สำนักงาน คปภ. ได้ประสานกับบริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันวินาศภัย เกี่ยวกับการดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้ประสบภัยจากรถที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บในช่วงเวลาดังกล่าว รวมทั้งมูลค่าการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ปรากฏว่ามีผู้ประสบภัยจากรถที่เรียกร้องค่าสินไหมทดแทน กรณีการเสียชีวิต บาดเจ็บ และทุพพลภาพ จำนวน 4,134 ราย คิดเป็นค่าสินไหมทดแทนทั้งสิ้น 105 ล้านบาท และผู้ประสบภัยจากรถที่เรียกร้องค่าไหมทดแทนเกี่ยวกับทรัพย์สินที่เสียหาย จำนวน 41,634 ราย คิดเป็นค่าสินไหมทดแทนทั้งสิ้น 712 ล้านบาท สำนักงาน คปภ. ขอให้ทายาทผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บรวบรวมเอกสาร หลักฐาน ให้กับบริษัทประกันภัย เพื่อความสะดวก และรวดเร็วในการจ่ายค่าสินไหมทดแทน
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเสริมว่า สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บ และจะได้เร่งติดตามบริษัทประกันภัยให้ดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับทายาทผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือทุพพลภาพ ด้วยความรวมเร็ว ถูกต้อง และเป็นธรรม สำนักงาน คปภ.ขอให้ประชาชนและท่านเจ้าของรถตรวจสอบวันหมดอายุของกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ. และหากต้องการความคุ้มครองเพิ่มขึ้นก็สามารถซื้อประกันภัยภาคสมัครใจเพิ่มได้ สำหรับประชาชนทั่วไปขณะนี้มีกรมธรรม์ประกันภัย 200 สำหรับรายย่อย หรือ “ประกันภัย 200” เบี้ยประกันเพียง 200 บาทต่อปี ให้ความคุ้มครองการเสียชีวิต สูญเสียมือ เท้า สายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง จากอุบัติเหตุสูงสุด 100,000 บาท หาซื้อได้จากตัวแทน/นายหน้าประกันภัย บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารออมสิน เคาน์เตอร์เซอร์วิสที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น และเทสโก้ โลตัส ซื้อที่ไหนให้ความคุ้มครองเหมือนกันหมด ทั้งนี้ขอให้ประชาชนตระหนักและให้ความสำคัญของการทำประกันภัยไม่ว่าจะเป็นการประกันชีวิต การประกันวินาศภัย รวมทั้งการ ”ประกันภัย 200”เพราะหากประสบกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ระบบประกันภัยสามารถบรรเทาภาระความเดือดร้อนของตัวท่านและครอบครัวของท่านได้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนประกันภัย 1186 และเว็ปไซต์ www.oic.or.th
ที่มา: http://www.oic.or.th