ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า จากการที่สำนักงานคปภ.ได้มีการหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เกี่ยวกับการขายประกันภัยผ่านช่องทางของธนาคารพาณิชย์ (Bancassurance) ให้เป็นไปตามประกาศ คปภ. เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการออก การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัย และการปฏิบัติหน้าที่ของตัวแทนประกันชีวิต นายหน้าประกันชีวิต และธนาคาร พ.ศ. 2551 และประกาศ คปภ. เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการออก การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัย และการปฏิบัติหน้าที่ของตัวแทนประกันวินาศภัย นายหน้าประกันวินาศภัย และธนาคาร พ.ศ. 2552 นอกจากนี้สำนักงาน คปภ. ยังได้สั่งการไปยังสำนักงาน คปภ. ภาค /จังหวัด ทั่วประเทศให้ประสานกับธนาคารพาณิชย์ในพื้นที่ เพื่อติดตาม และรวบรวมข้อมูลกระบวนการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยว่ามีความถูกต้อง ตรงตามประกาศ คปภ. หรือไม่อย่างไร และขอความร่วมมือให้ธนาคารดำเนินการตามประกาศ คปภ. อย่างเคร่งครัดโดยให้สำนักงาน คปภ. จังหวัด รายงานผลการดำเนินงานพร้อมแจ้งประเด็นปัญหาอุปสรรคหรือข้อขัดข้องและเร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประกันภัย รวมถึงแนวทางปฏิบัติ ในการซื้อประกันภัยผ่านช่องทางธนาคาร (Bancassurance) เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดจากระบบประกันภัยด้วยความเป็นธรรม
ดังนั้นเพื่อติดตามความคืบหน้าในเรื่องนี้อย่างจริงจัง จึงได้ลงพื้นที่ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2559 เพื่อตรวจสอบและรับฟังผลการดำเนินงานของ คปภ. และร่วมประชุมกับตัวแทนธนาคารพาณิชย์ ตัวแทนบริษัทประกันภัยสาขาต่างๆในพื้นที่โดยกำชับและขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามประกาศ คปภ. อย่างเคร่งครัด
ในโอกาสนี้ สำนักงาน คปภ. ได้เพิ่มความเข้มข้นในการคุ้มครองผู้บริโภคทั่วทุกพื้นที่ของประเทศไทย ด้วยการลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคด้านการประกันภัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการคุ้มครองผู้บริโภค ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน และส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพด้านการประกันภัยแก่ประชาชน ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) โดยนายอำพล วงศ์ศิริ เลขาธิการ สคบ. ทั้งนี้ได้รับเกียรติจากนายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้เกียรติ เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามดังกล่าว ณ โรงแรมอิมพีเรียล แม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ในการนี้ทาง คปภ.ได้นำ รถ Mobile ให้บริการต่อใบอนุญาตตัวแทน/นายหน้าประกันภัย แบบ “วันสต็อบเซอร์วิส” และมีการจัดนิทรรศการเพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนอีกด้วย
สำหรับความร่วมมือของ คปภ.และ สคบ. ในครั้งนี้ จะมีการเชื่อมระบบฐานข้อมูลรับเรื่องร้องเรียนของทั้งสองหน่วยงานเข้าด้วยกันเพื่อให้สามารถติดตามสถานะของเรื่องร้องเรียนด้านประกันภัยว่ามีความคืบหน้าใน การแก้ไขปัญหาไปถึงไหนอย่างไร อีกทั้งยังสามารถติดตามเรื่องร้องเรียนได้ว่าอยู่ในความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่คนใด เพื่อให้การบริการประชาชนมีความสะดวก รวดเร็ว มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านวิชาการ และส่งเสริมพัฒนาบุคลากรด้านการคุ้มครองผู้บริโภคและการประกันภัย ตลอดจนร่วมกันติดตาม ประเมินผล และประชาสัมพันธ์การดำเนินงานเพื่อให้เป็นไปตามความร่วมมือของทั้งสองหน่วยงาน โดยลงลึกในรายละเอียดของแนวทางการปฏิบัติงานให้สามารถจับต้องได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งระบบรับส่งเรื่องร้องเรียนระหว่างหน่วยงานจะสามารถเริ่มใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม 2559 เป็นต้นไป
“เหตุที่เลือกจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นสถานที่ลงนามบันทึกความตกลงว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภคด้านการประกันภัย ก็เพื่อต้องการจะแสดงให้เห็นว่าไม่ว่าพี่น้องประชาชนจะอยู่ไกลแค่ไหน คปภ.- สคบ.ห่วงใยและจะดูแลท่านทั่วไทย ทั้งนี้การคุ้มครองผู้บริโภคในด้านการประกันภัยจะดำเนินการทั้งในเชิงป้องปรามและเยียวยา จะเพิ่มประสิทธิภาพการให้ความรู้แก่ประชาชนให้เข้าใจและรู้ทันเพื่อมิให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ ส่วนในแง่ การเยียวยาจะเพิ่มความเข้มข้นในการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น โดยในปีนี้จะผลักดันให้มีการจัดตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัยอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเป็นทางเลือกในการระงับข้อพิพาทให้กับประชาชน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น” ดร.สุทธิพล กล่าวในตอนท้าย
ที่มา: http://www.oic.or.th