โดยแบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยจากธุรกิจประกันชีวิต จำนวน 212,689 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 16.69 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากประชาชนในวงกว้างมีความเข้าใจและเห็นความสำคัญของการประกันชีวิตมากขึ้น ประกอบกับแนวโน้มอายุขัยของประชากรที่มีค่าเฉลี่ยสูงขึ้นจากวิทยาการทางการแพทย์ที่มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ประชาชนหันมาสนใจการประกันชีวิตแบบบำนาญ และการประกันสุขภาพมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเบี้ยประกันภัยรับสูงสุด คือ การประกันชีวิตประเภทสามัญ จำนวน 176,256 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 15.23 รองลงมาการประกันชีวิตประเภทกลุ่ม จำนวน 29,739 ล้านบาท ขยายตัวอย่างโดดเด่นถึงร้อยละ 31.75 และการประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล จำนวน 2,781 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 7.94 และจากธุรกิจประกันวินาศภัย จำนวนรวมทั้งสิ้น 100,567 ล้านบาท ขยายตัวได้ดีที่ร้อยละ 18.81 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการประกันภัยรถมีเบี้ยประกันภัยรับสูงสุด จำนวน 59,613 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 21.09 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รองลงมาการประกันภัยเบ็ดเตล็ด จำนวน 32,299 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 16.94 และการประกันอัคคีภัย จำนวน 5,967 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 14.08
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเสริมว่าในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2556 อุตสาหกรรมประกันภัยขยายตัวได้ในอัตราที่น่าพอใจ แม้ว่าจะมีฐานการเปรียบเทียบที่ค่อนข้างสูงจากปี 2555 แต่ทั้งธุรกิจประกันชีวิต และธุรกิจประกันวินาศภัยก็สามารถเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สัดส่วนเบี้ยประกันภัยต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ ร้อยละ 5.21 ซึ่งพัฒนาการอันดีของธุรกิจประกันภัยในหลายๆ ปีที่ผ่านมาก็ล้วนแต่เกิดขึ้นจากการร่วมแรงร่วมใจของหลายๆ ภาคส่วนโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบธุรกิจประกันภัยรวมถึงบุคลากรประกันภัยด้านต่างๆ ที่มุ่งมั่นพัฒนาและให้ความร่วมมืออันดีกับสำนักงาน คปภ. เสมอมา ซึ่ง สำนักงาน คปภ. มีกำหนดจัดงานวันประกันภัยขึ้นในวันที่ 2 กันยายน 2556 ณ ห้องเพลนารี 2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยภายในงานจะมีพิธีมอบรางวัลประกันภัยดีเด่นครบวงจร ประจำปี 2555 เพื่อเป็นแบบอย่างอันดีให้ภาคธุรกิจประกันภัยช่วยกันรักษามาตรฐานการเติบโตอันดีนี้ของอุตสาหกรรมประกันภัย สืบไป
ที่มา: http://www.oic.or.th