นางสาวชำเลือง ชาติสุวรรณ ที่ปรึกษา สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงาน คปภ. ได้เชิญบริษัทประกันวินาศภัย มาประชุมเพื่อหามาตรการ และมอบนโยบายในการเร่งดำเนินการให้ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยให้แต่ละบริษัทประกันภัยรวบรวมข้อมูลของผู้เอาประกันภัย และประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยแยกประเภทเป็น การประกันภัยรถยนต์ การประกันภัยที่อยู่อาศัย และการประเมินทรัพย์สินอื่นๆ ของแต่ละจังหวัดที่ได้รับความเสียหาย และขอให้บริษัทประกันภัยทุกบริษัทสรุปรายงานความคืบหน้า การให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัย แก่สำนักงาน คปภ. ทราบในทุกๆ สัปดาห์ นั้น
ล่าสุด สำนักงาน คปภ. ได้รับรายงานจากบริษัทประกันภัยในการให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบ-อุทกภัย ณ วันที่ 29 กันยายน 2554 ดังนี้
1. ด้านความเสียหายต่อรถยนต์ที่เอาประกันภัย ได้รับรายงานความเสียหาย จำนวน 252 คัน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 21,003,816 บาท โดยบริษัทประกันภัยได้เข้าไปรับผิดชอบดูแล ผู้เอาประกันภัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการซ่อมแซม
2. ด้านความเสียหายต่อทรัพย์สิน และการประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย ได้รับรายงานความเสียหายกว่า 500 หลังคาเรือน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 40,607,252 บาท ทั้งนี้ บริษัทประกันภัยได้เข้าไปสำรวจภัยทันทีโดยไม่รอให้น้ำลดเนื่องจากเป็นมหันตภัย โดยสามารถประเมินความเสียหายและเจรจาชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยแล้ว ประมาณ 20 ล้านบาท
3. ด้านการให้ความช่วยเหลืออื่นๆ ขณะนี้ภาคธุรกิจประกันภัยได้มีการดำเนินการ ให้ความช่วยเหลือ ดังนี้
- บริษัทประกันภัยได้จัดให้บริการรถยก ประจำทุกจังหวัดโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อ
- บริการแจกถุงยังชีพในพื้นที่ประสบอุทกภัย
- จัดตั้งศูนย์ให้บริการด้านการประกันภัยในทุกพื้นที่ประสบอุทกภัย
โดยขณะนี้ สำนักงาน คปภ. ได้ให้บริษัทประกันภัยทุกบริษัทเร่งดำเนินการสำรวจความเสียหายของผู้เอาประกันภัย เพื่อให้จ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้ประสบอุทกภัยอย่างรวดเร็ว
ที่ปรึกษา สำนักงาน คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันบริษัทประกันภัย มีนโยบายในการแข่งขันการให้บริการในการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน และการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม ควบคู่กับการส่งเสริมทางด้านการตลาด ซึ่งสำนักงาน คปภ. พร้อมให้ความคุ้มครองสิทธิประโยชน์ และดูแลประชาชนด้วยความรวดเร็ว ถูกต้อง โปร่งใส และเป็นธรรม หากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนประกันภัย 1186
ที่มา: http://www.oic.or.th