คปภ. เผย 8 เดือน ปี 55 ธุรกิจประกันภัยโต หนุนสินทรัพย์เพิ่มขึ้นร้อยละ 49

ข่าวทั่วไป Thursday November 8, 2012 11:41 —คปภ.

นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ช่วงเดือนมกราคม ถึง สิงหาคม 2555 ธุรกิจประกันภัยมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องทำให้มีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวมทั้งสิ้น 358,521 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 19.48 ส่งผลให้ธุรกิจประกันภัยมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 2,325,843 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 49.88 โดยเป็นสินทรัพย์ของธุรกิจประกันชีวิต 1,640,895 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 21.30 และเป็นสินทรัพย์ของธุรกิจประกันวินาศภัย 684,948 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 244.11 จากการบันทึกรายการสำรองประกันภัยส่วนที่เรียกคืนจากการประกันภัยต่อในรายการสินทรัพย์อื่น ส่งผลให้รายการสินทรัพย์อื่นเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนจำนวน 332,429 ล้านบาท สินทรัพย์ลงทุนของธุรกิจประกันภัย ณ 31 สิงหาคม 2555 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,747,298 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 20.48 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 75.13 ของสินทรัพย์รวม แบ่งเป็น

1. สินทรัพย์ลงทุนของธุรกิจประกันชีวิต 1,563,642 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 21.37 โดยสินทรัพย์ลงทุนส่วนใหญ่เป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ จำนวน 1,329,765 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 85.04 ของสินทรัพย์ลงทุนทั้งสิ้น โดยลงทุนในพันธบัตร คิดเป็นร้อยละ 61.01 ของสินทรัพย์ลงทุน

2. สินทรัพย์ลงทุนของธุรกิจประกันวินาศภัย 183,656 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 13.44 สินทรัพย์ลงทุนส่วนใหญ่เป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ จำนวน 124,814 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 67.96 ของสินทรัพย์ลงทุนทั้งสิ้น โดยลงทุนในเงินฝากธนาคารสูงสุดร้อยละ 30.10 ของสินทรัพย์ลงทุน

เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของธุรกิจประกันภัยทำให้สินทรัพย์ลงทุนของธุรกิจประกันภัยเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับธุรกิจประกันชีวิตและธุรกิจประกันวินาศภัยมีการลงทุนในตราสารทางการเงินที่มีความเสี่ยงต่ำและมีสภาพคล่องสูง เพื่อความสามารถจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัยได้ตลอดเวลาหากเกิดความเสียหายขึ้น นับว่าเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ธุรกิจประกันภัย และจากนโยบายรัฐบาลในการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติจากเหตุการณ์มหาอุทกภัยเมื่อปลายปี 54 และมาตรการคืนเงินภาษีรถยนต์คันแรก ทำให้จำนวนรถยนต์เพิ่มมากขึ้น ตลอดจนผลิตภัณฑ์ประกันภัยรูปแบบใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน ส่งผลให้ประชาชนเล็งเห็นความสำคัญและเข้าถึงการทำประกันภัยมากขึ้น ทำให้คาดการณ์ได้ว่าธุรกิจประกันภัย ในปี 2555 จะมีการขยายตัวประมาณร้อยละ 18.14 มีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวมทั้งสิ้นจำนวน 553,696 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเบี้ยประกันภัยต่อ GDP อยู่ที่ร้อยละ 4.81

ที่มา: http://www.oic.or.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ