สำนักงาน คปภ. ได้ประสาน สำนักงาน คปภ. จังหวัดปราจีนบุรี ทราบเบื้องต้นว่ารถบัสคัน ดังกล่าว ได้จัดทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) และทำประกันภัยรถภาคสมัครใจ (ประเภท 2) กับบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ส่วนรถพ่วง 18 ล้อ พ่วงตัวแม่ทำประกันภัยรถภาคบังคับ และภาคสมัครใจ (ประเภท 1) กับบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งทายาทผู้ประสบภัยและผู้ประสบภัยจะได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันภัย ดังนี้
1. ผู้ประสบภัยที่เสียชีวิต ทุพพลภาพถาวร หรือสูญเสียอวัยวะ ทายาทสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ดังนี้
1.1 ความคุ้มครองจากการประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) 200,000 บาทต่อคน ผู้ขับขี่จะได้รับค่าเสียหายเบื้องต้น และ
1.2 ความคุ้มครองจากการประกันภัยรถภาคสมัครใจ (ประเภท 2) กรณีไม่มีผู้ขาดไร้อุปการะตามกฎหมาย ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 100,000 บาทต่อคน หรือกรณีมีผู้ขาดไร้อุปการะตามกฎหมาย ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 300,000 บาทต่อคน และ
1.3 ความคุ้มครองจากการประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) สำหรับผู้ขับขี่ 50,000 บาท และผู้โดยสาร 53 คนๆ ละ 50,000 บาท
2. ผู้ประสบภัยที่ได้รับบาดเจ็บสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ได้ดังนี้
2.1 ความคุ้มครองจากการประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ได้รับค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 50,000 บาทต่อคน และค่าชดเชยรายวัน สำหรับผู้ประสบภัยที่พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล วันละ 200 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 วัน และ
2.2 ความคุ้มครองจากการประกันภัยรถภาคสมัครใจ (ประเภท 2) ได้รับค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินความคุ้มครองที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเสริมว่า อุบัติเหตุครั้งนี้มีความสูญเสียจำนวนมาก สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต และได้ประสานบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เพื่อเร่งดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ทายาทผู้เสียชีวิตโดยเร็ว และขณะนี้บริษัทประกันภัยได้ส่งพนักงานไปประสานโรงพยาบาลที่รับรักษาพยาบาลผู้ประสบภัยเพื่ออำนวยความสะดวกด้านค่ารักษาพยาบาลแล้ว ทั้งนี้ขอให้ผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะและผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะต้องรับผิดชอบผู้โดยสารจำนวนมาก ให้ความสำคัญในสวัสดิภาพและความปลอดภัยของผู้โดยสาร ขับรถด้วยความระมัดระวัง อย่าประมาท และขอให้ตรวจสอบวันหมดอายุของกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคบังคับ และกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคสมัครใจ เพื่อให้มีความคุ้มครองตลอดเวลา เพราะหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นเจ้าของรถและผู้ประสบภัยจะได้รับความคุ้มครองจากระบบประกันภัย สามารถบรรเทาผลกระทบความเดือดร้อนของท่านได้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนประกันภัย 1186 หรือ www.oic.or.th
ที่มา: http://www.oic.or.th