คปภ. เตือนประชาชนตรวจสอบวันหมดอายุของกรมธรรม์ประกันภัย

ข่าวทั่วไป Thursday October 27, 2011 14:05 —คปภ.

นางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นได้รับรายงานว่ามีผู้เอาประกันภัยที่ได้รับความเสียหายจากเหตุอุทกภัย ได้เริ่มทยอยแจ้งความเสียหายกับบริษัทประกันภัย ตัวเลขความเสียหายล่าสุด ณ วันที่ 25 ตุลาคม 2554 ดังนี้

1) ความเสียหายต่อรถยนต์ จำนวน 2,004 คัน รวมค่าสินไหมทดแทน 211,521,285 บาท

2) ความเสียหายต่อทรัพย์สิน จำนวน 2,862 ราย รวมมูลค่าจำนวน 5,924,312,735 บาท

3) ผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต จำนวน 58 ราย รวมเงินเอาประกันภัย 11,093,652 บาท

สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับนิคมอุตสาหกรรมทั้ง 7 แห่ง ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรม สหรัตนนคร นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ นิคมอุตสาหกรรม Hi-Tech นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน เขตประกอบอุตสาหกรรมแฟคตอร์รี่แลนด์ นิคมอุตสาหกรรมนวนคร และนิคมอุตสาหกรรมบางกระดี บางพื้นที่ได้มีบริษัทประกันภัยเข้าไปสำรวจ และประเมินมูลค่าความเสียหายบ้างแล้ว ในเบื้องต้นประมาณการมูลค่าความเสียหายรวม 140,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เนื่องจากน้ำที่ท่วมขังยังไม่ถูกระบายออกทำให้เครื่องจักรที่จมน้ำมีการเสื่อมสภาพเร็วขึ้น อย่างไรก็ตามคงต้องรอการประเมินอย่างเป็นทางการภายหลังน้ำลดอีกครั้ง

เลขาธิการ คปภ.กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการพิจารณาการต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองถึงภัยน้ำท่วมนั้น เช่น การประกันภัยทรัพย์สิน การประกันภัยที่อยู่อาศัยแบบแพคเกจ คุ้มครองภัยธรรมชาติ 5 ภัย และการประกันภัยอุบัติเหตุทั้งแบบทั่วไป และแบบรายย่อย (ไมโครอินชัวรันส์) เป็นต้น บริษัทประกันภัยก็ยังจะพิจารณาต่ออายุให้ แต่ขอให้ผู้เอาประกันภัยตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัยว่าหมดอายุเมื่อใด ทั้งนี้ในการต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยนั้น โดยทั่วไปบริษัทประกันภัยจะมีหนังสือแจ้งเตือนผู้เอาประกันภัยล่วงหน้าก่อนหมดอายุ 30 วัน จึงขอให้ผู้เอาประกันภัยแจ้งการต่ออายุภายในระยะเวลาดังกล่าว หรือเมื่อตรวจสอบแล้วกรมธรรม์ประกันภัยจะหมดอายุแต่ไม่ได้รับหนังสือ ก็ขอให้แจ้งยืนยันการต่ออายุกับบริษัทประกันภัยโดยช่องทางใดก็ได้เพื่อให้มีความคุ้มครองต่อเนื่อง ทั้งนี้ หากกรมธรรม์ประกันภัยได้มีการตกลงขยายระยะเวลาความคุ้มครองแบบอัตโนมัติไว้ ผู้เอาประกันภัยก็จะได้รับความคุ้มครองเพิ่มเติมต่อเนื่องอีก 30 วัน นับจากวันหมดอายุ

นอกจากนี้ สาขาของบริษัทประกันภัยที่อยู่ในจังหวัดที่ประสบอุทกภัย ขณะนี้ได้ปิดทำการชั่วคราว จำนวน 36 สาขา ซึ่งสำนักงาน คปภ. ได้กำชับบริษัทประกันภัยให้แจ้งลูกค้าทราบสถานที่ติดต่อบริษัทที่ใกล้ที่สุด เพื่อให้เกิดความสะดวกโดยเฉพาะในกรณีการแจ้งอุบัติเหตุหรือมีเหตุการณ์เร่งด่วน หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือด้านการประกันภัย สำนักงาน คปภ. สายด่วนประกันภัย 1186 ทั่วประเทศไม่เว้นวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา 8.00 — 18.00 น.

ฝ่ายสื่อสารองค์กร

โทร . 02-513 -1769 02-513-1680

ที่มา: http://www.oic.or.th


แท็ก ประกันภัย  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ