กรุงเทพ--17 เม.ย.--ศูนย์ข่าว ส.ส.ร.
พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา กล่าวภายหลังชาวบ้านกว่า 2,000 คน เดินทางมารดน้ำดำหัววันนี้ (17 เมษายน 2540) ที่ อ.แม่เหี้ยะ จ.เชียงใหม่ ไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลจะต่ออายุของสภาร่างรัฐธรรมนูญออกไป เพราะถือเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เนื่องจากควรมีการเคารพกฎเกณฑ์ที่วางไว้ ฉะนั้นการขยายเวลาทำหน้าที่จึงไม่ควรเกิดขึ้น และที่สำคัญหากไม่เคารพกฎเกณฑ์ตั้งแต่แรกในการร่างรัฐธรรมนูญก็จะเป็นแนวทางที่ไม่เหมาะสมในอนาคต
อย่างไรก็ตามพล.อ.อาทิตย์แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่าการขยายเวลาการทำงานของ ส.ส.ร.หรือไม่นั้น ไม่ส่งผลถึงอายุการทำงานของรัฐบาล เพราะรัฐธรรมนูญและสภาผู้แทนราษฎรเป็นคนละเรื่องกัน
ด้านนายประหยัด หงษ์ทองคำ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก็แสดงความไม่เห็นด้วยเช่นกันต่อแนวคิดยืดอายุสภาร่างรัฐธรรมนูญ เพราะมีรัฐธรรมนูญฉบับเก่าเป็นแนวทาง ซี่งหากมีกรอบความคิดอย่างชัดเจนแล้วว่าจะบรรจุอะไรบ้าง ในการพิจารณาผ่านความเห็นชอบจาก ส.ส.ร.และรัฐสภาก็คงใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน ฉะนั้นกระบวนการต่าง ๆ ใช้เวลาประมาณครึ่งปีก็ถือว่าสมควรแก่เวลาแล้ว อีกทั้งรัฐบาลก็ประกาศชัดเจนในการหาเสียงจะยุบสภาหลังร่างรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จซึ่งถือเป็นสัญญาประชาคม
นอกจากนี้นายประหยัดกล่าวด้วยว่า การที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรีออกมาพูดถึงการยืดอายุสภาร่างฯ นั้นคงต้องการทดสอบว่าประชาชนจะมีความรู้สึกเรื่องนี้อย่างไร หากประชาชนไม่ต่อต้านรุนแรงก็อาจตีขลุมไปว่าประชาชนเห็นชอบแล้ว ฉะนั้นส่วนตัวจึงเห็นว่าเรื่องนี้มีแต่เสียกับเสีย พร้อมระบุการยืดอายุส.ส.ร.ก็เพื่อยืดอายุรัฐบาลไม่ให้น่าเกลียดนัก
"การเลือกตั้งแต่ละครั้งนักการเมืองต้องการอยู่ให้ยาวที่สุด เท่าที่จะยาวได้ แต่ในขณะที่หาเสียงไม่ทราบว่ามีอะไรที่ดลใจให้ท่านใช้เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มารัดคอท่าน เพราะความจริงแล้วปัจจัยต่าง ๆ ที่ท่านใช้หาเสียงเลือกตั้งนั้นน่าจะทำให้ท่านมั่นใจได้แล้วว่าท่านชนะเลือกตั้งแน่" นายประหยัดกล่าว
นายประหยัดกล่าวอีกว่ายังเป็นไปไม่ได้ที่จะเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีโดยตรง เพราะในวัฒนธรรมและสังคมไทย อาจต้องเขียนโครงสร้างทางการเมืองใหม่ เป็นระบบแยกอำนาจหรือระบบประธานาธิบดีที่ไม่มีการคุมอำนาจซึ่งกันและกัน เพราะหน้าที่ควบคุมตรวจสอบจะเป็นของประชาชน และนายกรัฐมนตรีอยู่ในตำแหน่งจนครบ 4 ปี ซึ่งต้องพิจารณาด้วยว่าประชาชนมีเวลาและมีความสามารถทางการเมืองติดตามเฝ้าจับตามองการปฎิบัติหน้าที่ของฝ่ายการเมืองหรือไม่และส่วนตัวต้องการเห็นการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีก่อนเป็นการนำร่อง เพราะอยู่ในเขตการปกครองเล็ก ๆ ถ้าดีชั่วอย่างไรก็ปรับปรุงแก้ไขได้และต่อไปก็อาจเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดโดยตรง ไม่ใช่กระโดดจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งโดยไม่ผ่านขั้นตอนที่ควรจะเป็น
อย่างไรก็ตามนายประหยัดเชื่อด้วยว่ารัฐธรรมนูญจะไม่ผ่านสภา เพราะถ้าเห็นว่าบทบัญญัติรัฐธรรมนูญที่ส.ส.ร.กำลังร่างอยู่เป็นไปตามความต้องการของประชาชนก็ย่อมเป็นบทบัญญัติที่ทุบหม้อข้าวนักการเมือง ซึ่งนักการเมืองที่ได้รับตำแหน่งไม่ถูกต้องย่อมไม่ยอม และในส่วนของการกำหนดให้ประชาชนไปเลือกตั้งโดยถือเป็นหน้าที่นั้น นายประหยัดก็ไม่เห็นด้วย เพราะต้องการให้หาวิธีการสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนรับผิดชอบไปใช้สิทธิของตนเองมากกว่า โดยส่วนตัวเคยเสนอให้ประชาชนไปลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เพื่อป้องกันการใช้สิทธิ์ของผู้อื่น และหากผู้ขอลงทะเบียนไม่มาใช้สิทธิ์จะถูกตัดสิทธิ์ในการลงคะแนนเลือกตั้งไป 1 หรือ 2 สมัยเลือกตั้ง ทั้งนี้จะเป็นการทำให้ประชาชนรู้สึกหวงแหนและผูกพันธกับสิทธิที่ตนเองมีอยู่--จบ--
พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา กล่าวภายหลังชาวบ้านกว่า 2,000 คน เดินทางมารดน้ำดำหัววันนี้ (17 เมษายน 2540) ที่ อ.แม่เหี้ยะ จ.เชียงใหม่ ไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลจะต่ออายุของสภาร่างรัฐธรรมนูญออกไป เพราะถือเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เนื่องจากควรมีการเคารพกฎเกณฑ์ที่วางไว้ ฉะนั้นการขยายเวลาทำหน้าที่จึงไม่ควรเกิดขึ้น และที่สำคัญหากไม่เคารพกฎเกณฑ์ตั้งแต่แรกในการร่างรัฐธรรมนูญก็จะเป็นแนวทางที่ไม่เหมาะสมในอนาคต
อย่างไรก็ตามพล.อ.อาทิตย์แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่าการขยายเวลาการทำงานของ ส.ส.ร.หรือไม่นั้น ไม่ส่งผลถึงอายุการทำงานของรัฐบาล เพราะรัฐธรรมนูญและสภาผู้แทนราษฎรเป็นคนละเรื่องกัน
ด้านนายประหยัด หงษ์ทองคำ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก็แสดงความไม่เห็นด้วยเช่นกันต่อแนวคิดยืดอายุสภาร่างรัฐธรรมนูญ เพราะมีรัฐธรรมนูญฉบับเก่าเป็นแนวทาง ซี่งหากมีกรอบความคิดอย่างชัดเจนแล้วว่าจะบรรจุอะไรบ้าง ในการพิจารณาผ่านความเห็นชอบจาก ส.ส.ร.และรัฐสภาก็คงใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน ฉะนั้นกระบวนการต่าง ๆ ใช้เวลาประมาณครึ่งปีก็ถือว่าสมควรแก่เวลาแล้ว อีกทั้งรัฐบาลก็ประกาศชัดเจนในการหาเสียงจะยุบสภาหลังร่างรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จซึ่งถือเป็นสัญญาประชาคม
นอกจากนี้นายประหยัดกล่าวด้วยว่า การที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรีออกมาพูดถึงการยืดอายุสภาร่างฯ นั้นคงต้องการทดสอบว่าประชาชนจะมีความรู้สึกเรื่องนี้อย่างไร หากประชาชนไม่ต่อต้านรุนแรงก็อาจตีขลุมไปว่าประชาชนเห็นชอบแล้ว ฉะนั้นส่วนตัวจึงเห็นว่าเรื่องนี้มีแต่เสียกับเสีย พร้อมระบุการยืดอายุส.ส.ร.ก็เพื่อยืดอายุรัฐบาลไม่ให้น่าเกลียดนัก
"การเลือกตั้งแต่ละครั้งนักการเมืองต้องการอยู่ให้ยาวที่สุด เท่าที่จะยาวได้ แต่ในขณะที่หาเสียงไม่ทราบว่ามีอะไรที่ดลใจให้ท่านใช้เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มารัดคอท่าน เพราะความจริงแล้วปัจจัยต่าง ๆ ที่ท่านใช้หาเสียงเลือกตั้งนั้นน่าจะทำให้ท่านมั่นใจได้แล้วว่าท่านชนะเลือกตั้งแน่" นายประหยัดกล่าว
นายประหยัดกล่าวอีกว่ายังเป็นไปไม่ได้ที่จะเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีโดยตรง เพราะในวัฒนธรรมและสังคมไทย อาจต้องเขียนโครงสร้างทางการเมืองใหม่ เป็นระบบแยกอำนาจหรือระบบประธานาธิบดีที่ไม่มีการคุมอำนาจซึ่งกันและกัน เพราะหน้าที่ควบคุมตรวจสอบจะเป็นของประชาชน และนายกรัฐมนตรีอยู่ในตำแหน่งจนครบ 4 ปี ซึ่งต้องพิจารณาด้วยว่าประชาชนมีเวลาและมีความสามารถทางการเมืองติดตามเฝ้าจับตามองการปฎิบัติหน้าที่ของฝ่ายการเมืองหรือไม่และส่วนตัวต้องการเห็นการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีก่อนเป็นการนำร่อง เพราะอยู่ในเขตการปกครองเล็ก ๆ ถ้าดีชั่วอย่างไรก็ปรับปรุงแก้ไขได้และต่อไปก็อาจเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดโดยตรง ไม่ใช่กระโดดจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งโดยไม่ผ่านขั้นตอนที่ควรจะเป็น
อย่างไรก็ตามนายประหยัดเชื่อด้วยว่ารัฐธรรมนูญจะไม่ผ่านสภา เพราะถ้าเห็นว่าบทบัญญัติรัฐธรรมนูญที่ส.ส.ร.กำลังร่างอยู่เป็นไปตามความต้องการของประชาชนก็ย่อมเป็นบทบัญญัติที่ทุบหม้อข้าวนักการเมือง ซึ่งนักการเมืองที่ได้รับตำแหน่งไม่ถูกต้องย่อมไม่ยอม และในส่วนของการกำหนดให้ประชาชนไปเลือกตั้งโดยถือเป็นหน้าที่นั้น นายประหยัดก็ไม่เห็นด้วย เพราะต้องการให้หาวิธีการสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนรับผิดชอบไปใช้สิทธิของตนเองมากกว่า โดยส่วนตัวเคยเสนอให้ประชาชนไปลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เพื่อป้องกันการใช้สิทธิ์ของผู้อื่น และหากผู้ขอลงทะเบียนไม่มาใช้สิทธิ์จะถูกตัดสิทธิ์ในการลงคะแนนเลือกตั้งไป 1 หรือ 2 สมัยเลือกตั้ง ทั้งนี้จะเป็นการทำให้ประชาชนรู้สึกหวงแหนและผูกพันธกับสิทธิที่ตนเองมีอยู่--จบ--