ในอดีตคนจีนนิยมใช้ลูกเดือยผสมกับข้าวต้มรับประทานเพื่อบำรุง กำลัง หล่อลื่นกระเพาะอาหารและลำไส้ แก้ท้องเสีย เหน็บชา (ลูกเดือยมีวิตามินบีหนึ่งมากกว่าข้าวกล้องทำให้ช่วยแก้เหน็บชาได้) ปวดข้อ ทำให้ผิวสวย แก้ร้อนใน และยังช่วยยับยั้งสารก่อมะเร็ง
บางคนอาจไม่รู้ว่า ลูกเดือยมีทั้งกินได้และกินไม่ได้ ชนิดที่กินได้มีเปลือกผลอ่อนเรียกว่า เดือยกิน ปลูกไว้เพื่อไว้เป็นอาหารและทำยา
ในชุมชนไทยพวนบ้านดงกระทงยาม ใช้เดือยหินเป็นยาขับปัสสาวะ สามารถนำเดือยหินทั้งหา หญ้าหนวดแมวและซาคนที มาต้มเคี่ยวเข้าด้วยกันเพื่อใช้กับคนที่ปัสสาวะไม่ออก การแพทย์แผนใหม่เรียกโรคนี้ว่าระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบนอกจากใช้เป็นยาขับ ปัสสาวะหมอยายังใช้รากเดือยต้มกินแก้ปวด แก้ไข้ แก้ไอ เนื่องจากพืชตระกูลข้าวมีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะเดือยก็เช่นกัน ส่วนใหญ่ใช้รากมาต้ม บางครั้งใช้เดือยตัวเดียว บางครั้งใช้ร่วมกับสมุนไพร นอกจากเป็นประโยชน์ต่อในการรักษาระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบแล้ว ยังช่วยลดอาการบวมน้ำลดความดัน
ในอดีตคนจีนนิยมใช้ลูกเดือยผสมกับข้าวต้มรับประทานเพื่อบำรุง กำลัง หล่อลื่นกระเพาะอาหารและลำไส้ แก้ท้องเสีย เหน็บชา (ลูกเดือยมีวิตามินบีหนึ่งมากกว่าข้าวกล้องทำให้ช่วยแก้เหน็บชาได้) ปวดข้อ ทำให้ผิวสวย แก้ร้อนใน และยังช่วยยับยั้งสารก่อมะเร็ง
ลูกเดือยเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับผู้หญิง คนสมัยก่อนเชื่อว่า กินลูกเดือยแล้วทำให้ผิวสวย ผมสวย บำรุงมดลูก
การศึกษาสมัยใหม่พบว่า สารสกัดด้วยน้ำหรือตัวทำละลายอินทรีย์จากรากหรือเมล็ดเดือย ทำให้การหมุนเวียนของเลือด ที่ผิวหนังดีขึ้น ทำให้เส้นผมเจริญดีขึ้น และมีการศึกษาพบว่าสารสกัดของลูกเดือยมีผลกระตุ้นการเจริญของ Ovarian follicle และกระตุ้นให้ไข่ตก
ปัจจุบันจีนสกัดสารจากเมล็ดเดือยเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อรักษาและป้องกันมะเร็ง โดยยับยั้งและฆ่าเซลล์มะเร็ง กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายเพื่อช่วยการกำจัดมะเร็ง ช่วยลดความปวดจากมะเร็ง ทำให้น้ำหนักที่ลดลงเพิ่มขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.thaihealth.or.th ภายใต้ความร่วมมือของสสส. และวิชาการดอทคอม
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--