โครงการชนแล้วแยก นับเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาลในการช่วยลดปัญหาการจราจร ลดภาระของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประหยัดเวลาของผู้เอาประกันภัย สร้างความเชื่อมั่น และภาพลักษณ์ที่ดีต่อธุรกิจประกันภัย โดยรถยนต์ที่เข้าร่วมโครงการต้องทำประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 เป็นรถยนต์ 4 ล้อ ยาง 4 เส้น น้ำหนักไม่เกิน 4 ตัน ไม่เกิน 20 ที่นั่ง และได้รับสติกเกอร์สีฟ้าอักษรตัว K พร้อมเอกสารชนแล้วแยก โครงการดังกล่าวนับว่าสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันด้วยปริมาณรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นมาก ทำให้การจราจรบนท้องถนนหนาแน่นมากขึ้นทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ส่งผลให้จำนวนการเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกันมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นด้วย ซึ่งในอดีตเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนกันผู้เอาประกันภัยต้องแจ้งบริษัทประกันภัยแล้วรอพนักงานเคลมทำให้เสียเวลามาก แต่ในปัจจุบันเมื่อผู้ขับขี่ทั้งสองฝ่ายตรวจสอบว่ารถคู่กรณีมีสติกเกอร์ตัว K หรือเอกสารชนแล้วแยก และสามารถตกลงกันได้ก็กรอกรายละเอียดและลงชื่อในเอกสารชนแล้วแยก ส่งมอบเอกสารให้แก่กัน แล้วแยกย้ายได้ทันที เป็นการลดปัญหาด้านการจราจร ลดความสูญเสียด้านเวลาของผู้เอาประกันภัย
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันมีเจ้าของรถที่เป็นผู้ขับขี่มือใหม่ประสบการณ์ยังไม่มาก โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุจึงสูง การทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) และประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ประเภท 1 เน้นการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพเมื่อเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด และขอเชิญชวนผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะที่ทำประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1 เข้าร่วมโครงการชนแล้วแยก อันเป็นแนวทางลดปัญหาจราจรได้วิธีหนึ่ง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนประกันภัย 1186
ที่มา: http://www.oic.or.th