นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า สำนักงาน คปภ. และภาคธุรกิจประกันภัยร่วมเป็นคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจทบทวนหลักเกณฑ์การประกันภัยจากอุบัติเหตุในการขนส่งวัตถุอันตราย เพื่อจัดทำหลักเกณฑ์การประกันภัย และพิจารณาทบทวนประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมเรื่อง “การประกันภัยความเสียหายจากการขนส่งวัตถุอันตราย พ.ศ. 2549”
จากการที่รถทุกคันที่ขนส่งวัตถุอันตราย จะต้องทำประกันภัยรถภาคบังคับ และการประกันภัยความเสียหายจากการขนส่งวัตถุอันตราย ผู้ประกอบการขนส่งเห็นว่า การกำหนดจำนวนเงินคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยความเสียหายจากการขนส่งวัตถุอันตรายค่อนข้างสูง และมีความซ้ำซ้อน กับการประกันภัยประเภทอื่น ทำให้ต้องรับภาระค่าเบี้ยประกันภัยเพิ่มขึ้น กระทรวงอุตสาหกรรมจึงทบทวน และร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมเรื่อง “การประกันภัยความเสียหายจากการขนส่งวัตถุอันตราย พ.ศ....” ขึ้นใหม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้ สาระสำคัญของปรับร่างประกาศกระทรวงดังกล่าว ดังนี้
1. ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก
2. ความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
3. ค่าใช้จ่ายในการขจัด เคลื่อนย้าย บำบัด บรรเทาความเสียหาย รวมทั้งการฟื้นฟูให้กลับคืนสู่สภาพเดิม หรือสภาพใกล้เคียงกับสภาพเดิม ซึ่งรวมถึงความเสียหายแก่ สัตว์ พืช สิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติทรัพย์สินของแผ่นดิน หรือทรัพย์ไม่มีเจ้าของ รวมถึงการปรับนิยาม “ผู้ขนส่ง” ให้ขยายความคุ้มครอง และมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า อุตสาหกรรมประกันภัย นอกจากการทำหน้าที่เป็นกลไกในการรับและถ่ายโอนความเสี่ยงแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นเป็นกลไกในการผลักดันให้เกิดการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่สามารถช่วยเสริมสร้างความมั่นคง ความเชื่อมั่น และสวัสดิภาพของสาธารณชนในวงกว้าง ในกรณีการทำประกันภัยความเสียหายจากการขนส่งวัตถุอันตราย ขณะนี้สำนักงานคปภ. และภาคธุรกิจประกันภัย อยู่ระหว่างการเตรียมปรับปรุงกรมธรรม์ประกันภัย และอัตราเบี้ยประกันภัยเพื่อรองรับการปรับแก้ไขประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมดังกล่าว สำหรับวงเงินความคุ้มครองแต่ละส่วนอยู่ระหว่างการปรับให้เหมาะสมกับทุกฝ่าย
ที่มา: http://www.oic.or.th