ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่ากระบวนการระงับข้อพิพาทด้านการประกันภัยด้วยวิธีอนุญาโตตุลาการ ถือเป็นกระบวนการระงับข้อพิพาททางเลือก ที่กำหนดเป็นส่วนหนึ่งของเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยทุกฉบับ โดยมีประชาชนผู้มีสิทธิเรียกร้องตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัยกับบริษัทประกันภัยเป็นคู่พิพาท ซึ่งสำนักงาน คปภ. ได้จัดให้มีระเบียบข้อบังคับ หน่วยงาน และบุคลากรให้บริการประชาชน ผู้เอาประกันภัยที่ประสงค์จะระงับข้อพิพาททางเลือกดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2541 โดยในปัจจุบัน สำนักงาน คปภ. มีที่ทำการอนุญาโตตุลาการที่สำนักงาน คปภ. ส่วนกลาง กรุงเทพฯ และที่สำนักงาน คปภ. ภาค 1 จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งยังไม่ครอบคลุม และไม่อาจรองรับการให้บริการประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ได้อย่างทั่วถึง
สำนักงาน คปภ. จึงได้ดำเนินโครงการพัฒนากระบวนงานการระงับข้อพิพาทด้วยวิธีอนุญาโตตุลาการในส่วนภูมิภาค เพื่อขับเคลื่อนนโยบายด้านการคุ้มครองผู้บริโภคของสำนักงาน คปภ. อย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงรองรับการให้บริการระงับข้อพิพาทด้านการประกันภัยแก่ประชาชนในส่วนภูมิภาคได้อย่างทั่วถึงยิ่งขึ้น โดยได้จัดตั้งที่ทำการอนุญาโตตุลาการ สำนักงาน คปภ. ภาค 12 จังหวัดสงขลา โดยมีเขตอำนาจรองรับการให้บริการครอบคลุมพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งจะเป็นการอำนวยความสะดวกและบรรเทาความเดือนร้อน รวมถึงลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชนผู้เอาประกันภัย โดยมีภาคอีสานเป็นเป้าหมายต่อไป “ผู้บริโภคถือเป็นศูนย์กลางของทุกธุรกิจ ดังนั้นความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจึงนับเป็นตัวชี้วัดสำคัญในการตัดสินความสำเร็จของการดำเนินธุรกิจทุกแขนง สำนักงาน คปภ. จึงมีนโยบายให้ความสำคัญและยึดมั่นประชาชนผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง (customer-centric) โดยจะดูแลผู้บริโภคแบบเชิงรุกและ ครบวงจร ตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันและเสริมศักยภาพระบบการคุ้มครองผู้บริโภคให้มีประสิทธิภาพและเข้มแข็งมากขึ้น ซึ่งการเปิดที่ทำการอนุญาโตตุลาการ คปภ. ภาค 12 จังหวัดสงขลา ในวันนี้ ถือเป็นหนึ่งมาตรการสำคัญที่สำนักงาน คปภ. มีความตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะพัฒนาประสิทธิภาพกระบวนการระงับข้อพิพาทด้านการประกันภัย เพื่อรองรับการให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนอย่างทั่วถึง”
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเสริมว่า สำนักงาน คปภ. เป็นหน่วยงานทำหน้าที่ในการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัย ซึ่งนอกจากจะเป็นการกำกับดูแลภาคธุรกิจประกันภัยให้มีความมั่นคงเข้มแข็งแล้ว ยังมีอีกหนึ่งภารกิจสำคัญในการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัยให้แก่ภาคประชาชนรวมถึงผู้เอาประกันภัย จึงได้มีการเร่งปรับปรุงกระบวนการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนด้านการประกันภัย รวมถึงการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัยให้เป็นระบบและมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง และได้มีการริเริ่มนำระบบไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัยมาใช้อย่างเต็มรูปแบบเพื่อรองรับข้อพิพาทด้านประกันภัยในปีนี้ โดยจะมีการตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัยโดยเฉพาะเป็นแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดเตรียมระบบธุรการ บุคลากร และปรับปรุงสถานที่เพื่อให้มีความพร้อม ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถเปิดศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัยได้ในช่วงปลายเดือนเมษายนนี้
ที่มา: http://www.oic.or.th