สำนักงาน คปภ. ได้ประสานกับสำนักงาน คปภ. ภาค 1 จังหวัดเชียงใหม่ เบื้องต้น ทราบว่ารถยนต์คันดังกล่าว มีประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) กับบริษัท ไทยพัฒนาประกันภัย จำกัด (มหาชน) แต่มิได้ทำประกันภัยรถภาคสมัครใจไว้ ซึ่งผู้ประสบภัยจะได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ดังนี้
1. กรณีผู้ประสบภัยเสียชีวิต ทายาทสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากการประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) 200,000 บาทต่อคน สำหรับผู้ขับขี่ที่เป็นฝ่ายต้องรับผิดตามกฎหมายจะได้รับเฉพาะค่าเสียหายเบื้องต้น
2. กรณีผู้ประสบภัยได้รับบาดเจ็บสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากการประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ได้รับค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 50,000 บาทต่อคน และค่าชดเชยรายวัน สำหรับผู้ประสบภัยที่พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล วันละ 200 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 วัน
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเสริมว่า สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และจะติดตามให้บริษัทผู้รับประกันภัยพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ทายาทผู้เสียชีวิตโดยเร็ว รวมถึงประสานโรงพยาบาลสารภีที่รับรักษาผู้บาดเจ็บเพื่ออำนวยความสะดวกด้านค่ารักษาพยาบาล และขอฝากเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนขับรถด้วยความไม่ประมาท ตรวจสอบวันหมดอายุการประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ด้วย และหากต้องการความคุ้มครองเพิ่มขึ้นสามารถซื้อประกันภัยรถภาคสมัครใจเพิ่มเติมได้ จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจะเห็นได้ว่าระบบประกันภัยสามารถรองรับหรือบรรเทาความเดือนร้อนที่เกิดขึ้นได้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนประกันภัย 1186 และเว็บไซต์ www.oic.or.th
ที่มา: http://www.oic.or.th