คปภ. เผยประกันภัยคุ้มครองผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถที่ปทุมธานี

ข่าวทั่วไป Friday February 26, 2016 15:17 —คปภ.

ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า จากเหตุรถยนต์ หมายเลขทะเบียน ชข-5276 กรุงเทพมหานคร เสียหลักข้ามเกาะกลางถนนมาเฉี่ยวชนกับรถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน กท-1515 นครปฐม และรถเก๋ง หมายเลขทะเบียน 2กณ-9841 กรุงเทพมหานคร บริเวณทางหลวงหมายเลข 345 หน้าโรงเรียนสาธิตปทุมธานี ตำบลบางคูวัด อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย และได้รับบาดเจ็บ 2 ราย นั้น

เบื้องต้นได้รับรายงานจากสำนักงาน คปภ. จังหวัดปทุมธานี พบว่ารถยนต์ หมายเลขทะเบียน ชข-5276 กรุงเทพมหานคร เคยทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) แต่กรมธรรม์หมดอายุตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2558 มีผู้เสียชีวิต 1 ราย รถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน กท-1515 นครปฐม ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) และประกันภัยรถภาคสมัครใจ (ประเภท 1) กับ บมจ. ไอโออิ กรุงเทพประกันภัย มีผู้เสียชีวิต 5 ราย ส่วนรถเก๋ง หมายเลขทะเบียน 2กณ-9841 กรุงเทพมหานคร ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) กับ บมจ. สินมั่นคงประกันภัย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย

กรณีดังกล่าวผู้ประสบอุบัติเหตุจะได้รับความคุ้มครองจากระบบประกันภัย ดังนี้

1. ทายาทโดยธรรมของผู้เสียชีวิตรถยนต์ทะเบียน ชข-5276 สามารถเรียกร้องค่าเสียหายเบื้องต้นจากกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย เป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดการศพ จำนวน 35,000 บาท

2. ทายาทโดยธรรมของผู้เสียชีวิตในรถคันหมายเลขทะเบียน กท-1515 นครปฐม จะได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นค่าปลงศพจากการประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) รายละ 35,000 บาท และจากการประกันภัยรถภาคสมัครใจ ตามเอกสารแนบท้ายอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) สำหรับผู้ขับขี่ 50,000 บาท และผู้โดยสาร 4 คนๆ ละ 50,000 บาท จาก บมจ. ไอโออิ กรุงเทพประกันภัย

3. ผู้ได้รับบาดเจ็บในรถคันหมายเลขทะเบียน 2กณ-9841 ได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นสำหรับรักษาพยาบาลจากการประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน จากบมจ. สินมั่นคงประกันภัย

เลขาธิการ คปภ. กล่าวเสริมว่า สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และได้เร่งประสานบริษัท ไอโออิ กรุงเทพ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ให้ดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ทายาทผู้เสียชีวิตด้วยความรวดเร็ว ถูกต้อง และเป็นธรรม อุบัติเหตุครั้งนี้นับว่าเป็นอุบัติเหตุรายใหญ่ แต่น่าเสียดายว่ารถยนต์คันที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ไม่ได้ต่อกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) และไม่มีการประกันภัยรถภาคสมัครใจ ทำให้ไม่ได้รับความคุ้มครองจากระบบประกันภัย ผู้ขับขี่ที่เป็นผู้ทำละเมิดต้องรับผิดชอบความเสียหายในทางแพ่งที่เกิดขึ้นเองทั้งหมด สำนักงาน คปภ. จึงขอย้ำเตือนเจ้าของรถตรวจสอบวันหมดอายุกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองจากระบบประกันภัยตลอดเวลา และหากต้องการความคุ้มครองเพิ่มขึ้นสามารถซื้อประกันภัยรถภาคสมัครใจเพิ่มเติมได้

ที่มา: http://www.oic.or.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ