เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้รับรายงานจากสำนักงาน คปภ. จังหวัดเชียงใหม่ว่า รถบัสคันดังกล่าว มีประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) และประกันภัยรถภาคสมัครใจ (ประเภท 3) กับบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) รวมทั้งการประกันภัยอุบัติเหตุเดินทางสำหรับธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ กับบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งทายาทโดยธรรมของผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บจะได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันภัย ดังนี้
1. ทายาทโดยธรรมของผู้เสียชีวิตจะได้รับค่าสินไหมทดแทนจากการประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) รายละ 200,000 บาท และจากการประกันภัยรถภาคสมัครใจ กรณีไม่มีผู้ขาดไร้อุปการะตามกฎหมาย ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 100,000 บาทต่อคน หรือกรณีมีผู้ขาดไร้อุปการะตามกฎหมาย ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 300,000 บาทต่อคน และความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้ายอุบัติเหตุส่วนบุคคล กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวร รายละ 100,000 บาท รวมทั้งจากการประกันภัยอุบัติเหตุเดินทางสำหรับธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ กรณีเสียชีวิต การสูญเสียอวัยวะสายตา ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 1,000,000 บาทต่อคน
2. ผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บได้รับค่ารักษาพยาบาลจากการประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 50,000 บาทต่อคน ค่าชดเชยในกรณีรักษาตัวในสถานพยาบาลวันละ 200 บาท รวมกันไม่เกิน 20 วัน หากค่ารักษาพยาบาลเกินความคุ้มครองของการประกันภัยรถภาคบังคับ ก็จะได้รับความคุ้มครองจากการประกันภัยรถภาคสมัครใจ ตามเอกสารแนบท้ายอุบัติเหตุส่วนบุคคล 50,000 บาทต่อคน และจากการประกันภัยอุบัติเหตุเดินทางสำหรับธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ 500,000 บาทต่อคน
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเสริมว่า สำนักงาน คปภ. ได้เร่งประสานบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในการดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ทายาทผู้เสียชีวิตด้วยความรวดเร็ว รวมทั้งประสานสถานพยาบาลเพื่ออำนวยความสะดวกเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาล สำนักงาน คปภ. ขอย้ำเตือนให้เจ้าของกิจการรถโดยสารสาธารณะ ซึ่งต้องรับผิดชอบผู้โดยสารเป็นจำนวนมากตรวจสอบวันหมดอายุการทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองตลอดเวลา ทั้งนี้ถ้าประกันภัยรถภาคบังคับหมดอายุนอกจากจะมีความผิดตามกฎหมาย มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ยังต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ซึ่งถ้าต้องการความคุ้มครองเพิ่มมากขึ้นก็สามารถทำประกันภัยรถภาคสมัครใจเพิ่มได้.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186 หรือเว็บไซต์ www.oic.or.th
ที่มา: http://www.oic.or.th