ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่เกิดอุบัติเหตุเรือล่ม เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2559 ซึ่งเรือลำดังกล่าวมีชื่อว่าสมบัติมงคลชัย หมายเลขทะเบียน 106600841 โดยมีพี่น้องชาวไทยมุสลิมจำนวนมากเดินทางจากตลาดขวัญ จังหวัดนนทบุรี เพื่อไปร่วมพิธีทางศาสนาประจำปีที่มัสยิดอารียิดดารอย ตำบลภูเขาทอง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังจากเสร็จสิ้นพิธีขณะเดินทางกลับเรือลำดังกล่าวได้ประสบอุบัติเหตุชนกับตอม่อทำให้เรือเสียการทรงตัวล่มในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหน้าวัดสนามชัย หมู่ที่ 10 ตำบลบ้านป้อม อำเภอเมือง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในเบื้องต้นสำนักงานคปภ.จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วจำนวน 15 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บ (Admit) จำนวน 14 ราย บาดเจ็บเล็กน้อยจำนวน 46 ราย และมีผู้สูญหาย จำนวน 10 ราย
ทั้งนี้ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 73 (พ.ศ.2549) ออกตามความในพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2456 กำหนดให้เจ้าของเรือหรือผู้ประกอบการเดินเรือสำหรับโดยสารต้องจัดให้มีการประกันภัยคุ้มครองผู้โดยสาร ซึ่งในเบื้องต้นสำนักงาน คปภ.ได้ทำการตรวจสอบพบว่าเรือลำดังกล่าวทำประกันภัยภาคบังคับไว้กับบริษัทไทยพัฒนาประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยมีระยะเวลาประกันภัยระหว่างวันที่ 10 มีนาคม 2558 ถึง วันที่ 10 มีนาคม 2559 ซึ่งหมดอายุการคุ้มครองแล้ว แต่ยังไม่ได้ต่ออายุกรมธรรม์ ขณะนี้สำนักงาน คปภ. กำลังตรวจสอบต่อไปว่ามีการทำประกันภัยไว้กับบริษัทอื่นอีกหรือไม่ ทั้งนี้หากเรือลำดังกล่าวได้ทำประกันภัยและกรมธรรม์ยังมีผลบังคับใช้ผู้โดยสารจะได้รับการคุ้มครองในกรณีเสียชีวิต การสูญเสียอวัยวะ (สายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง) จำนวน 100,000 บาทต่อคน กรณีบาดเจ็บจะได้รับค่ารักษาพยาบาลไม่เกิน 15,000 บาทต่อคน
สำหรับการประกันภัยรายบุคคล ในเบื้องต้นสำนักงาน คปภ. ตรวจสอบแล้วพบว่ามีผู้โดยสารบางรายทำประกันชีวิตไว้กับบริษัทเอไอเอ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งสำนักงาน คปภ. ได้ประสานบริษัทให้เร่งดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนเป็นการด่วนแล้ว ส่วนการประกันอุบัติเหตุก็จะตรวจสอบว่ามีการทำประกันภัยไว้กับบริษัทใดหรือไม่ ถ้าพบว่ามีการทำประกันไว้ก็จะเร่งให้มีการดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนเป็นการด่วนต่อไป
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเสริมว่า สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยตนได้สั่งการสำนักงาน คปภ. จังหวัดและสำนักงาน คปภ. ภาค เข้าไปช่วยอำนวยความสะดวกด้านการประกันภัยให้กับผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่แล้ว ทั้งนี้อยากจะฝากเตือนผู้ประกอบการเดินเรือควรทำประกันภัยการเดินเรือตามที่กฎหมายกำหนด และหมั่นตรวจสอบวันหมดอายุกรมธรรม์ด้วยเพื่อให้ผู้ประสบภัยทางน้ำที่เกิดจากเรือโดยสารได้รับความคุ้มครองอย่างทั่วถึงและครบวงจร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186 หรือเว็บไซต์ www.oic.or.th
ที่มา: http://www.oic.or.th