จากการวิเคราะห์ข้อมูลผู้สมัครสอบแยกตามประเภท พบว่าการสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันชีวิตมีจำนวนผู้สมัครสอบสูงสุดถึง 177,023 ราย คิดเป็นร้อยละ 71.24 ของผู้สมัครสอบทั้งหมด สอบผ่านทั้งสิ้น ร้อยละ 52.26 ในจำนวนนี้เป็นผู้สมัครสอบผ่านสำนักงาน คปภ. ส่วนภูมิภาคจำนวน 105,899 ราย หรือ คิดเป็น ร้อยละ 59.82 ของผู้สมัครสอบทั้งหมด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของธุรกิจประกันภัยสู่ภูมิภาคมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ บริษัทประกันชีวิตที่ส่งผู้สมัครสอบมากที่สุด 3 อันดับแรกประกอบด้วย บริษัท อเมริกันอินเตอร์แนชั่นแนลแอสชัวรันส์ จำกัด สาขาประเทศไทย จำนวน 54,214 ราย บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จำนวน 31,736 ราย และบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด จำนวน 25,665 ราย และจังหวัดที่มีสถิติการสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันชีวิตสูงสุด 3 อันดับแรก คือ กรุงเทพมหานคร จำนวน 71,124 ราย เชียงใหม่ จำนวน 10,762 ราย และสงขลา จำนวน 8,262 ราย
รองลงมาคือการสอบประเภทนายหน้าประกันวินาศภัย (บุคคลธรรมดา) มีผู้สมัครสอบจำนวน 39,334 ราย คิดเป็นร้อยละ 15.83 ของผู้สมัครสอบทั้งหมด สอบผ่านทั้งสิ้นร้อยละ 37.59 ตามมาด้วยการสอบประเภทนายหน้าประกันชีวิต (บุคคลธรรมดา) มีผู้สมัครสอบทั้งสิ้น 24,782 ราย คิดเป็นร้อยละ 9.97 ของผู้สมัครสอบทั้งหมด มีผู้สอบผ่านทั้งสิ้น ร้อยละ 53.91
เลขาธิการ สำนักงาน คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า หลายปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมประกันภัยไทยมีการขยายตัวที่ดีอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากประชาชนโดยเฉพาะในต่างจังหวัดตระหนักถึงความสำคัญของการประกันภัยมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นผลมาจากการเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวสู่การเปิดเสรีธุรกิจประกันภัยในปีหน้า จึงทำให้ต้องมีการเร่งพัฒนาบุคลากรประกันภัยเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ ในการทำประกันภัยประชาชนควรเลือกซื้อผ่านตัวแทนหรือนายหน้าประกันภัย ที่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนเท่านั้น รวมถึงเมื่อมีการจ่ายเบี้ยประกันภัยต้องขอเอกสารแสดงการรับเงินทุกครั้งเพื่อเป็นหลักฐาน ซึ่งจะช่วยให้ผู้เอาประกันภัยได้รับความคุ้มครองตามสัญญาประกันภัยอย่างครบถ้วน หากมีข้อสงสัยสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.oic.or.th หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนประกันภัย 1186
ที่มา: http://www.oic.or.th