จากสถิติย้อนหลัง 4 ปี แนวโน้มความต้องการของประชาชนผู้เอาประกันภัยที่ได้รับความเสียหาย และมีข้อโต้แย้งหรือข้อพิพาทเกี่ยวกับสัญญาประกันภัย และมีความประสงค์ที่จะระงับข้อพิพาทด้วยวิธีอนุญาโตตุลาการ มีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากการระงับข้อพิพาทด้วยวิธีอนุญาโตตุลาการเป็นทางเลือกหนึ่ง ที่มีความสะดวก รวดเร็ว ประหยัด และเป็นธรรม ในปี 2555 มีประชาชนมายื่นเรื่องที่สำนักงาน คปภ. ให้ระงับข้อพิพาทด้วยการประนอมข้อพิพาทและวิธีอนุญาโตตุลาการ ทั้งสิ้น 204 เรื่อง ดำเนินการแล้วมีข้อยุติ 194 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 95.09 โดยแบ่งแยกข้อพิพาทที่ยุติได้ ดังนี้
1. ยุติด้วยวิธีการประนีประนอมข้อพิพาท โดยการเชิญคู่พิพาททั้งสองฝ่ายมาหาทางประนีประนอมกันด้วยความพอใจและเป็นธรรม โดยเจ้าหน้าที่สำนักงาน คปภ. จะช่วยพิจารณาข้อเท็จจริงและการตีความข้อกฎหมาย ยุติได้เป็นจำนวน 100 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 51.54
2. ยุติด้วยวิธีอนุญาโตตุลาการ โดยการตั้งคณะอนุญาโตตุลาการ ซึ่งเป็นอดีตผู้พิพากษาศาลฎีกาและผู้ทรงคุณวุฒิสาขาอาชีพต่างๆ ที่ขึ้นทะเบียนเป็นอนุญาโตตุลาการ กับสำนักงาน คปภ. โดยอนุญาโตตุลาการจะรับฟังปัญหาข้อเท็จจริงของการเกิดเหตุ และตีความข้อกฎหมายในประเด็นที่พิพาทกัน เพื่อพิจารณาให้ความเป็นธรรมแก่คู่กรณี และมีคำชี้ขาดข้อพิพาท ซึ่งคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการจะมีผลผูกพันคู่พิพาทต้องปฏิบัติตาม ยุติได้เป็นจำนวน 94 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 48.46
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเสริมว่า กระบวนการระงับข้อพิพาทด้านประกันภัยด้วยการประนอมข้อพิพาทและวิธีอนุญาโตตุลาการ เป็นวิธีการระงับข้อพิพาทที่สะดวกรวดเร็ว ประหยัด และเป็นธรรม กระบวนการมีความยืดหยุ่นกระชับ ทำให้ผู้เอาประกันภัย หรือผู้มีส่วนได้เสีย ได้รับความคุ้มครองสิทธิประโยชน์เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเวลาที่รวดเร็ว เนื่องจากมีกรอบระยะเวลาให้คณะอนุญาโตตุลาการต้องดำเนินการให้ยุติข้อพิพาทให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน หลังการตั้งคณะอนุญาโตตุลาการ นอกจากนี้สำนักงาน คปภ. ยังมีการจัดสัมมนาเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับกระบวนการระงับข้อพิพาทแก่ประชาชน พนักงานบริษัทประกันชีวิต/บริษัทประกันวินาศภัย และผู้ประกอบวิชาชีพทนายความ สำหรับผู้ทำหน้าที่เป็นผู้แทนคู่พิพาท เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และมีจรรยาบรรณ จะเห็นได้ว่ากระบวนการดังกล่าว เป็นการบริหารจัดการความขัดแย้งที่เกิดจากการประกันภัยอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพเป็นการสร้างความเชื่อมั่น เชื่อถือ และศรัทธาในอุสาหกรรมประกันภัย ซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาธุรกิจประกันภัยอีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนประกันภัย 1186
ที่มา: http://www.oic.or.th