คปภ. ตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือด้านการประกันภัย แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม

ข่าวทั่วไป Friday November 5, 2010 13:24 —คปภ.

สำนักงาน คปภ. เพิ่มมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จัดตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือด้านการประกันภัยในพื้นที่ 48 จังหวัดแล้ว ย้ำประชาชนให้รีบแจ้งความเสียหายด้านการประกันภัยแก่บริษัททันทีหลังน้ำลด เพื่อพิจารณาดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนด้วยความรวดเร็วและเป็นธรรม

นางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการ คปภ. เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาสำนักงาน คปภ. จังหวัดในพื้นที่เกิดอุทกภัยทั้ง 48 จังหวัด ได้ตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือด้านการประกันภัยโดยทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางประสานบริษัทประกันวินาศภัย บริษัทประกันชีวิต บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด อู่กลางการประกันภัย ชมรมประกันภัย และอาสาสมัครประกันภัยให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยด้านการประกันภัยในทุกกรณี เช่น บริการค้นหาข้อมูลกรมธรรม์ประกันภัยหาย ด้วยระบบฐานข้อมูลรับแจ้งเหตุบริการรถลาก ให้คำปรึกษาด้านการประกันภัย และเร่งรัดให้บริษัทประกันภัยดำเนินการตรวจสอบพร้อมจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในทันที่ ทั้งนี้ ล่าสุดสำนักงาน คปภ. ได้รับรายงานความคืบหน้าการสำรวจความเสียหายด้านการประกันภัยในพื้นที่เกิดอุกภัยน้ำท่วม ณ วันที่ 8 พ.ย. 53 จากการตรวจสอบเบื้องต้นของผู้เสียชีวิต จำนวน 38 ราย พบว่ามี 4 ราย ที่มีการทำประกันชีวิตและประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล โดยบริษัทประกันภัยได้จ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียชีวิตแล้ว รวมเป็นจำนวนเงินเอาประกันภัย ทั้งสิ้น 3,464,400 บาท ส่วนที่เหลืออยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ด้านความเสียหายต่อรถยนต์ เป็นจำนวน 2,796 คัน คิดเป็นมูลค่าเงินเอาประกันภัยทั้งสิ้น 286 ล้านบาท และความเสียหายต่อทรัพย์สิน เป็นจำนวน 755 ราย คิดเป็นมูลค่าเงินเอาประกันภัยทั้งสิ้น 407 ล้านบาท

ทั้งนี้ ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ที่ทำประกันภัยประเภท 1 จะได้รับคุ้มครองตามความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด และหากรถยนต์เสียหายจนไม่สามารถซ่อมได้หรือประเมินมูลค่าความเสียหายตั้งแต่ร้อยละ 70 ของมูลค่ารถ บริษัทประกันภัยจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนเต็มจำนวนเงินเอาประกันภัย ส่วนกรณีที่รถถูกน้ำซัดไปชนรถคันอื่นจนได้รับความเสียหาย กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 จะให้ความคุ้มครองแก่ตัวรถที่ทำประกันภัยเท่านั้น

เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า การประกันภัยสามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายและบรรเทาความเดือดร้อนด้านการเงินตลอดจนการดำเนินการต่างๆในกรณีเกิดภัยที่ไม่คาดคิดขึ้น ดังนั้น จึงไม่ควรมองข้าม อย่างไรก็ตาม หากประชาชนสนใจซื้อประกันภัยควรทำความเข้าใจกับกรมธรรม์ประกันภัยก่อน ทั้งนี้ เพื่อสามารถเลือกซื้อความคุ้มครองได้ตรงกับความต้องการของตนเองมากที่สุด

ฝ่ายสื่อสารองค์กร

โทร 0-2513-1680

ที่มา: http://www.oic.or.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ