นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยความคืบหน้าการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ ขณะนี้ สำนักงาน คปภ.และสมาคมประกันวินาศภัย อยู่ระหว่างการร่างกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ และศึกษาอัตราเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสม ซึ่งจะมีการปรับตามพื้นที่ความเสี่ยง โดยศึกษาและเทียบเคียงจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้ประชาชนได้รับความคุ้มครองอย่างทั่วถึง เพียงพอในอัตราที่เหมาะสม ซึ่งบริษัทประกันภัยจะรับความเสี่ยงภัยพิบัติไว้เองอย่างน้อย 1% หรือขึ้นอยู่กับความสามารถในการรับประกันภัยของแต่ละบริษัท
ทั้งนี้ กรมธรรม์ประกันภัยพิบัติจะเป็นแบบจำกัดความรับผิด (Sub limit) โดยภาคครัวเรือน กำหนดทุนประกันภัยไว้ไม่เกิน 100,000 บาท สำหรับ SME ทั้งรายใหญ่และรายย่อยให้ความคุ้มครองที่รายละ 20% ของทุนประกันภัย ทั้งนี้ ต้องไม่เกินวงเงิน 200 ล้านบาท
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้เบี้ยประกันภัยยังคงมีราคาสูงอยู่ เนื่องจากอุทกภัยเพิ่งผ่านพ้นไป ดังนั้น กองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติจะยังไม่มีการซื้อการประกันภัยต่อจากต่างประเทศ ต้องรอระยะเวลาซักช่วงหนึ่ง เพื่อให้เบี้ยประกันภัยถูกลง ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เบี้ยประกันภัยถูกลงขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยหลัก คือ รัฐบาลต้องสร้างความมั่นใจในโครงสร้างพื้นฐาน และมีการบริหารจัดการน้ำที่ดี มีประสิทธิภาพ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากผู้รับประกันภัยต่อในต่างประเทศ ประกอบกับหากประชาชน มีการซื้อประกันภัยมากขึ้น กองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติจะมีทุนประกันภัยเพิ่มขึ้นทำให้มีอำนาจต่อรองและสามารถซื้อประกันภัยต่อในต่างประเทศได้ในอัตราที่ถูกลง
หากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนประกันภัย 1186
ที่มา: http://www.oic.or.th