คปภ.จัดหนักส่งมอบ "ความสุข-ของขวัญ" ให้ประชาชนอย่างจุใจ ผนึก "ภาคเอกชน-ปภ." รณรงค์ขับขี่ปลอดภัยในช่วงเทศกาลกรานต์ปีนี้

ข่าวทั่วไป Wednesday March 30, 2016 14:41 —คปภ.

คปภ.จับมือหน่วยงานด้านการประกันภัย จัดกิจกรรมรณรงค์ความปลอดภัยบนท้องถนน “สงกรานต์ปีนี้เดินทางสุขใจ ด้วยการประกันภัย”มุ่งเป้าลดการสูญเสียตามกรอบปฏิญญามอสโก พร้อมมอบของขวัญแทนความห่วงใยให้ประชาชนอย่างจุใจ ด้วยการประกาศเพิ่มวงเงินคุ้มครองประกันภัยรถภาคบังคับ ผุดประกันภัย 100 ให้ความคุ้มครอง 100,000 บาท เปิดจำหน่ายตลอดเดือนเมษายนนี้

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่าสำนักงานคปภ.ร่วมกับสมาคมประกันวินาศภัยไทย สมาคมประกันชีวิตไทย จัดโครงการรณรงค์ความปลอดภัยทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี2559ภายใต้ธีม“สงกรานต์ปีนี้เดินทางสุขใจด้วยการประกันภัย”เพื่อสร้างจิตสำนึกสร้างวัฒนธรรมที่ดีในการขับขี่อย่างปลอดภัย และตระหนักในการใช้รถใช้ถนน รวมทั้งป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน โดยมี นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ให้เกียรติเข้าร่วมในพิธีเปิด ณ ที่ทำการสำนักงาน คปภ.

“อุบัติเหตุทางถนนเป็นปัญหาสำคัญที่ทุกประเทศกำลังเผชิญอยู่ และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยองค์การสหประชาชาติได้เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกดำเนินการตามกรอบปฏิญญามอสโก ซึ่งกำหนดให้พ.ศ.2554-2563 เป็นทศวรรษแห่งการปฏิบัติการเพื่อความปลอดภัยทางถนน และประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในสมาชิกที่ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว จึงได้กำหนดให้ความปลอดภัยทางถนนเป็นวาระแห่งชาติ โดยตั้งเป้าหมายลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน เหลือ 10 คนต่อประชากร 100,000 คน ภายในปี พ.ศ. 2563 ตามกรอบเป้าหมายขององค์การสหประชาชาติ” เลขาธิการ คปภ. กล่าว

ในช่วงที่ผ่านมา สำนักงาน คปภ. ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวมทั้งภาคอุตสาหกรรมประกันภัย ได้ร่วมกันดำเนินการเกี่ยวกับมาตรการการดูแลผู้ประสบภัยจากรถให้ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาอย่างทันท่วงทีรวดเร็ว ถูกต้อง และเป็นธรรม ทั้งนี้ได้มีการบูรณาการความร่วมมือทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ โดยส่วนกลางได้จัดกิจกรรมรณรงค์ความปลอดภัยทางถนนภายในองค์กร ทั้งสำนักงาน คปภ. และภาคอุตสาหกรรมประกันภัย โดยให้พนักงานทุกคนปฏิบัติตามมาตรการองค์กรอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ได้มีการมอบหมวกนิรภัยให้แก่เด็กนักเรียนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร เพื่อใช้สวมใส่ทุกครั้งเมื่อขับขี่รถจักรยานยนต์ สำหรับในส่วนภูมิภาค ผู้อำนวยการสำนักงาน คปภ.ภาค/จังหวัด และภาคอุตสาหกรรมประกันภัย ได้ดำเนินงานแบบบูรณาการกับ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนระดับจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานศูนย์ประจำจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เพื่อรณรงค์การขับขี่อย่างปลอดภัย รวมทั้งให้บริการประชาชนตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในขณะเดียวกันก็จะขับเคลื่อนความร่วมมือกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) อย่างเข้มข้น ซึ่งมีกรอบดำเนินการร่วมกันใน 4 บทบาทหลัก คือ การร่วมกันรณรงค์ ส่งเสริมการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตามแผนทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน การเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการประกันภัยรถภาคบังคับ และการประกันภัยสำหรับรายย่อย (ไมโครอินชัวรันส์) รวมถึงให้คำแนะนำ เกี่ยวกับข้อกฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัย ให้กับเจ้าหน้าที่ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการประสานงาน แลกเปลี่ยนข้อมูล และให้ความร่วมมือระหว่างกันในการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ให้ความร่วมมือกับรัฐในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนและเห็นความสำคัญในการบริหารความเสี่ยงโดยใช้ระบบประกันภัยเป็นเครื่องมือ

ดร.สุทธิพล กล่าวเพิ่มเติมว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์แห่งความสุขที่จะถึงนี้สำนักงานคปภ.ได้จัดเตรียมของขวัญพิเศษด้านประกันภัยให้กับประชาชน ด้วยการปรับเพิ่มวงเงินคุ้มครองการประกันภัยรถภาคบังคับ หรือ(ประกันภัยตามพ.ร.บ.)โดยไม่มีการเพิ่มเบี้ยประกันภัยเพื่อให้ผู้ประสบภัยจากรถได้รับความคุ้มครองอย่างทันท่วงที จากเดิมจะได้รับค่ารักษาพยาบาล 50,000 บาทต่อคน ปรับเพิ่มเป็น 80,000 บาทต่อคน ค่าสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิต/ทุพพลภาพถาวร จากเดิม 200,000 บาทต่อคน ปรับเพิ่มเป็น 300,000 บาทต่อคน และกรณีสูญเสียอวัยวะ จากเดิม 200,000 บาท ปรับเพิ่มเป็น 200,000-300,000 บาท

ทั้งนี้ได้ออกเป็นคำสั่งนายทะเบียนเรื่องให้ใช้แบบข้อความกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ และกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์รวมการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2559 โดยได้รับความร่วมมือจากภาคธุรกิจประกันภัยให้กรมธรรม์ประกันภัยเดิมที่ยังไม่สิ้นสุดระยะเวลาประกันภัยให้ได้รับความคุ้มครองใหม่ไปด้วยพร้อมกันเพื่อให้การปรับเพิ่มความคุ้มครองครั้งนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพไม่ก่อให้เกิดความสับสน

อีกทั้งสำนักงานคปภ.มีนโยบายที่จะส่งเสริมให้ประชาชนมีหลักประกันความคุ้มครองอุบัติเหตุให้กับตนเองและครอบครัวโดยเฉพาะการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์จึงได้มีการหารือร่วมกับสมาคมประกันชีวิตไทย และสมาคมประกันวินาศภัยไทยในหลักการ เพื่อร่วมกันกำหนดรูปแบบผลิตภัณฑ์ประกันภัยสำหรับรายย่อยเพื่อเป็นผลิตภัณฑ์กลางและตอบสนองกับความต้องการของประชาชนในทุกระดับ ซึ่งถือเป็นของขวัญที่สำนักงาน คปภ. และภาคอุตสาหกรรมประกันภัยมอบให้ประชาชนในเทศกาลสงกรานต์ โดยใช้ชื่อว่า “กรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุเทศกาลสงกรานต์สุขใจ (ไมโครอินชัวรันส์) หรือประกันภัย 100 ” ซึ่งมีลักษณะกรมธรรม์ที่มีราคาถูกเบี้ยประกันภัย 100 บาทต่อปี ให้ความคุ้มครองกรณีสูญเสียชีวิตจากอุบัติเหตุสูงสุดถึง 100,000 บาท มีระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปี ประชาชนโดยทั่วไปที่มีอายุ 20-60 ปี สามารถซื้อได้ระหว่างวันที่ 30 มีนาคม ถึง 30 เมษายน 2559 ที่บริษัทประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการ หรือเคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขา เคาน์เตอร์เทสโก้ฯ โบรคเกอร์ประกันภัยในห้างเทสโก้โลตัส บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด บริษัท เซ็นทรัล อินชัวรันส์ เซอร์วิสเซส จำกัด ธนาคารออมสิน บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เป็นต้น

นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. ยังคงมุ่งพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ประชาชนด้านการประกันภัยให้ได้รับการคุ้มครองประสิทธิภาพในการบริหารจัดการด้านสินไหมทดแทนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยขณะนี้ สำนักงาน คปภ. อยู่ระหว่างการเตรียมการตั้งศูนย์ใกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัยขึ้น ณ ที่ทำการสำนักงาน คปภ. กรุงเทพฯ ซึ่งจะเป็นศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัยโดยเฉพาะเป็นแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน และอยู่ระหว่างการจัดเตรียมระบบธุรการ บุคลากร และปรับปรุงสถานที่เพื่อให้มีความพร้อม โดยจะเปิดศูนย์ไกล่เกลี่ยได้ในช่วงเดือนเมษายนนี้

ดร.สุทธิพล กล่าวว่า ด้วยความห่วงใยต่อประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2559 ที่กำลังจะมาถึงนี้ สำนักงาน คปภ. อยากฝากเตือนผู้ที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือการเดินทางท่องเที่ยว ให้ขับขี่ยานพาหนะด้วยความไม่ประมาท คาดเข็มขัดนิรภัย ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ต้องสวมหมวกนิรภัย เมาไม่ขับ พักผ่อนให้เพียงพอ เตรียมสภาพร่างกายและตรวจสภาพรถให้พร้อม และปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญก่อนการเดินทางคือการตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัย และวันหมดอายุของการประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ด้วย แม้ว่าการทำประกันภัย ไม่สามารถป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่หากเกิดอุบัติเหตุแล้ว การประกันภัยสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของท่านได้ ทั้งนี้ ในช่วง 7 วันอันตราย สำนักงาน คปภ. ได้เปิดให้บริการรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการประกันภัยตลอด 24 ชั่วโมงทางสายด่วน คปภ. 1186

ที่มา: http://www.oic.or.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ