นางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ). เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ทางเขตภาคเหนือ อันเนื่องมาจากพายุโซนร้อน “นกเตน” ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายในหลายจังหวัดทางภาคเหนือรวม 22 จังหวัดปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยได้คลี่คลายแล้ว แต่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 9 จังหวัด รวม 60 อำเภอ 435 ตำบล 2,924 หมู่บ้าน ประชาชนเดือดร้อน 172,170 ครัวเรือน 411,585 คน ได้แก่ แพร่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก ตาก นครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยาและมุกดาหาร พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย มีผู้เสียชีวิต 22 ราย และสูญหาย 1 ราย
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ สำนักงาน คปภ. ในจังหวัดที่ประสบอุทกภัยประสานให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วนแล้ว โดยร่วมมือกับจังหวัด และสาขาบริษัทประกันวินาศภัย บริษัทประกันชีวิต บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด อู่กลางประกันภัย เพื่อช่วยเหลือดูแลยานพาหนะที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยในแต่ละพื้นที่ทันที และจัดตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือด้านการประกันภัย เช่น รับแจ้งเหตุ แนะนำดูแลรถภายหลังน้ำลด หากผู้เอาประกันภัยรายใดยังไม่ได้แจ้งความเสียหายของทรัพย์สินที่เกิดขึ้น ขอให้รีบแจ้งบริษัทประกันภัยทราบโดยทันที ก่อน สำนักงาน คปภ. จะได้เร่งประสานให้การจ่ายค่าสินไหมทดแทน สะดวก รวดเร็ว และเป็นธรรมต่อไป ซึ่งขณะนี้สำนักงาน คปภ. อยู่ระหว่างการรวบรวมความเสียหายของทรัพย์สินที่เอาประกันภัย โดยคาดการณ์ว่าภายหลังน้ำลดแล้วจะมีผู้เอาประกันภัยมาแจ้งความเสียหายเพิ่มเติม ในเบื้องต้นได้รับรายงานว่าผู้เสียชีวิตจำนวน 1 รายมีการทำประกันชีวิตไว้กับบริษัทประกันภัย
เลขาธิการฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า มีความเป็นห่วงผู้ประสบอุทกภัยเป็นอย่างยิ่ง เพราะปัจจุบันเกิดภัยธรรมชาติอย่างบ่อยครั้ง ดังนั้น ขอแนะนำให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการทำประกันภัยที่สามารถช่วยบรรเทาความเดือนร้อนทางการเงินได้ โดยเฉพาะการประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ การประกันอัคคีภัย ที่สามารถซื้อประกันภัยเพิ่มเติมได้ เช่น ภัยจากแผ่นดินไหว ลมพายุ น้ำท่วม หรือลูกเห็บ เป็นต้น ซึ่งมีเบี้ยประกันภัยจำนวนเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับความคุ้มครองและประโยชน์ที่จะได้รับนั้นคุ้มค่า หากท่านมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ สายด่วนประกันภัย 1186
ฝ่ายสื่อสารองค์กร สำนักงาน คปภ.
โทร. 02 — 5131680 โทรสาร. 02 - 5131437
ที่มา: http://www.oic.or.th