีการเสนอว่าน่าจะกำหนดให้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน จ.ที่สมัครรับเลือกตั้งติดต่อกันจากเดิมที่กำหนดไว้ 1 ปีเปลี่ยนเป็น 2 ปีแทนและควรอยู่ในตำแหน่งไม่เกิน 2 วาระ อย่างไรก็ตามประชาชนบางส่วนไม่เห็นด้วยกับวิธีการเลือกตั้งเพราะเห็นว่าเป็นวิธีที่ยุ่งยาก และจำกัดจำนวน ส.ส.ที่แต่ละพรรคจะส่งลงสมัคร เท่ากับเป็นการเสนอรายชื่อผู้สมัครเป็น 2 เท่าของจำนวน ส.ส.แต่ละเขต นอกจากนี้ยังเห็นว่า จากจำนวน ส.ส.ที่กำหนด 500 คนน่าจะลดลงเหลือประมาณ 350-450 คน และเห็นว่าควรกำหนดให้ ส.ส.ต้องพ้นจากตำแหน่งหากขาดการประชุมเกิน 5 ครั้งขึ้นไป
ส่วนเรื่องที่มาวุฒิสมาชิกนั้น ชาวพัทลุงส่วนใหญ่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญว่า ส่วนหนึ่งควรมาจากการสรรหาและอีกส่วนควรมาจากการเลือกตั้ง แต่ก็ยังมีส่วนหนึ่งเห็นว่าสมาชิกวุฒิสภาควรมาจากการแต่งตั้งเช่นเดิม ขณะที่บางส่วนเห็นว่าไม่ควรมีวุฒิสมาชิกอีกต่อไป นอกจากนี้ในเรื่องของคณะรัฐมนตรีนั้น ส่วนใหญ่เห็นด้วยที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ต้องลาออกจากการเป็น ส.ส.เมื่อดำรงตำแหน่ง ส่วนที่มานายกรัฐมนตรีนั้นต้องการให้นายกรัฐมนตรีมาจาก ส.ส. ขณะที่บางส่วนให้มาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน
และในการทำประชาพิจารณ์ครั้งนี้ ประชาชนที่ร่วมประชาพิจารณ์ยังเห็นว่าการกำหนดให้เจ้าพนักงานต้องส่งตัวผู้ต้องหาไปศาลภายใน 24 ชั่วโมงนั้น จำกัดเวลาเกินไปจนอาจทำงานไม่ทัน จึงเสนอให้ขยายเวลาออกไปเป็น 72 ชั่วโมงแทน--จบ--