คปภ. สรุปผลภาวะธุรกิจประกันภัย 8 เดือนแรก ปี 55 โตร้อยละ 19.48

ข่าวทั่วไป Wednesday November 7, 2012 08:54 —คปภ.

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) สรุปตัวเลขภาพรวมธุรกิจประกันภัยในช่วงเดือนมกราคม - สิงหาคม ของปี 2555 ขยายตัวร้อยละ 19.48 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวมทั้งสิ้น 358,521 ล้านบาท

นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า แม้มูลค่าการส่งออกของประเทศโดยรวมจะหดตัวลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จากผลประทบวิกฤตหนี้สาธารณะของกลุ่มประเทศยูโรโซน ซึ่งทำให้มูลค่าการส่งออกสินค้าไทยไปสหภาพยุโรปในช่วงเดือนสิงหาคม 2555 หดตัวถึงร้อยละ 23.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจไทยยังคงขยายตัวจากการใช้จ่ายภายในประเทศ ทั้งจากการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชน ส่งผลให้ในช่วงเดือนมกราคม - สิงหาคม 2555 ธุรกิจประกันภัยมีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวมทั้งสิ้น 358,521 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 19.48

โดยเป็นเบี้ยประกันภัยจากธุรกิจประกันชีวิต จำนวน 243,855 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 16.93 โดยการประกันชีวิตประเภทสามัญมีเบี้ยประกันภัยรับสูงสุด จำนวน 204,105 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 16.90 รองลงมาการประกันชีวิตประเภทกลุ่ม จำนวน 30,605 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 23.00 และการประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลจำนวน 3,608 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 8.90 และจากธุรกิจประกันวินาศภัย จำนวนรวมทั้งสิ้น 114,666 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 25.28 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการประกันภัยรถมีเบี้ยประกันภัยรับสูงสุด จำนวน 67,003 ล้านบาท ขยายตัวถึงร้อยละ 21.50 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายคืนเงินภาษีรถยนต์คันแรก ส่งผลให้ยอดจำหน่ายรถยนต์เพิ่มขึ้นในอัตราเร่ง รองลงมาการประกันภัยเบ็ดเตล็ด จำนวน 37,516 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 35.17 ซึ่งหากพิจารณาเบี้ยประกันภัยเบ็ดเตล็ดในเดือนสิงหาคม 2555 จะเห็นได้ว่าจากการประกันความเสี่ยงภัยทรัพย์สินมีเบี้ยประกันภัยจำนวน 2,040 ล้านบาท ขยายตัวถึงร้อยละ 83.30 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประชาชนเห็นความสำคัญของการประกันภัยมากขึ้น สอดคล้องกับตัวเลขการรับประกันภัยโดยกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติซึ่งขยายตัวในอัตราเร่งเช่นเดียวกัน และการประกันอัคคีภัย จำนวน 6,721 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 22.09

เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่าการเติบโตของธุรกิจประกันภัยไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้น เป็นผลมาจากหลายปัจจัย ทั้งจากฝั่งของประชาชนและผู้บริโภคซึ่งมีความตื่นตัวต่อความเสี่ยงภัยต่างๆ ที่เพิ่มมากขึ้น จึงทำให้การประกันภัยเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน เป็นปัจจัยที่ 5 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยในปี 2555 ธุรกิจประกันชีวิตเน้นการขายผลิตภัณฑ์แบบตลอดชีพ ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดสูงสุด ที่ร้อยละ 47.87 และธุรกิจประกันวินาศภัยเองก็มีการขยายตัวในอัตราเร่งโดยเฉพาะกรมธรรม์ที่ให้ความคุ้มครองภัยธรรมชาติ รวมถึงภัยพิบัติ และในส่วนของผู้ประกอบธุรกิจประกันภัย ก็มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่ๆที่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนผู้เอาประกันภัยได้ดีขึ้น อีกทั้งยังมีการพัฒนาช่องทางการขายที่มีความหลากหลายสามารถเข้าถึงประชาชนทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคได้ในวงกว้าง

ที่มา: http://www.oic.or.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ