คปภ. เร่งให้ความช่วยเหลือด้านการประกันภัย จากเหตุเพลิงไหม้นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด

ข่าวทั่วไป Wednesday May 9, 2012 11:23 —คปภ.

นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ตามที่เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตยางสังเคราะห์ ของบริษัท บีเอสที อีสาสโตเมอร์ส จำกัด ตั้งอยู่ถนนไอ 8 ภายในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ตำบลมาบตาพุด จังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2555 เวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย และบาดเจ็บ 141 ราย นั้น

สำนักงาน คปภ. ได้เร่งติดตามข้อมูลการทำประกันภัยของบริษัทดังกล่าว พบว่าบริษัทอยู่ในเครือของบริษัท กรุงเทพ ซินธิติกส์ จำกัด ซึ่งได้ทำประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สินที่ให้ความคุ้มครองความเสี่ยงภัย ทุกประเภท มีจำนวนเอาประกันภัยรวมทั้งสิ้น 18,971,185,950 บาท กับบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ความคุ้มครอง 60% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย และบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ความคุ้มครอง 40% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย โดยแยกรายละเอียดของทรัพย์สินที่เอาประกันภัย ได้ดังนี้

1. ตัวอาคารและอื่นๆ จำนวนเงินเอาประกันภัย 10,238,683,400 บาท

2. สต็อกสินค้า จำนวนเงินเอาประกันภัย 2,192,808,450 บาท

3. ประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก 6,539,694,100 บาท

อย่างไรก็ตาม สำนักงาน คปภ. ได้ประสานให้บริษัทที่ร่วมรับประกันภัย สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อชดใช้ค่าสินไหมทดแทนที่เหมาะสม และเป็นธรรมกับผู้เอาประกันภัยเป็นการด่วน โดยในเบื้องต้น บริษัทที่รับประกันภัยได้ประสานไปยังบริษัท คันนิ่งแฮม ลินด์ซี่ (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประเมินเข้าสำรวจ ความเสียหายแล้ว ส่วนในกรณีของผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว อยู่ระหว่างประสานและตรวจสอบการทำประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลของพนักงาน เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือเป็นลำดับต่อไป

เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า เป็นที่น่าเสียใจที่เกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ขึ้น และได้สร้างความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งในการที่มีการทำประกันภัยไว้ จะเป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้เอาประกันภัยได้ โดยจะได้รับการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามความเสียหายที่แท้จริง แต่ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยทรัพย์สิน ดังนั้น หากประชาชนหรือผู้ประกอบการที่ต้องการทำประกันภัย ขอให้พิจารณาเลือกซื้อความคุ้มครอง ของการประกันภัยแต่ละประเภทให้เหมาะสมตรงกับความต้องการและความเสี่ยงภัย เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองมากที่สุด หากประชาชนมีข้อสงสัย ต้องการปรึกษาปัญหา และขอความช่วยเหลือด้านการประกันภัย สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงาน คปภ. ทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนประกันภัย 1186

ที่มา: http://www.oic.or.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ