คปภ. แจงเหตุรถพ่วง18 ล้อ ข้ามเกาะชนรถทัวร์กทม.-ร้อยเอ็ดเกิดไฟลุกท่วมทั้งคันเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 20 ราย บาดเจ็บ 21 ราย ประกันภัยให้ความคุ้มครอง

ข่าวทั่วไป Tuesday July 23, 2013 14:45 —คปภ.

นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2556 เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ หมายเลขทะเบียน 71-1807 นครปฐม เสียหลักวิ่งข้ามเกาะเฉี่ยวชนกับรถทัวร์ปรับอากาศ สายกรุงเทพฯ — ร้อยเอ็ด หมายเลขทะเบียน 14-5994 กรุงเทพมหานคร และรถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน ณง 3925 กรุงเทพมหานคร บริเวณถนนมิตรภาพขาเข้า กม. 19 ตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 21 ราย และบาดเจ็บ 20 ราย นั้น

สำนักงาน คปภ. จังหวัดสระบุรี ทราบเบื้องต้นว่ารถทัวร์ปรับอากาศ ได้จัดทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) กับบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) และทำประกันภัยรถภาคสมัครใจ (ประเภท 3) กับบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) และทำประกันภัยภาคสมัครใจ (ประเภท 1) กับบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ส่วนรถยนต์กระบะ ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) กับบริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งผู้ประสบภัยจะได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันภัย ดังนี้

1. ผู้ประสบภัยที่โดยสารรถทัวร์เสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวร ทายาทสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ดังนี้

1.1 ความคุ้มครองจากการประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) 200,000 บาทต่อคน และ

1.2 ความคุ้มครองจากการประกันภัยรถภาคสมัครใจ (ประเภท 3) กรณีไม่มีผู้ขาดไร้อุปการะตามกฎหมาย ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 100,000 บาทต่อคน หรือกรณีมีผู้ขาดไร้อุปการะตามกฎหมาย ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 300,000 บาทต่อคน และ

1.3 ความคุ้มครองจากการประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 200,000 บาทต่อคน

2. ผู้ประสบภัยที่ได้รับบาดเจ็บสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ได้ดังนี้

2.1 ความคุ้มครองจากการประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ได้รับค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 50,000 บาทต่อคน และค่าชดเชยรายวัน สำหรับผู้ประสบภัยที่พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล วันละ 200 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 วัน และ

2.2 ความคุ้มครองจากการประกันภัยรถภาคสมัครใจ (ประเภท 3) ได้รับค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินความคุ้มครองที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย

เลขาธิการ คปภ. กล่าวเสริมว่า ขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต และได้ประสานบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) กับบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เพื่อเร่งดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ทายาทผู้เสียชีวิต และได้รับแจ้งจากบริษัทประกันภัยทั้งสองว่าได้ส่งพนักงานไปประสานโรงพยาบาลที่รับรักษาพยาบาลผู้ประสบภัยเพื่ออำนวยความสะดวกด้านค่ารักษาพยาบาล และการจ่ายค่าสินไหมทดแทนกรณีดังกล่าวแล้ว ซึ่งอุบัติเหตุครั้งนี้มีความสูญเสียจำนวนมาก แต่ยังมีการทำประกันภัยรองรับบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้น จึงขอให้ท่านเจ้าของรถ ให้ความสำคัญในการทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) และถ้าต้องการความคุ้มครองเพิ่มก็สามารถทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจเพิ่มเติมได้

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนประกันภัย 1186 หรือ www.oic.or.th

ที่มา: http://www.oic.or.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ