คปภ. ร่วมภาคเอกชน จัดทำมาตรการเชิงรุกพัฒนาธุรกิจประกันภัยก้าวสู่ AEC

ข่าวทั่วไป Tuesday May 15, 2012 13:58 —คปภ.

นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยผลการประชุมร่วมกับสมาคมประกันชีวิตไทยในการพัฒนาธุรกิจประกันชีวิตและจัดตั้งคณะทำงานร่วมภาครัฐและเอกชนจัดทำมาตรการเชิงรุกพัฒนาธุรกิจประกันภัยก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC)

สืบเนื่องจากธุรกิจประกันชีวิตมีการขยายตัวค่อนข้างสูงเมื่อเปรียบเทียบกับในภูมิภาคอาเซียน แต่อัตราส่วนจำนวนประชากรที่ทำประกันชีวิตยังน้อยอยู่ คิดเป็นกรมธรรม์ประกันภัยต่อจำนวนประชากรร้อยละ 28 จึงมีโอกาสที่จะขยายตัวได้อีกมาก ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายผลักดันการประกันชีวิตรายย่อย (micro insurance) รวมถึงการกระตุ้นการออมผ่านผลิตภัณฑ์การประกันชีวิต เพื่อให้การประกันชีวิตเป็นหลักประกันความมั่นคงให้กับชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน นอกจากนี้เพื่อให้การขยายตัวของธุรกิจประกันภัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สำนักงาน คปภ.จะจัดตั้ง Insurance Bureau เพื่อเป็นศูนย์กลางข้อมูลธุรกิจประกันภัย และเผยแพร่ให้บริษัทนำไปใช้ในการพัฒนาธุรกิจประกันภัยต่อไป โดยที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้จัดตั้งคณะทำงานร่วมภาครัฐและเอกชนในการดำเนินการกำหนดมาตรการเชิงรุกในการพัฒนาธุรกิจประกันชีวิตให้เข้าถึงประชาชนได้อย่างทั่วถึง ภายใต้ผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน ในอัตราเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสม ผ่านช่องทางการขายที่หลากหลายเพื่อให้ประชาชนทุกระดับสามารถเข้าถึงการประกันภัยได้สะดวกขึ้น รวมถึงการสนับสนุนการขยายการประกอบธุรกิจประกันภัยโดยจัดทำ Road map ร่วมกันเพื่อกำหนดแนวทาง กรอบระยะเวลาดำเนินมาตรการต่างๆ ทั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐ และเอกชน เพื่อสร้างความชัดเจนในการก้าวเข้าสู่ AEC ต่อไป ทั้งนี้ ธุรกิจประกันชีวิตมีจุดแข็งที่สามารถแข่งขันกับประเทศ อื่นๆ ได้ในเรื่องตัวแทนประกันชีวิต นายหน้าประกันภัย ที่มีความเข้าใจสภาพตลาดและผู้บริโภค เป็นอย่างดี

เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากเห็นสมาคมประกันชีวิตไทยมุ่งสู่การเป็น Self Regulation Organization (SRO) เพื่อกำหนดแนวทางการกำกับดูแลบริษัทสมาชิกด้วยกันเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นเกี่ยวกับพฤติกรรมทางการตลาด วิธีการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัย เพื่อให้ตลาดประกันภัยมีวินัยในตัวเอง และเป็นการช่วยหน่วยงานภาครัฐในการกำกับในเรื่องดังกล่าว เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่น บนพื้นฐานที่ประชาชนจะได้รับประโยชน์ ได้ความคุ้มครองตามสัญญาประกันภัยอย่างถูกต้องเป็นธรรม

ที่มา: http://www.oic.or.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ