บทความ: รู้จัก "ไมเกรน" ดีหรือยัง?

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 9, 2010 13:33 —กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม

รู้จัก "ไมเกรน" ดีหรือยัง?

ไมเกรน เป็นอาการปวดหัวที่พบได้บ่อย พบได้ทุกวัยและพบมากในช่วงอายุ 10-30 ปี โรคนี้มักเป็นๆหายๆเรื้อรัง สร้างความรำคาญ ทรมานและทำให้เสียงานได้

ไมเกรนเป็นอาการ ปวดหัวที่พบได้บ่อย พบได้ทุกวัยและพบมากในช่วงอายุ 10-30 ปี โรคนี้มักเป็นๆหายๆเรื้อรัง สร้างความรำคาญทรมานและทำให้เสียงานได้

ปวดหัวอย่างไรถึงเป็นไมเกรน

มีอาการนำมาก่อนที่จะปวด ประมาณ 15-20 นาที เช่น เห็นแสงวูบวาบเป็นสีเหลืองๆ ตามัว คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย บางรายมีอาการหงุดหงิด ง่วงนอนมาก หรือมีอาการทางจิต เช่น วิตกกังวล ซึมเศร้า แต่อาการเหล่านี้ไม่พบในทุกรายที่ปวดไมเกรน

มักมีอาการปวดหัวข้างเดียว (หรือ 2 ข้าง) บริเวณขมัยหรือเบ้าตา บางคนอาจปวดท้ายทอยได้ มักปวดแบบตุบๆ และจะปวดในระดับกลางถึงมาก แต่ถ้าปวดพอรำคาญน้อยๆ โอกาสเป็นไมเกรนจะน้อย นอกจากนั้นอาการปวดแบบไมเกรนนั้น เมื่อหายปวดจะหายสนิท โดยในช่วงที่ปวดจะปวดนาน 2-4 ชั่วโมง หรือนาน 2-3 วัน

มีอาการร่วมขณะปวดหัว ซึ่งแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน เช่น เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน ท้องเดิน รู้สึกเย็นตามปลายมือปลายเท้า กลัวแสง เป็นต้น

ไมเกรนเกิดจากอะไร

ยังไม่มีการยืนยันสาเหตุที่แน่นอน เชื่อว่าเกิดจากการมีปัจจัยกระตุ้นให้เส้นประสาทในสมองหลั่งสารบางอย่างออกมาและสารพวกนี้ไปทำให้เส้นเลือดขยายตัว การที่เส้นเลือดขยายตัวนี้เองทำให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรน

สาเหตุที่กระตุ้นให้เกิดการปวด

สิ่งกระตุ้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน เช่น

  • อยู่ในที่มีเสียงดัง อากาศร้อนหรือเย็นเกินไป มีแสงสว่างจ้า
  • การใช้สายตาเพ่งดูอะไรนานๆ
  • การสูดดมกลิ่นฉุนๆ เช่น ควันบุหรี่
  • การอดนอนหรือนอนมากเกินไป
  • หิวจัดหรือกินอาหารผิดเวลา
  • ความเครียดทางอารมณ์
  • การถูกกระแทกแรงๆที่มีศีรษะ
  • อิทธิพลของโฮโมนเพศ มีประจำเดือน หรือก่อนมีประจำเดือน การใช้ยาคุมกำเนิด
  • อาหารบางชนิด เช่น กาแฟ เนยแข็ง ช็อกโกแลต นมเปรี้ยว เหล้า เบียร์ อาหารทะเล อาหารทอด ผงชูรส ผลไม้รสเปรี้ยวอย่างส้ม มะนาว เป็นต้น

ไมเกรนรักษาอย่างไร

ที่สำคัญคือ ควรสังเกตตัวเองว่า อะไรที่กระตุ้นให้เกิดอาการปวดแล้วหลีกเลี่ยงสิ่งนั้น

การรักษาด้วยยา

การใช้ยาขณะมีอาการ ควรใช้ให้เร็วที่สุด ถ้าใช้ตอนที่ปวดหัวมากแล้ว มักจะไม่ค่อยได้ผล ถ้าปวดไม่มาก หรือคาดการณ์ล่วงหน้าว่า จะเกิดอาการปวดให้กินยาพาราเซตามอล หรือแอสไพริน ทันทีเพื่อป้องกันและบรรเทาอาการและพักผ่อนในที่มืดและเงียบๆ สักครู่ ถ้าวิธีดังกล่าวไม่ได้ผล ควรรีบปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

การใช้ยาพวกเออร์กอตตามีน เช่น คาเฟอร์กอด(Cafergot) โพลีกอด(Polygot) เพื่อรักษาอาการปวดศีรษะไมเกรน ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์หรือเภสัชกรคำแนะนำวิธีใช้ยานี้ มีดังนี้

ให้รับประทานยาทันทีที่มีอาการ 1-2 เม็ด ถ้าไม่หายให้ซ้ำได้อีก 1 เม็ด ทุก 30 นาที แต่ไม่เกิน 6 เม็ดต่อวันและ 10 เม็ดต่อสัปดาห์

ไม่ควรทานเกินขนาดเพราะอาจเกิดพิษจากยา เช่น เส้นเลือดปลายมือปลายเท้าหดตัวรุนแรงจนขาดเลือด หรือหากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานา จะทำให้มีอาการปวดหัวเรื้อรัรงได้

ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์

ห้ามใช้ในผุ้ที่เป็นโรคตับ โรคไต โรคหัวใจขาดเลือดและเส้นเลือดตีบ

มียาที่ใช้ป้องกันการเกิดหรือไม่ ในบางรตายที่มีอาการปวดบ่อยๆ ปวดรุนแรง อาจจำเป็นต้องใช้ยาป้องกันลดความถี่หรือความรุนแรง แต่เนื่องจากเป็นยาที่มีผลข้างเคียงและมีข้อห้ามใช้หลายประการจึงควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชก่อนใช้

ข้อพึงระวัง

อาการปวดศีรษะบ่อยๆ อาจเป็นอาการแสดงของปัญหาที่รุนแรงได้และการใช้ยาแก้ปวดนานๆอาจได้รับพิษจากยาได้ ในกรณีนี้ไม่ควรใช้ยารักษาเองแต่ควรปรึกษาแพทย์

--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ