สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) สรุปรวมตัวเลขภาพรวมธุรกิจประกันภัยในช่วง 3 ไตรมาสแรก เดือนมกราคม - กันยายน ของปี 2555 ขยายตัวร้อยละ 19.08 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวมทั้งสิ้น 406,202 ล้านบาท
นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนกันยายน 2555 ยังคงขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่องจากแรงสนับสนุนหลักจากการใช้จ่ายภายในประเทศ ทั้งจากการบริโภค และการลงทุนของภาคเอกชน ส่งผลให้ในช่วง 3 ไตรมาสแรก เดือนมกราคม - กันยายน 2555 ธุรกิจประกันภัยมีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวมทั้งสิ้น 406,202 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 19.08
โดยเป็นเบี้ยประกันภัยจากธุรกิจประกันชีวิต จำนวน 277,180 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 16.38 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเบี้ยประกันภัยรับสูงสุด คือ การประกันชีวิตประเภทสามัญ จำนวน 232,339 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 16.30 รองลงมาการประกันชีวิตประเภทกลุ่ม จำนวน 34,581 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 22.64 และการประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล จำนวน 4,066 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 8.49 และจากธุรกิจประกันวินาศภัย จำนวนรวมทั้งสิ้น 129,022 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 25.33 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการประกันภัยรถมีเบี้ยประกันภัยรับสูงสุด จำนวน 75,765 ล้านบาท ขยายตัวถึงร้อยละ 21.50 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่องถึงร้อยละ 78.60 ในไตรมาส 3 ปี 2555 รองลงมาการประกันภัยเบ็ดเตล็ด จำนวน 41,878 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 35.70 และการประกันอัคคีภัย จำนวน 7,556 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 22.03
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่าการเติบโตของธุรกิจประกันภัยไทยในช่วงปีที่ผ่านมานั้น ถือเป็นบททดสอบความแข็งแกร่งของธุรกิจประกันภัยอย่างแท้จริง เนื่องจากได้ผ่านวิกฤตมหาอุทกภัย เมื่อปลายปี 2554 มาได้อย่างมั่นคง ภายในเวลาไม่ถึงปี ธุรกิจประกันภัยสามารถที่จะชำระค่าสินไหมทดแทนไปแล้วกว่า 3 แสนล้านบาท โดยตัวเลขสินทรัพย์รวมของธุรกิจประกันภัย ณ วันที่ 30 กันยายน 2555 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 2,287,739 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 37.73 แบ่งเป็นสินทรัพย์ของธุรกิจประกันชีวิตจำนวน 1,654,901 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 17.19 และเป็นสินทรัพย์ของธุรกิจประกันวินาศภัยจำนวน 632,838 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 154.34
ที่มา: http://www.oic.or.th