คปภ. สร้างรอยยิ้มต้อนรับสงกรานต์ปีนี้ ให้ผู้ใช้บริการรถโดยสารประจำทางทั่วประเทศ ด้วยการจับมือ บขส. นำระบบประกันภัยบริหารความเสี่ยงอุบัติเหตุบนท้องถนนอย่างครบวงจร

ข่าวทั่วไป Wednesday March 29, 2017 14:30 —คปภ.

สำนักงาน คปภ. โดย ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการส่งเสริมความรู้ และสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัย กับ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) โดย พลตำรวจเอกอำนาจ อันอาตม์งาม กรรมการรักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ เพื่อร่วมมือกันส่งเสริมให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นต่อการใช้บริการรถโดยสารประจำทาง ทั่วประเทศ รวมทั้งเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการประกันภัยให้กับเจ้าหน้าที่ และพนักงานของ บขส. ในเรื่องการประกันภัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักถึงคุณค่าและคุณประโยชน์ของการสร้างหลักประกันความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สินให้กับตนเองและครอบครัว อันเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ. เปิดเผยว่า สำนักงาน คปภ. มีนโยบายเชิงรุกตามแผนพัฒนาการประกันภัยฉบับที่ 3 เพื่อเพิ่มบทบาทให้ระบบประกันภัยเข้าไปมีส่วนร่วมในการวางรากฐานสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจและสังคมประเทศ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว รวมทั้งนำเอาระบบประกันภัยเข้ามาบริหารความเสี่ยงให้กับประชาชนอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง สำนักงาน คปภ. จึงเล็งเห็นความสำคัญในการให้ความรู้ด้านประกันภัยกับหน่วยงานที่ให้บริการด้านสาธารณูปโภคต่างๆ ของภาครัฐ ให้เข้าใจถึงระบบประกันภัยที่จะช่วยบริหารความเสี่ยงภัยอย่างเป็นระบบ และมีประสิทธิภาพ ดังนั้น สำนักงาน คปภ. จึงได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการส่งเสริมความรู้ และสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัย กับ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.)

สำหรับกรอบความร่วมมือในครั้งนี้ สำนักงาน คปภ.จะให้คำปรึกษาแนะนำด้านข้อมูล ข้อกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ และการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัยให้กับเจ้าหน้าที่ และพนักงานของ บขส. รวมถึงประชาชนผู้ใช้บริการรถโดยสารประจำทางทั่วประเทศ ในส่วนของ บขส. จะร่วมมืออำนวยความสะดวกและให้การสนับสนุน สำนักงาน คปภ. เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการประกันภัยให้กับประชาชนผู้ใช้บริการรถโดยสารประจำทางทั่วประเทศให้มีความรู้ ความเข้าใจถึงสิทธิประโยชน์ความคุ้มครองจากระบบการประกันภัย นอกจากนี้ ทั้งสำนักงาน คปภ. และ บขส. จะประสานความร่วมมือแลกเปลี่ยนข้อมูลและร่วมจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนผู้ใช้บริการรถโดยสารประจำทางทั่วประเทศ เห็นความสำคัญโดยใช้ระบบประกันภัยเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยง รวมถึงร่วมกันรณรงค์การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

เลขาธิการ คปภ. กล่าวเสริมว่า การลงนาม MOU ครั้งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นของการบูรณาการความร่วมมือกันอย่างเป็นระบบระหว่าง สำนักงาน คปภ. กับ บขส. ซึ่งนับเป็นอีกก้าวสำคัญ ที่นอกจากจะช่วยกันรณรงค์เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจแล้ว ยังสามารถพัฒนารูปแบบของกรมธรรม์ประกันภัยใหม่ๆ ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานที่แท้จริงของ บขส. ในอนาคตได้อีกด้วย

นอกจากนี้ การทำ MOU ระหว่างสำนักงาน คปภ. กับบริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) ยังจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนผู้ใช้บริการรถโดยสารประจำทางทั่วประเทศ ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ โดยระบบประกันภัยจะเข้าไปช่วยลดความเสี่ยงภัยให้กับ บขส. ที่ให้บริการขนส่งมวลชนอย่างเป็นระบบและครบวงจร และยังเป็นการสร้างความมั่นใจในการเดินทางให้กับประชาชนโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลหยุดยาวที่ประชาชนส่วนใหญ่ออกเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวจำนวนมาก ระบบประกันภัยจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการเยียวยาและรองรับความ เสี่ยงภัยให้กับประชาชนได้ ซึ่งที่ผ่านมาสำนักงาน คปภ. ได้มีการสนับสนุนนโยบายของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง โดยจัดกิจกรรมรณรงค์ลดอุบัติเหตุบนท้องถนนร่วมกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยว อีกทั้ง ได้มีการดำเนินงานเชิงรุกทั้งการ ป้องปรามและการเยียวยา ซึ่งในการป้องปรามก็ได้มีการเพิ่มมาตรการกระตุ้นการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยการออกคำสั่งนายทะเบียนลดเบี้ยประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจร้อยละ 5-10 ให้กับรถยนต์ที่ติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV รวมถึงออกคำสั่งนายทะเบียนปรับแก้เงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ให้ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด ไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายจราจรทางบก และเพื่อให้ผู้ขับขี่รถยนต์มีความระมัดระวังและตระหนักถึงอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการขับขี่รถยนต์ในขณะเมาสุราหรือดื่มแอลกอฮอล์ ในส่วนของการเยียวยาได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุ เรียกว่า “กรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุสงกรานต์สุขใจ พลัส”หรือ “ประกันภัย 222” ที่ให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุสูงสุด 100,000 บาท และผลประโยชน์จากค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 5,000 บาท ต่อปี โดยจ่ายเบี้ยประกันภัยเพียง 222 บาท ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับสิทธิประโยชน์จากการทำประกันภัยได้อย่างครบถ้วน

ที่มา: http://www.oic.or.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ