สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เผยตัวเลขภาพรวมธุรกิจประกันภัย 11 เดือน (มกราคม - พฤศจิกายน 2555) ขยายตัวร้อยละ 20.72 มีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวมทั้งสิ้น 506,539 ล้านบาท
นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการ คปภ. เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนพฤศจิกายน 2555 ยังคงขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง จากการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชนที่มีสัญญาณการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง สะท้อนได้จากปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในเดือนพฤศจิกายน 2555 ขยายตัวเร่งสูงขึ้นถึงร้อยละ 509.9 ซึ่งส่งผลกระทบทางบวกโดยตรงต่อธุรกิจประกันภัย ทำให้เมื่อรวม 11 เดือน (มกราคม - พฤศจิกายน 2555) ธุรกิจประกันภัยมีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวมทั้งสิ้น 506,539 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 20.72 เป็นผลให้ธุรกิจประกันภัยมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 2,297,210 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 23.40 โดยเป็นสินทรัพย์ของธุรกิจประกันชีวิต 1,681,896 ล้านบาท และเป็นสินทรัพย์ของธุรกิจประกันวินาศภัย 615,314 ล้านบาท สินทรัพย์ลงทุนของธุรกิจประกันภัย ณ 30 พฤศจิกายน 2555 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,794,742 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 15.11 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 78.13 ของสินทรัพย์รวม แบ่งเป็น
สินทรัพย์ลงทุนของธุรกิจประกันชีวิต จำนวน 1,599,976 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 15.76 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 95.13 ของสินทรัพย์รวมของธุรกิจประกันชีวิต โดยสินทรัพย์ลงทุนส่วนใหญ่เป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ จำนวน 1,364,596 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 85.29 ของสินทรัพย์ลงทุนรวมทั้งสิ้น โดยลงทุนในเงินฝากและพันธบัตรสูงสุด คิดเป็นร้อยละ 61.61 ของสินทรัพย์ลงทุน ลงทุนในตราสารหนี้ร้อยละ 23.69 และหุ้นทุนร้อยละ 7.86
สินทรัพย์ลงทุนของธุรกิจประกันวินาศภัย จำนวน 194,766 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 10.06 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 31.65 ของสินทรัพย์รวมของธุรกิจประกันวินาศภัย ทั้งนี้ สินทรัพย์ลงทุนส่วนใหญ่เป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ จำนวน 131,728 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 67.63 ของสินทรัพย์ลงทุนทั้งสิ้น โดยลงทุนในเงินฝากธนาคารสูงสุดร้อยละ 32.01 ของสินทรัพย์ลงทุน ลงทุนในพันธบัตรร้อยละ 25.10 ตราสารหนี้ร้อยละ 10.53 และหุ้นทุนร้อยละ 25.68
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเสริมว่า บทบาทของธุรกิจประกันภัย ในการเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ในตลาดทุนของประเทศได้เพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ ธุรกิจประกันชีวิตและธุรกิจประกันวินาศภัยมีการลงทุนในตราสารทางการเงินที่มีความเสี่ยงต่ำและมีสภาพคล่องสูง เพื่อความคล่องตัวในการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัย ในกรณีเกิดความเสียหายขึ้น ทำให้ประชาชนและผู้เอาประกันภัยเกิดความเชื่อมั่น และเล็งเห็นความสำคัญของการทำประกันภัยมากขึ้น สำหรับแนวโน้มของธุรกิจประกันภัยในปี 2556 สำนักงาน คปภ. คาดว่าการเจริญเติบโตจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ในอัตราที่ชะลอลง ทั้งนี้เป็นผลจากฐานเปรียบเทียบที่สูงมากในปี 2555
ที่มา: http://www.oic.or.th