คปภ.เร่งจัดการเยียวยารถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากรถบรรทุก 6 ล้อไล่ชนกลางกรุงแล้ว

ข่าวทั่วไป Thursday December 22, 2016 11:04 —คปภ.

คปภ. เร่งจัดการเยียวยารถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากรถบรรทุก 6 ล้อไล่ชนกลางกรุงแล้วสั่ง“บริษัทสินมั่นคง”ที่รับประกันรถบรรทุกก่อเหตุให้เยียวยาผู้เสียหายโดยเร็ว พร้อมเร่งสำรวจรถเหยื่อที่ถูกชน หากพบว่ามีประกัน ให้บริษัทประกันชดใช้เพิ่มเติมโดยด่วน

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่นายเอกพจน์ ยศศิริ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 199/1 หมู่ 1 ตำบลน้ำเกลี้ยงอำเภอน้ำเกลี้ยง จังหวัดศรีสะเกษ พนักงานขับรถบรรทุก 6 ล้อ หมายเลขทะเบียน 96-9575 กรุงเทพมหานคร ขับรถชนรถจักรยานยนต์และรถยนต์ได้รับความเสียหายจำนวนมาก บริเวณถนนสุขุมวิท ใกล้ซอยสุขุมวิท 63 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมานั้น

ทั้งนี้ ได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของสำนักงาน คปภ. ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่ารถบรรทุกคันดังกล่าวเป็นของบริษัท ชัยภิวัฒน์ จำกัด ทำประกันภัยรถภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ. และทำประกันภัยรถภาคสมัครใจ (ประเภท 3) ไว้กับ บมจ. สินมั่นคงประกันภัย ซึ่งให้ความคุ้มครองผู้ได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ดังนี้ กรณีที่มีผู้บาดเจ็บจะได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ. โดยจะรับผิดชอบจ่ายค่ารักษาพยาบาลรายละไม่เกิน 80,000 บาท/ราย หากความเสียหายสูงกว่านั้นก็จะไปใช้สิทธิประกันภัยรถยนต์ ประเภท 3 ซึ่งมีวงเงินความคุ้มครองชีวิต ร่างกาย อนามัยบุคคลภายนอก จำนวน 300,000บาท/คน แต่ไม่เกิน 10 ล้านบาท/ครั้ง ในส่วนของความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก มีทุนประกันภัย จำนวน 600,000 บาทต่ออุบัติเหตุหนึ่งครั้ง หากมีความเสียหายเกินกว่าทุนประกันภัยดังกล่าวก็ให้เฉลี่ยจ่ายในแต่ละรายที่เรียกร้องค่าเสียหาย

จึงได้ประสานงานและสั่งการให้ บมจ.สินมั่นคงประกันภัย เร่งติดตามและดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนอย่างเป็นธรรมเนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมาก โดยเบื้องต้นมีผู้เสียหายแจ้งเคลมกับบมจ.สินมั่นคงประกันภัยแล้ว จำนวน 34 ราย ซึ่งในกรณีนี้บริษัทประกันภัยจะรับผิดชอบไม่เกินทุนประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก หากความเสียหายที่เกิดขึ้นมีจำนวนเกินกว่าทุนประกันภัย บริษัทประกันภัยอาจใช้วิธีการเฉลี่ยจ่ายให้กับผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายก็มีสิทธิฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติมกับผู้ก่อเหตุหรือบริษัทที่เป็นเจ้าของรถบรรทุก 6 ล้อคันดังกล่าวได้ด้วย

นอกจากนี้ตนได้สั่งการให้สำนักงานคปภ.เร่งสำรวจรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากรถบรรทุก 6 ล้อคันดังกล่าวว่ามีการทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจหรือไม่ หากพบว่ามีการทำประกันภัยก็จะประสานงานช่วยเร่งรัดกับทางบริษัทประกันภัยที่เกี่ยวข้องให้จ่ายค่าสินไหมทดแทนความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยเจ้าของรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายก็สามารถแจ้งบริษัทประกันภัยที่รับประกันรถยนต์ของตนให้จ่ายค่าสินไหมทดแทนตามความคุ้มครองของกรมธรรม์ได้เช่นกัน และหากไม่ได้รับความสะดวกขอให้แจ้งมายังสำนักงานคปภ.หรือที่สายด่วน 1186 ทางคปภ.จะเร่งดำเนินการให้โดยเร็ว ซึ่งเรื่องนี้ตนถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งเพราะเกิดความเสียหายกับประชาชนเป็นจำนวนมาก หากใช้ระบบประกันภัยเข้าไปช่วยเยียวยาความเสียหายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะเป็นการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนจากความเสียหายที่เกิดขึ้น อันเป็นภารกิจหลักของสำนักงานคปภ.

ทั้งนี้สำนักงาน คปภ. ขอให้ประชาชนให้ความสำคัญต่อการประกันภัยและเลือกซื้อกรรมธรรม์ที่มีความเหมาะสมกับการดำเนินชีวิตของตัวเอง เพื่อรองรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ซึ่งระบบประกันภัยจะได้เข้าไปช่วยบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน คปภ. 1186 หรือเว็บไซต์ www.oic.or.th

ที่มา: http://www.oic.or.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ