รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฯ ฉบับปัจจุบัน ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฯ (วาระที่หนึ่ง) ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฯ (วาระที่สอง) บันทึกประเด็น ความเห็นและข้อสังเก
หมวด ๖ หมวด ๖ หมวด ๖
รัฐสภา รัฐสภา รัฐสภา
-------- -------- --------
มาตรา ๑๔๕ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มาตรา ๑๔๒ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
สมาชิกวุฒิสภา หรือสมาชิกของทั้งสองสภารวมกันมี สมาชิกวุฒิสภา หรือสมาชิกของ ทั้งสองสภารวมกันมี
จำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนสมาชิกทั้งหมด จำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนสมาชิกทั้ง
เท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา มีสิทธิเข้าชื่อร้องขอต่อ หมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา มีสิทธิเข้าชื่อร้องขอต่อ
ประธานรัฐสภาว่ากรรมการการเลือกตั้งคนใดคนหนึ่ง ประธานรัฐสภาว่ากรรมการการเลือกตั้งคนใดคนหนึ่ง
ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๔๐ ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๓๗
หรือมาตรา ๑๔๒ และให้ประธานรัฐสภาส่งคำร้องนั้น หรือกระทำการอันต้องห้ามตามมาตรา ๑๓๙ และให้
ไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าประธานกรรมการ ประธานรัฐสภาส่งคำร้องนั้นไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อ
หรือกรรมการการเลือกตั้งผู้นั้นพ้นจากตำแหน่งหรือไม่ วินิจฉัยว่ากรรมการการเลือกตั้งผู้นั้นพ้นจากตำแหน่งหรือไม่
เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยแล้ว ให้ศาล เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยแล้ว ให้ศาล
รัฐธรรมนูญแจ้งคำวินิจฉัยไปยังประธานรัฐสภาและ รัฐธรรมนูญแจ้งคำวินิจฉัยไปยังประธานรัฐสภาและ
ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง
ให้นำบทบัญญัติมาตรา ๙๕ มาใช้บังคับกับ ให้นำบทบัญญัติมาตรา ๙๗ มาใช้บังคับกับ
การพ้นจากตำแหน่งของกรรมการการเลือกตั้งด้วยโดยอนุโลม การพ้นจากตำแหน่งของกรรมการการเลือกตั้งด้วย โดยอนุโลม
มาตรา ๑๔๖ ในกรณีที่กรรมการการเลือก มาตรา ๑๔๓ ในกรณีที่กรรมการการเลือก
ตั้งพ้นจากตำแหน่งตามวาระพร้อมกันทั้งหมด ให้ ตั้งพ้นจากตำแหน่งตามวาระพร้อมกันทั้งหมด ให้
ดำเนินการตามมาตรา ๑๔๑ ภายในสี่สิบห้าวันนับแต่ วันที่มีการพ้นจากตำแหน่ง
วันที่มีการพ้นจากตำแหน่ง ในกรณีที่กรรมการการเลือกตั้งพ้นจาก
ในกรณีที่กรรมการการเลือกตั้งพ้นจาก ตำแหน่งเพราะเหตุอื่นนอกจากถึงคราวออกตามวาระ
ตำแหน่งเพราะเหตุอื่นนอกจากถึงคราวออกตามวาระ ให้นำมาตรา ๑๓๘ มาใช้บังคับกับการสรรหาและการ
ให้นำมาตรา ๑๔๑ มาใช้บังคับกับการสรรหาและการ เลือกกรรมการการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างนั้นโดย
เลือกประธานกรรมการและกรรมการการเลือกตั้งแทน อนุโลม ในกรณีนี้ ให้เสนอชื่อผู้สมควรเป็นกรรมการ
ตำแหน่งที่ว่างนั้นโดยอนุโลม ในกรณีนี้ ให้คณะกรรม การเลือกตั้งต่อประธานวุฒิสภา จำนวนสองเท่าของผู้
การสรรหาตามมาตรา ๑๔๑ เสนอชื่อผู้สมควรเป็นกรรม ซึ่งพ้นจากตำแหน่งและให้วุฒิสภามีมติเลือก ทั้งนี้ ให้
การการเลือกตั้งเป็นจำนวนสองเท่าของผู้ซึ่งพ้นจาก ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสี่สิบห้าวันนับแต่วันที่มี
ตำแหน่งต่อประธานรัฐสภา และให้รัฐสภาลงมติเลือก การพ้นจากตำแหน่ง และให้ผู้ได้รับเลือกอยู่ในตำแหน่ง
ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสี่สิบห้าวันนับแต่ เพียงเท่าวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน
วันที่มีการพ้นจากตำแหน่ง และให้ผู้ได้รับเลือกอยู่ใน
ตำแหน่งเพียงเท่าวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน
ในกรณีที่กรรมการการเลือกตั้งพ้นจาก
ตำแหน่งไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนในระหว่างที่สภาผู้
แทนราษฎรสิ้นอายุหรือถูกยุบ หรืออยู่นอกสมัยประชุม
ของรัฐสภา ให้ดำเนินการตามมาตรา ๑๔๑ ภายในสี่
สิบห้าวันนับแต่วันที่มีการเรียกประชุมรัฐสภาครั้งแรก
หลังการเลือกตั้งทั่วไป หรือนับแต่วันเปิดสมัยประชุม
ของรัฐสภา แล้วแต่กรณี
มาตรา ๑๔๗ คณะกรรมการการเลือกตั้ง มาตรา ๑๔๔ คณะกรรมการการเลือกตั้ง
เป็นผู้ควบคุมและดำเนินการการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้ เป็นผู้ควบคุมและดำเนินการจัดหรือจัดให้มีการเลือกตั้ง
แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น และผู้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภา
บริหารท้องถิ่น ให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ท้องถิ่น และผู้บริหารท้องถิ่น รวมทั้งการออกเสียง
และเป็นนายทะเบียนพรรคการเมือง ประชามติ ให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม
ประธานกรรมการการเลือกตั้งเป็นผู้รักษา ประธานกรรมการการเลือกตั้งเป็นผู้รักษา
การตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือก การตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือก
ตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา ตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา
กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
และกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียง
หรือผู้บริหารท้องถิ่น ประชามติ และกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภา
ท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น และเป็นนายทะเบียนพรรคการเมือง
มาตรา ๑๔๘ คณะกรรมการการเลือกตั้งมี มาตรา ๑๔๕ คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
อำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้ (๑) ออกประกาศกำหนดการทั้งหลายอันจำ
(๑) ออกประกาศกำหนดการทั้งหลายอันจำ เป็นแก่การปฏิบัติตามกฎหมายตามมาตรา ๑๔๔ วรรคสอง
เป็นแก่การปฏิบัติตามกฎหมายตามมาตรา ๑๔๗ วรรคสอง (๒) มีคำสั่งให้ข้าราชการ พนักงาน หรือลูก
(๒) มีคำสั่งให้ข้าราชการ พนักงาน หรือลูก จ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ
จ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ
หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ปฏิบัติการทั้งหลายอันจำเป็นตามกฎหมายตามมาตรา
ปฏิบัติการทั้งหลายอันจำเป็นตามกฎหมายตามมาตรา ๑๔๔ วรรคสอง
๑๔๗ วรรคสอง (๓) สืบสวนสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงและ
(๓) สืบสวนสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงและ วินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้งที่เกิดขึ้นตาม
วินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้งที่เกิดขึ้นตาม กฎหมายตามมาตรา ๑๔๔ วรรคสอง
กฎหมายตามมาตรา ๑๔๗ วรรคสอง (๔) สั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่หรือออกเสียง
(๔) สั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ในหน่วยเลือกตั้ง ประชามติใหม่ในหน่วยเลือกตั้งใดหน่วยเลือกตั้งหนึ่ง
ใดหน่วยเลือกตั้งหนึ่งหรือทุกหน่วยเลือกตั้ง เมื่อมีหลัก หรือทุกหน่วยเลือกตั้ง เมื่อมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า
ฐานอันควรเชื่อได้ว่าการเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งนั้น ๆ การเลือกตั้งหรือการออกเสียงประชามติในหน่วยเลือก
มิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ตั้งนั้น ๆ มิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม
(๕) ประกาศผลการเลือกตั้ง (๕) ประกาศผลการเลือกตั้งและการออกเสียงประชามติ
(๖) ดำเนินการอื่นตามที่กฎหมายบัญญัติ (๖) ดำเนินการอื่นตามที่กฎหมายบัญญัติ
ในการปฏิบัติหน้าที่ คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำนาจ ในการปฏิบัติหน้าที่ คณะกรรมการการเลือก
เรียกเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องจากบุคคลใด หรือ ตั้งมีอำนาจเรียกเอกสารหรือ หลักฐานที่เกี่ยวข้องจาก
เรียกบุคคลใดมาให้ถ้อยคำ ตลอดจนขอให้ศาล บุคคลใด หรือเรียกบุคคลใดมาให้ถ้อยคำ ตลอดจนขอ
พนักงานอัยการ พนักงานสอบสวน หรือหน่วยงานอื่น ให้ศาล พนักงานอัยการ พนักงานสอบสวน หน่วยราช
ของรัฐ ดำเนินการเพื่อประโยชน์แห่งการปฏิบัติหน้าที่ การ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วน
การสืบสวนสอบสวน หรือวินิจฉัยชี้ขาด ท้องถิ่น ดำเนินการเพื่อประโยชน์แห่งการปฏิบัติหน้าที่
คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำนาจแต่งตั้ง การสืบสวน สอบสวน หรือวินิจฉัยชี้ขาด
บุคคลคณะบุคคลหรือองค์การเอกชนเพื่อปฏิบัติหน้าที่ คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำนาจแต่งตั้ง
ตามที่มอบหมาย บุคคล คณะบุคคล หรือผู้แทนองค์การเอกชน เพื่อ
ปฏิบัติหน้าที่ตามที่มอบหมาย
มาตรา ๑๔๙ ข้าราชการ พนักงาน หรือลูก มาตรา ๑๔๖ ข้าราชการ พนักงาน หรือลูก
จ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ จ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ
หรือราชการบริหารส่วนท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่อื่นของ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ มี
รัฐ มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการการ หน้าที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการการเลือก
เลือกตั้งที่สั่งการตามมาตรา ๑๔๘ ตั้งที่สั่งการตามมาตรา ๑๔๕
มาตรา ๑๕๐ คณะกรรมการการเลือกตั้ง มาตรา ๑๔๗ คณะกรรมการการเลือกตั้ง
ต้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงโดย ต้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงโดย
พลันเมื่อมีกรณีใดกรณีหนึ่ง ดังต่อไปนี้ พลันเมื่อมีกรณีใดกรณีหนึ่ง ดังต่อไปนี้
(๑) ปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าก่อนได้ (๑) ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือ
รับการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิ พรรคการเมืองซึ่งมีสมาชิกสมัครรับเลือกตั้งในเขตเลือก
สภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ใดได้ ตั้งใดเขตเลือกตั้งหนึ่ง คัดค้านว่าการเลือกตั้งในเขต
กระทำการใด ๆ โดยไม่สุจริตเพื่อให้ตนเองได้รับเลือก เลือกตั้งนั้นเป็นไปโดยไม่ถูกต้องหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ตั้ง หรือได้รับเลือกตั้งมาโดยไม่สุจริตโดยผลของการที่ (๒) ปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าก่อนได้
บุคคลหรือพรรคการเมืองใดได้กระทำลงไป ทั้งนี้ อัน รับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา
เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการ สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ใดได้
เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา กระทำการใด ๆ โดยไม่สุจริตเพื่อให้ตนเองได้รับเลือก
กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ตั้งหรือได้รับเลือกตั้งมาโดยไม่สุจริตโดยผลของการที่
หรือกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น บุคคลหรือพรรคการเมืองใดได้กระทำลงไป ทั้งนี้ อัน
หรือผู้บริหารท้องถิ่น เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการ
(๒) ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้สมัครรับเลือกตั้ง เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา
หรือพรรคการเมืองซึ่งมีสมาชิกสมัครรับเลือกตั้งในเขต กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
เลือกตั้งใดเขตเลือกตั้งหนึ่ง คัดค้านว่าการเลือกตั้งใน หรือกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น
เขตเลือกตั้งนั้นเป็นไปโดยไม่ถูกต้องหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือผู้บริหารท้องถิ่น
เมื่อดำเนินการตามวรรคหนึ่งเสร็จแล้ว คณะ (๓) ปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าการ
กรรมการการเลือกตั้งต้องพิจารณาวินิจฉัยสั่งการโดยพลัน ออกเสียงประชามติมิได้เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย
หรือผู้มีสิทธิเลือกตั้งคัดค้านว่าการออกเสียงประชามติ
ในหน่วยเลือกตั้งใดเป็นไปโดยไม่ถูกต้องหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย
เมื่อดำเนินการตามวรรคหนึ่งเสร็จแล้ว คณะ
กรรมการการเลือกตั้งต้องพิจารณาวินิจฉัยสั่งการโดยพลัน
มาตรา ๑๔๘ ในระหว่างที่พระราช
กฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
หรือสมาชิกวุฒิสภา หรือประกาศให้มีการออกเสียง
ประชามติ มีผลใช้บังคับ ห้ามมิให้จับ คุมขัง หรือหมาย
เรียกตัวกรรมการการเลือกตั้งไปทำการสอบสวน เว้น
แต่ในกรณีที่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการการเลือก
ตั้ง หรือในกรณีที่จับในขณะกระทำความผิด
ในกรณีที่มีการจับกรรมการการเลือกตั้งใน
ขณะกระทำความผิด หรือจับ หรือคุมขังกรรมการการ
เลือกตั้งในกรณีอื่น ให้รายงานไปยังประธานกรรมการ
การเลือกตั้งโดยด่วน และประธานกรรมการการเลือก
ตั้งอาจสั่งให้ปล่อยผู้ถูกจับได้
--คณะกรรมาธิการประชาสัมพันธ์สภาร่างรัฐธรรมนูญ--
หมวด ๖ หมวด ๖ หมวด ๖
รัฐสภา รัฐสภา รัฐสภา
-------- -------- --------
มาตรา ๑๔๕ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มาตรา ๑๔๒ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
สมาชิกวุฒิสภา หรือสมาชิกของทั้งสองสภารวมกันมี สมาชิกวุฒิสภา หรือสมาชิกของ ทั้งสองสภารวมกันมี
จำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนสมาชิกทั้งหมด จำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนสมาชิกทั้ง
เท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา มีสิทธิเข้าชื่อร้องขอต่อ หมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา มีสิทธิเข้าชื่อร้องขอต่อ
ประธานรัฐสภาว่ากรรมการการเลือกตั้งคนใดคนหนึ่ง ประธานรัฐสภาว่ากรรมการการเลือกตั้งคนใดคนหนึ่ง
ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๔๐ ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๓๗
หรือมาตรา ๑๔๒ และให้ประธานรัฐสภาส่งคำร้องนั้น หรือกระทำการอันต้องห้ามตามมาตรา ๑๓๙ และให้
ไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าประธานกรรมการ ประธานรัฐสภาส่งคำร้องนั้นไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อ
หรือกรรมการการเลือกตั้งผู้นั้นพ้นจากตำแหน่งหรือไม่ วินิจฉัยว่ากรรมการการเลือกตั้งผู้นั้นพ้นจากตำแหน่งหรือไม่
เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยแล้ว ให้ศาล เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยแล้ว ให้ศาล
รัฐธรรมนูญแจ้งคำวินิจฉัยไปยังประธานรัฐสภาและ รัฐธรรมนูญแจ้งคำวินิจฉัยไปยังประธานรัฐสภาและ
ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง
ให้นำบทบัญญัติมาตรา ๙๕ มาใช้บังคับกับ ให้นำบทบัญญัติมาตรา ๙๗ มาใช้บังคับกับ
การพ้นจากตำแหน่งของกรรมการการเลือกตั้งด้วยโดยอนุโลม การพ้นจากตำแหน่งของกรรมการการเลือกตั้งด้วย โดยอนุโลม
มาตรา ๑๔๖ ในกรณีที่กรรมการการเลือก มาตรา ๑๔๓ ในกรณีที่กรรมการการเลือก
ตั้งพ้นจากตำแหน่งตามวาระพร้อมกันทั้งหมด ให้ ตั้งพ้นจากตำแหน่งตามวาระพร้อมกันทั้งหมด ให้
ดำเนินการตามมาตรา ๑๔๑ ภายในสี่สิบห้าวันนับแต่ วันที่มีการพ้นจากตำแหน่ง
วันที่มีการพ้นจากตำแหน่ง ในกรณีที่กรรมการการเลือกตั้งพ้นจาก
ในกรณีที่กรรมการการเลือกตั้งพ้นจาก ตำแหน่งเพราะเหตุอื่นนอกจากถึงคราวออกตามวาระ
ตำแหน่งเพราะเหตุอื่นนอกจากถึงคราวออกตามวาระ ให้นำมาตรา ๑๓๘ มาใช้บังคับกับการสรรหาและการ
ให้นำมาตรา ๑๔๑ มาใช้บังคับกับการสรรหาและการ เลือกกรรมการการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างนั้นโดย
เลือกประธานกรรมการและกรรมการการเลือกตั้งแทน อนุโลม ในกรณีนี้ ให้เสนอชื่อผู้สมควรเป็นกรรมการ
ตำแหน่งที่ว่างนั้นโดยอนุโลม ในกรณีนี้ ให้คณะกรรม การเลือกตั้งต่อประธานวุฒิสภา จำนวนสองเท่าของผู้
การสรรหาตามมาตรา ๑๔๑ เสนอชื่อผู้สมควรเป็นกรรม ซึ่งพ้นจากตำแหน่งและให้วุฒิสภามีมติเลือก ทั้งนี้ ให้
การการเลือกตั้งเป็นจำนวนสองเท่าของผู้ซึ่งพ้นจาก ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสี่สิบห้าวันนับแต่วันที่มี
ตำแหน่งต่อประธานรัฐสภา และให้รัฐสภาลงมติเลือก การพ้นจากตำแหน่ง และให้ผู้ได้รับเลือกอยู่ในตำแหน่ง
ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสี่สิบห้าวันนับแต่ เพียงเท่าวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน
วันที่มีการพ้นจากตำแหน่ง และให้ผู้ได้รับเลือกอยู่ใน
ตำแหน่งเพียงเท่าวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน
ในกรณีที่กรรมการการเลือกตั้งพ้นจาก
ตำแหน่งไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนในระหว่างที่สภาผู้
แทนราษฎรสิ้นอายุหรือถูกยุบ หรืออยู่นอกสมัยประชุม
ของรัฐสภา ให้ดำเนินการตามมาตรา ๑๔๑ ภายในสี่
สิบห้าวันนับแต่วันที่มีการเรียกประชุมรัฐสภาครั้งแรก
หลังการเลือกตั้งทั่วไป หรือนับแต่วันเปิดสมัยประชุม
ของรัฐสภา แล้วแต่กรณี
มาตรา ๑๔๗ คณะกรรมการการเลือกตั้ง มาตรา ๑๔๔ คณะกรรมการการเลือกตั้ง
เป็นผู้ควบคุมและดำเนินการการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้ เป็นผู้ควบคุมและดำเนินการจัดหรือจัดให้มีการเลือกตั้ง
แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น และผู้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภา
บริหารท้องถิ่น ให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ท้องถิ่น และผู้บริหารท้องถิ่น รวมทั้งการออกเสียง
และเป็นนายทะเบียนพรรคการเมือง ประชามติ ให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม
ประธานกรรมการการเลือกตั้งเป็นผู้รักษา ประธานกรรมการการเลือกตั้งเป็นผู้รักษา
การตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือก การตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือก
ตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา ตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา
กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
และกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียง
หรือผู้บริหารท้องถิ่น ประชามติ และกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภา
ท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น และเป็นนายทะเบียนพรรคการเมือง
มาตรา ๑๔๘ คณะกรรมการการเลือกตั้งมี มาตรา ๑๔๕ คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
อำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้ (๑) ออกประกาศกำหนดการทั้งหลายอันจำ
(๑) ออกประกาศกำหนดการทั้งหลายอันจำ เป็นแก่การปฏิบัติตามกฎหมายตามมาตรา ๑๔๔ วรรคสอง
เป็นแก่การปฏิบัติตามกฎหมายตามมาตรา ๑๔๗ วรรคสอง (๒) มีคำสั่งให้ข้าราชการ พนักงาน หรือลูก
(๒) มีคำสั่งให้ข้าราชการ พนักงาน หรือลูก จ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ
จ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ
หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ปฏิบัติการทั้งหลายอันจำเป็นตามกฎหมายตามมาตรา
ปฏิบัติการทั้งหลายอันจำเป็นตามกฎหมายตามมาตรา ๑๔๔ วรรคสอง
๑๔๗ วรรคสอง (๓) สืบสวนสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงและ
(๓) สืบสวนสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงและ วินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้งที่เกิดขึ้นตาม
วินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้งที่เกิดขึ้นตาม กฎหมายตามมาตรา ๑๔๔ วรรคสอง
กฎหมายตามมาตรา ๑๔๗ วรรคสอง (๔) สั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่หรือออกเสียง
(๔) สั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ในหน่วยเลือกตั้ง ประชามติใหม่ในหน่วยเลือกตั้งใดหน่วยเลือกตั้งหนึ่ง
ใดหน่วยเลือกตั้งหนึ่งหรือทุกหน่วยเลือกตั้ง เมื่อมีหลัก หรือทุกหน่วยเลือกตั้ง เมื่อมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า
ฐานอันควรเชื่อได้ว่าการเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งนั้น ๆ การเลือกตั้งหรือการออกเสียงประชามติในหน่วยเลือก
มิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ตั้งนั้น ๆ มิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม
(๕) ประกาศผลการเลือกตั้ง (๕) ประกาศผลการเลือกตั้งและการออกเสียงประชามติ
(๖) ดำเนินการอื่นตามที่กฎหมายบัญญัติ (๖) ดำเนินการอื่นตามที่กฎหมายบัญญัติ
ในการปฏิบัติหน้าที่ คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำนาจ ในการปฏิบัติหน้าที่ คณะกรรมการการเลือก
เรียกเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องจากบุคคลใด หรือ ตั้งมีอำนาจเรียกเอกสารหรือ หลักฐานที่เกี่ยวข้องจาก
เรียกบุคคลใดมาให้ถ้อยคำ ตลอดจนขอให้ศาล บุคคลใด หรือเรียกบุคคลใดมาให้ถ้อยคำ ตลอดจนขอ
พนักงานอัยการ พนักงานสอบสวน หรือหน่วยงานอื่น ให้ศาล พนักงานอัยการ พนักงานสอบสวน หน่วยราช
ของรัฐ ดำเนินการเพื่อประโยชน์แห่งการปฏิบัติหน้าที่ การ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วน
การสืบสวนสอบสวน หรือวินิจฉัยชี้ขาด ท้องถิ่น ดำเนินการเพื่อประโยชน์แห่งการปฏิบัติหน้าที่
คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำนาจแต่งตั้ง การสืบสวน สอบสวน หรือวินิจฉัยชี้ขาด
บุคคลคณะบุคคลหรือองค์การเอกชนเพื่อปฏิบัติหน้าที่ คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำนาจแต่งตั้ง
ตามที่มอบหมาย บุคคล คณะบุคคล หรือผู้แทนองค์การเอกชน เพื่อ
ปฏิบัติหน้าที่ตามที่มอบหมาย
มาตรา ๑๔๙ ข้าราชการ พนักงาน หรือลูก มาตรา ๑๔๖ ข้าราชการ พนักงาน หรือลูก
จ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ จ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ
หรือราชการบริหารส่วนท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่อื่นของ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ มี
รัฐ มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการการ หน้าที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการการเลือก
เลือกตั้งที่สั่งการตามมาตรา ๑๔๘ ตั้งที่สั่งการตามมาตรา ๑๔๕
มาตรา ๑๕๐ คณะกรรมการการเลือกตั้ง มาตรา ๑๔๗ คณะกรรมการการเลือกตั้ง
ต้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงโดย ต้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงโดย
พลันเมื่อมีกรณีใดกรณีหนึ่ง ดังต่อไปนี้ พลันเมื่อมีกรณีใดกรณีหนึ่ง ดังต่อไปนี้
(๑) ปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าก่อนได้ (๑) ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือ
รับการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิ พรรคการเมืองซึ่งมีสมาชิกสมัครรับเลือกตั้งในเขตเลือก
สภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ใดได้ ตั้งใดเขตเลือกตั้งหนึ่ง คัดค้านว่าการเลือกตั้งในเขต
กระทำการใด ๆ โดยไม่สุจริตเพื่อให้ตนเองได้รับเลือก เลือกตั้งนั้นเป็นไปโดยไม่ถูกต้องหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ตั้ง หรือได้รับเลือกตั้งมาโดยไม่สุจริตโดยผลของการที่ (๒) ปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าก่อนได้
บุคคลหรือพรรคการเมืองใดได้กระทำลงไป ทั้งนี้ อัน รับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา
เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการ สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ใดได้
เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา กระทำการใด ๆ โดยไม่สุจริตเพื่อให้ตนเองได้รับเลือก
กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ตั้งหรือได้รับเลือกตั้งมาโดยไม่สุจริตโดยผลของการที่
หรือกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น บุคคลหรือพรรคการเมืองใดได้กระทำลงไป ทั้งนี้ อัน
หรือผู้บริหารท้องถิ่น เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการ
(๒) ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้สมัครรับเลือกตั้ง เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา
หรือพรรคการเมืองซึ่งมีสมาชิกสมัครรับเลือกตั้งในเขต กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
เลือกตั้งใดเขตเลือกตั้งหนึ่ง คัดค้านว่าการเลือกตั้งใน หรือกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น
เขตเลือกตั้งนั้นเป็นไปโดยไม่ถูกต้องหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือผู้บริหารท้องถิ่น
เมื่อดำเนินการตามวรรคหนึ่งเสร็จแล้ว คณะ (๓) ปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าการ
กรรมการการเลือกตั้งต้องพิจารณาวินิจฉัยสั่งการโดยพลัน ออกเสียงประชามติมิได้เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย
หรือผู้มีสิทธิเลือกตั้งคัดค้านว่าการออกเสียงประชามติ
ในหน่วยเลือกตั้งใดเป็นไปโดยไม่ถูกต้องหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย
เมื่อดำเนินการตามวรรคหนึ่งเสร็จแล้ว คณะ
กรรมการการเลือกตั้งต้องพิจารณาวินิจฉัยสั่งการโดยพลัน
มาตรา ๑๔๘ ในระหว่างที่พระราช
กฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
หรือสมาชิกวุฒิสภา หรือประกาศให้มีการออกเสียง
ประชามติ มีผลใช้บังคับ ห้ามมิให้จับ คุมขัง หรือหมาย
เรียกตัวกรรมการการเลือกตั้งไปทำการสอบสวน เว้น
แต่ในกรณีที่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการการเลือก
ตั้ง หรือในกรณีที่จับในขณะกระทำความผิด
ในกรณีที่มีการจับกรรมการการเลือกตั้งใน
ขณะกระทำความผิด หรือจับ หรือคุมขังกรรมการการ
เลือกตั้งในกรณีอื่น ให้รายงานไปยังประธานกรรมการ
การเลือกตั้งโดยด่วน และประธานกรรมการการเลือก
ตั้งอาจสั่งให้ปล่อยผู้ถูกจับได้
--คณะกรรมาธิการประชาสัมพันธ์สภาร่างรัฐธรรมนูญ--