นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านประกันภัย กองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ เปิดเผยผลการประชุมคณะอนุกรรมการด้านประกันภัย เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2555 ดังนี้
1. คณะกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ ได้พิจารณาคัดเลือกบริษัทที่ปรึกษาการประกันภัยต่อ จำนวน 2 ราย ได้แก่ บริษัท Aon (Aon Benfield) และ Marsh (Guy Carpenter) ซึ่งมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการจัดหาประกันภัยต่อ เป็นที่ยอมรับในระดับสากล และมีสำนักงานสาขาตั้งอยู่ในประเทศไทย โดยขั้นต่อไป สำนักงาน คปภ. จะประสานงานกับ บมจ. ไทยรับประกันภัยต่อ เพื่อจัดเตรียมข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการรับประกันภัยพิบัติ ส่งให้บริษัทดังกล่าวนำไปศึกษา วิเคราะห์ความเสี่ยง และจัดทำแผนบริหารการประกันภัยต่อ ของกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ เสนอให้แก่คณะอนุกรรมการฯ พิจารณาก่อนนำเสนอคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ ต่อไป
2. ความคืบหน้ากรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม ถึง 21 กันยายน 2555 มียอดการจำหน่ายกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ รวมทั้งสิ้น 186,771 กรมธรรม์ จากบริษัทประกันวินาศภัย 48 บริษัท ทุนประกันภัยพิบัติทั้งสิ้น 19,958 ล้านบาท มีเบี้ยประกันภัยพิบัติ 137 ล้านบาท โดยจังหวัดที่ซื้อประกันภัยพิบัติสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร รองลงมาคือ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม และพระนครศรีอยุธยา ซึ่งแสดงว่าประชาชนตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์ของการทำประกันภัยพิบัติ ในขณะเดียวกันกรมธรรม์ประกันภัยของผู้ประกอบการภาคธุรกิจเอสเอ็มอี และภาคอุตสาหกรรม จะมีการต่ออายุการทำประกันในช่วงปลายปี ทำให้แนวโน้มยอดจำหน่ายกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติจะเพิ่มมากขึ้น
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเสริมว่า กรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ ที่ให้ความคุ้มครองภัยธรรมชาติที่เข้าลักษณะความรุนแรงถึงขั้นเป็นภัยพิบัติ ที่มีเงื่อนไขหนึ่งระบุว่า คณะรัฐมนตรีประกาศสถานการณ์ภัยพิบัติรุนแรง ตามคำแนะนำของกระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขณะนี้กรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยอยู่ระหว่างการพิจารณากำหนดเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ภัยธรรมชาติที่เข้าลักษณะความรุนแรงถึงขั้นเป็นภัยพิบัติที่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรี เช่น อาจพิจารณาจากจำนวนหลังคาเรือนที่ได้รับความเสียหาย หรือขนาดพื้นที่ความเสียหาย หรือความเสียหายที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อให้เกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น ต่อไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนประกันภัย 1186
ที่มา: http://www.oic.or.th