ทีมวิทยากรที่ให้คำแนะนำการผลิตจากกรมป่าไม้
1. นายวรธรรม อุ่นจิตติชัย นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ กรมป่าไม้
2. นายนภดล กีรติจิรัฐติกาล ผู้ช่วยศาสตราจารย์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
3. นายการ คันธโชติ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
ซึ่งทุกฝ่ายต่างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการหาแนวทาง คิดค้น หารูปแบบและการปรับเปลี่ยนวิธีการผลิตให้มีความเหมาะสม การปรับเปลี่ยนลวดลายพื้นผิวเพื่อการสร้างความสวยงามที่หลากหลายและแตกต่าง และร่วมทดลองฝึกปฏิบัติการผลิตแผ่นลามิเนตแบบชนิดแผ่นขี้กบไม้ยางพาราผสมชิ้นลูกเต๋าไม้ยางพารา และทดลองนำเศษวัสดุอื่นมาพัฒนารูปแบบลวดลายพื้นผิวให้เหมาะกับความต้องการของตลาด
ภาพแสดงการนำแผ่นลามิเนตที่ทำลวดลายโดยเต๋ากลมชุบสีและนำมาผ่านการขัดผิวหน้าเพื่อให้เกิดความเรียบเสมอกัน ผลที่ได้คือสีที่ลูกเต๋าหลุด สาเหตุเกิดจากการดูดซึมของสีที่ลูกเต๋ายังน้อยเกินไปทำให้เมื่อทำการขัดผิวจึงทำให้สีหลุดออก
จากการทดลองนำเต๋ากลมชุบสีมาทำลวดลาย พบว่ามีสีสันสวยงาม สามารถเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับการปรับเปลี่ยนลวดลาย จากสีธรรมชาติได้ จึงมีความคิดร่วมกันว่า หากต้องการลวดลายเต๋ากลมชุบสีแบบสีสดใส เมื่อทำการอัดแผ่นเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องนำไปขัดผิวหน้า แต่สามารถแก้โดยการนำแล็คเกอร์ทา หรือ การนำเรซินมาเททับด้านหน้า จะทำให้คงสีสันสดใสของสีที่ชุบได้ หรือขัดพื้นผิวออกเพียงเล็กน้อย และทาแล็กเกอร์ทับให้คงความสดใสของสีไว้ จากผลการทดลองนี้ สามารถนำชิ้นงานที่ได้ไปผลิตเป็นหน้าโต๊ะได้
- ผลที่ได้จากการทดลองผลิต
- ผลจากการทดลองนำใบไม้สดมาทำลวดลาย สีของใบไม้จะยังเหมือนของจริง
- ผลจากการทดลองนำใบไม้แห้งมาทำลวดลาย ใบไม้ที่นำมาอัดจะแตกและจมในขี้เลื่อย
1. ขี้กบไม้ยางพารา ร่อนด้วยตะแกรงกลาง เบอร์ 4
2. ชิ้นลูกเต๋าไม้ยางพารา ขนาด 7 x 7 x 7 มม.(ไม่อบและผ่านการอบ)
3. กาว pMDI
1. นำขี้กบไม้ยางพารา ร่อนคัดขนาดด้วยตะแกรงกลางออกมาในแต่ละขนาด ซึ่งในการผลิตแผ่นครั้งนี้ใช้ เพียงขี้กบไม้ยางพาราเบอร์ 4 เท่านั้น
2. ทดสอบหาความชื้นก่อนอัดแผ่น โดยขี้กบไม้ยางพารามีความชื้น 9%
3. อัดแผ่นขี้กบไม้ยางพาราผสมชิ้นลูกเต๋าไม้ยางพาราในการผลิตแผ่นจะใช้ลูกเต๋า 2 แบบ คือ ลูกเต๋าที่ไม่ผ่านการอบและลูกเต๋าที่ผ่านการอบ
3.1 ชั่งน้ำหนักขี้กบไม้ยางพาราตามที่กำหนด
3.2 ชั่งน้ำหนักกาวตามที่กำหนด
3.3 ผสมกาวกับชิ้นลูกเต๋าไม้ยางพารา
3.4 ทำการฟอร์มแผ่น โดยโรยชิ้นขี้กบลงบนกล่องสำหรับฟอร์มแผ่นที่เตรียมไว้
3.5 เมื่อฟอร์มแผ่นเสร็จเรียบร้อยแล้ว นำชิ้นลูกเต๋าไม้ยางพาราที่เตรียมไว้ วางลงบนผิวหน้าของแผ่นขี้กบไม้ยางพาราที่ฟอร์มเตรียมไว้
3.6 นำแผ่นที่ได้เข้าเครื่องอัดร้อน โดนใช้เวลาอัดร้อน 5 นาทีที่อุณหภูมิ 120? C แรงดัน 150 kg/sp.cm
3.7 เมื่อครบเวลาที่กำหนด นำแผ่นออกจากเครื่องอัดร้อน
3.8 นำแผ่นที่ได้ผึ่งในสภาวะบรรยากาศ เพื่อปรับสภาวะแผ่น
3.9 ตัดขนาดตามต้องการ
3.10 นำแผ่นที่ผลิตได้ไปขัดด้วยกระดาษทราย
3.11 ทาชิลเลอร์ รอให้แห้งแล้วขัดด้วยกระดาษทรายเบาๆ แล้วทาซิลเลอร์อีก (ทำซ้ำประมาณ 4 ครั้ง)
3.12 ทาแลกเกอร์ด้าน รอให้แห้งแล้วขัดด้วยกระดาษทรายเบาๆแล้วทาแลกเกอร์ด้านอีก (ทำซ้ำประมาณ 4 ครั้ง) หมายเหตุ การอบชิ้นลูกเต๋า โดย นำชิ้นลูกเต๋าห่อกระดาษฟลอยให้มิดชิด จากนั้นนำเข้าตู้อบ อบด้วยอุณหภูมิ 160 ? C เป็นเวลา 2 ชั่วโมง เมื่อครบเวลาที่กำหนด นำเอาออกมาจากตู้อบ
ผังขั้นตอนการผลิตแผ่น
- ขี้กบไม้ยางพารา เบอร์ 4
- ผสมกาว
- ฟอร์มแผ่น
- วางชิ้นลูกเต๋าลงในแผ่นที่ฟอร์ม
- ตัดตามขนาดที่ต้องการ
- อัดร้อน
- ตัดขนาดตามที่ต้องการ
- ทาซิลเลอร์
- ทาแล็กเกอร์ด้าน
ความหนาแน่นของแผ่นที่กำหนด 0.8 กรัม/ ลบ.ซม. ความหนาแน่นของแผ่น 10 มม. แรงดัน 150 kg/cm2 อุณหภูมิ 120 0C ปริมาณกาว pMDI (เทียบกับชิ้นวัสดุ) 7% ขนาดแผ่น 400 X 600 X 10 มม.
= 2,400 ซม3
ความหนาแน่นของแผ่นแห้ง = น้ำหนักแผ่น / ปริมาตรแผ่น น้ำหนักของแผ่น = 0.8 X 2,400
= 1,920.00 กรัม
น้ำหนักแห้งของชิ้นวัสดุ = X กรัม X + 0.07X = 1,920.00 กรัม 1.07X = 1,920.00 กรัม X = 1,920.00
1.070
น้ำหนักแห้งของชิ้นวัสดุ = 1,794.39 กรัม ปริมาณกาว 7% ปริมาณวัสดุที่ความชื้น 9.00 % = 1,794.39 X 1.09
= 1,955.89 กรัม
ปริมาณกาว 7% (กาวแห้งเทียบกับชิ้นวัสดุ) = 1,794.39 X 0.07
= 125.61 กรัม
ปริมาณการโรยแผ่น = 1,955.89 + 125.61
= 2,081.50 กรัม เผื่อ Spray 10%
ปริมาณวัสดุ = 1,955.89 X 1.1
= 2,151.48 กรัม
ปริมาณกาว 7% = 125.61 X 1.1
= 138.17 กรัม
ความหนาแน่นของแผ่นที่กำหนด 0.8 กรัม/ ลบ.ซม. ความหนาแน่นของแผ่น 16 มม. แรงดัน 150 kg/cm2 อุณหภูมิ 120 0C ปริมาณกาว pMDI (เทียบกับชิ้นวัสดุ) 7% ขนาดแผ่น 400 X 600 X 16 มม.
= 3,840 ซม3
ความหนาแน่นของแผ่นแห้ง = น้ำหนักแผ่น / ปริมาตรแผ่น น้ำหนักของแผ่น = 0.8 X 3,840
= 3,072.00 กรัม
น้ำหนักแห้งของชิ้นวัสดุ = X กรัม X + 0.07X = 3,072.00 กรัม 1.07X = 3,072.00 กรัม X = 3,072.00
1.070
น้ำหนักแห้งของชิ้นวัสดุ = 2,871.03 กรัม ปริมาณกาว 7% ปริมาณวัสดุที่ความชื้น 9.00 % = 2,871.03 X 1.09
= 3,129.42 กรัม ปริมาณกาว 7%
(กาวแห้งเทียบกับชิ้นวัสดุ) = 2,871.03 X 0.07
= 200.97 กรัม
ปริมาณการโรยแผ่น = 3,129.42 + 200.97
= 3,330.39 กรัม เผื่อ Spray 10%
ปริมาณวัสดุ = 3,129.42 X 1.1
= 3,442.36 กรัม
ปริมาณกาว 7% = 200.97 X 1.1
= 221.07 กรัม
1. หินสีขนาดเล็กที่ใช้ในตู้ปลา สีต่างๆ
2. ปล้องไม้ไผ่ตัดหนาประมาณ 1 ซม.
3. หินสีดำ สำหรับใช้ตกแต่ง
4. ตะเกียบไม้
5. เต๋ากลมไม้ยางพารา
6. แผ่นไม้ยางพาราขนาดเท่าไม้บรรทัด
7. แผ่นไม้ยางพาราสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 1 ซม. * 3 ซม.และขนาด 2 ซม. * 4 ซม.
8. ดอกไม้
9. ถั่วแดง ถั่วดำ ถั่วเขียว
สำหรับการผลิตแผ่นลามิเนตจากเศษไม้ที่เหลือใช้จากการผลิตในครั้งนี้นับเป็นการเริ่มทดลองครั้งแรก จึงทำให้พบปัญหาระหว่างการผลิตหลายประเด็น ดังนั้นผู้ที่สนใจนำความรู้นี้ไปใช้ผลิตต่อไป ขอให้คำนึงถึงข้อสังเกต ดังนี้
1. ควรมีการอบขี้เลื่อยเพื่อไล่ความชื้น และนำออกมาพักให้ขี้เลื่อยคลายความชื้นจนแห้งสนิทก่อนนำไปผลิตทุกครั้ง
2. จากการทดลองผลิต พบว่าการใช้ขี้เลื่อยที่มีความหยาบมากจะส่งผลต่อความหนาแน่นของแผ่นน้อย จะมีการแตกหักได้ง่าย หากใช้ขี้เลื่อยที่มีความละเอียดมากจะทำให้แผ่นมีความแข็งแรงมาก ดังนั้น ควรพิจารณาการผลิตผลิตภัณฑ์แผ่นลามิเนตแต่ละชนิดต้องใช้ขี้เลื่อยหยาบระดับใด
3. หากวัสดุประเภทไม้ที่จะนำมาทำลวดลายไม่ได้อบไล่ความชื้น จะทำให้มีความชื้นในแผ่นลามิเนตหลังผลิตเสร็จ และจะส่งผลต่อความแข็งแรงของไม้ลามิเนตในระยะต่อไป
4. การสเปรย์กาว หากใช้คนพ่นจะทำให้กาวไม่สม่ำเสมอ และสเปรย์กาวที่ใช้คนพ่นจะฟุ้งกระจายออกมานอกถัง ซึ่งจะส่งผลให้ขี้เลื่อยไม่ได้กาวในสัดส่วนที่คำนวณไว้ ทำให้การยึดเกาะของขี้เลื่อยไม่ดี อาจทำให้แผ่น แตกหักง่าย ควรใช้ถังที่สเปรย์กาวอัตโนมัติ หากไม่มีถังสเปรย์กาวอัตโนมัติ ก็ควรมีการทำฝาปิดไม่ให้สเปรย์กาวฟุ้งกระจายออกมานอกถัง
5. การเข้า-ออกของการฟอร์มแผ่น ควรเข้าพร้อมๆ กัน ไม่ควรให้แผ่นแรกรอการฟอร์มแผ่นที่ 2 และแผ่นที่ 3 ควรเตรียมความพร้อมของวัสดุ ลวดลาย ขี้เลื่อยที่ใช้ในแต่ละเพลท ให้เสร็จพร้อมกัน การดันแผ่นเพลทเข้าเครื่องควรดันเข้าพร้อมกันทุกเพลทใช้เวลาในการอัดร้อนเท่ากันทุกเพลท
6. ความร้อนที่ใช้ในการผลิตควรมีอุณหภูมิ 120 oC และเป็นความร้อนที่มีความสม่ำเสมอ
Cluster Info
คลัสเตอร์ Activities ผลิตภัณฑ์ไม้ยางพารา
ภาคตะวันออก (EPPC) จังหวัดชลบุรี
ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 9 จังหวัดชลบุรี
โทร. 0-3878-4654-5
โทรสาร 0-3826-1201
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--