นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานสัปดาห์ประกันภัยปี 2560 หรือ Insurance Expo 2017 และปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “โอกาสและความท้าทายของเทคโนโลยีประกันภัย สู่อนาคตไทย” โดยกล่าวในตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยได้เผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ และสังคมหลายด้าน อาทิ การก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งสะท้อนว่าประชากรไทยมีชีวิตภายหลังเกษียณยาวนานขึ้น จึงควรมีการวางแผนด้านการเงินอย่างรอบคอบเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้สูงอายุ นอกจากนี้ ประเทศไทยยังเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงด้านภัยธรรมชาติที่มีความถี่และความรุนแรงมากขึ้น ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจในภาพรวม ซึ่งรัฐบาลได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของประเด็นความท้าทายดังกล่าว จึงได้ส่งเสริมการนำระบบประกันภัยเข้ามาบริหารความเสี่ยง และนโยบายด้านนวัตกรรมตลอดจนเทคโนโลยีสารสนเทศที่สอดคล้องกับนโยบายประเทศไทย 4.0 หรือ Thailand 4.0 เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านเศรษฐกิจและสังคม
นอกจากนี้ การบริหารจัดการกับความท้าทายและความเสี่ยงต่างๆนั้น นวัตกรรมด้านการประกันภัยถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ใช้สำหรับเตรียมการรองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ดังนั้นจึงขอชื่นชมสำนักงาน คปภ. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยที่เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลด้วยการนำระบบประกันภัยเข้ามาเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงให้สอดคล้องกับบริบทด้านเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุที่ช่วยให้ประชาชนมีทางเลือกในการวางแผนและเตรียมพร้อมด้านการเงินสำหรับในวัยหลังเกษียณ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยสำหรับรายย่อยที่ทำให้ประชาชนเข้าถึงระบบประกันภัยได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น และการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการธุรกิจการค้าและการลงทุนมีหลักประกันความคุ้มครองจากระบบประกันภัย ซึ่งทำให้ภาคประชาชนและภาคธุรกิจของไทยสามารถเลือกใช้เครื่องมือทางการเงินที่เหมาะสมในการจัดการกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม ส่งผลให้ธุรกิจประกันภัยเติบโตได้ดีในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา จนทำให้ภาคธุรกิจประกันภัยเป็นอีกหนึ่งในเสาหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยได้อย่างเข้มแข็งและมั่นคง
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า จากพัฒนาการของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้กลายเป็นความท้าทายสำคัญที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมทุกประเภท รวมทั้งภาคอุตสาหกรรมประกันภัยก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงไปได้ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีมีอิทธิพลต่อประเทศไทยในการปรับตัวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลภายใต้นโยบายรัฐบาล “ประเทศไทย 4.0” ( Thailand 4.0) ที่กำหนดทิศทางการพัฒนาประเทศไทยให้เป็นประเทศผู้ผลิตที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีนวัตกรรมที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มสูงได้ รวมทั้งการใช้ศักยภาพทางดิจิทัลเป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อนห่วงโซ่คุณค่าเศรษฐกิจ และสามารถช่วยลดความเหลื่อมล้ำในด้านรายได้ของประชากร ตั้งแต่กระบวนการผลิต การดำเนินธุรกิจ การค้าและบริการ การศึกษา ตลอดจนการบริหารราชการแผ่นดินและกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคม
สำหรับธุรกิจประกันภัย ก็ได้มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปฏิวัติรูปแบบการทำธุรกิจหรือที่เรียกกันว่า “InsurTech” เพื่อสร้างมูลค่าให้กับการประกันภัยทั้งด้านผลิตภัณฑ์ การให้บริการ และการบริหารจัดการภายใน โดยทิศทางการกำกับดูแลของสำนักงาน คปภ.ในยุค InsurTech ที่มุ่งไปสู่เป้าหมายที่สำคัญ คือ “การรักษาสมดุลระหว่างการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนและการส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมดิจิทัลในอุตสาหกรรมประกันภัย
สำนักงาน คปภ. ในฐานะผู้กำกับดูแลธุรกิจประกันภัย มีความมุ่งมั่นอย่างมากที่จะนำพาธุรกิจประกันภัยให้ก้าวข้ามความท้าทายต่างๆ ไปสู่เศรษฐกิจในยุคดิจิทัล ด้วยบทบาทของการเป็นผู้สนับสนุนและส่งเสริมภาคธุรกิจประกันภัย รวมทั้งให้ความคุ้มครองต่อผู้บริโภค สำนักงาน คปภ.จึงได้วางแผนพัฒนา ปรับปรุง และเตรียมความพร้อมระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในการสนับสนุนการดำเนินงานของสำนักงาน คปภ. และส่งเสริมอุตสาหกรรมประกันภัยในการเตรียมความพร้อมในการแข่งขันสู่การเปิดเสรีในอนาคต จึงได้มีการออกประกาศเกี่ยวกับการเสนอขายกรมธรรม์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-insurance ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2560 และจนถึงขณะนี้มีผู้มาขอรับอนุญาตกว่า 70 รายแล้ว รวมทั้งมีการผลักดันโครงการ Insurance Bureau System ให้เป็นศูนย์กลางข้อมูลทางด้านการประกันวินาศภัยเพื่อบูรณาการระบบฐานข้อมูลการประกันวินาศภัยให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานระบบสารสนเทศของอุตสาหกรรมประกันภัยของประเทศ
นอกจากนี้สำนักงาน คปภ. ยังเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจเข้ามาร่วมทดสอบนวัตกรรมผ่านโครงการ Insurance Regulatory Sandbox ซึ่งในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมามีผู้เข้ามาหารือแล้วกว่า 15 ราย ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า การกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยไทยจะสามารถก้าวขึ้นเป็น Digital Insurance Regulator ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เลขาธิการ คปภ.กล่าวด้วยว่า จากบทบาทและประโยชน์ของระบบประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับประชาชนซึ่งเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี สำนักงาน คปภ. จึงได้ร่วมกับ สมาคมประกันวินาศภัยไทย สมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมนายหน้าประกันภัยไทย สมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน จัดงานสัปดาห์ประกันภัย ประจำปี 2560 (Insurance Expo 2017) ภายใต้แนวคิด "เทคโนโลยีประกันภัย เชื่อมต่อโอกาสและความท้าทาย เพื่ออนาคตไทย" (InsurTech Connect : Opportunities and Challenges for Thailand Future) และพิธีมอบรางวัลประกันภัยดีเด่นครบวงจร (Prime Minister’s Insurance Awards) ระหว่างวันที่ 22-24 กันยายน 2560 เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ ห้องเพลนารี 1 – 3 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ
สำหรับไฮไลท์ในการโชว์นวัตกรรมด้านประกันภัยในส่วนของสำนักงานคปภ.ที่น่าสนใจ คือการเปิดตัว โมบาย Motor Risk ที่มีแอพพลิเคชั่นให้เลือกค้นหาข้อมูลถึง 8 ฟังก์ชัน เช่น การตรวจสอบการทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ของตัวเอง การตรวจสอบการทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ของคู่กรณี การแจ้งเตือนวันหมดอายุการทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) การแจ้งอุบัติเหตุ การค้นหาข้อมูลสายด่วนของทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน การค้นหาสถานที่ต่างๆ การตรวจสถานะการเคลมด้วยการกรอกเลขเคลมหรือเลขบัตรประจำตัวประชาชน และการค้นหาข้อมูลข่าวสาร สาระน่ารู้ และประกาศฯต่างๆของสำนักงาน คปภ.
รวมทั้งมีการโชว์นวัตกรรมด้านประกันภัยผ่านทาง Insurance Bureau System เกี่ยวกับฐานข้อมูลกลาง ที่แสดงพื้นที่การทำประกันภัยทั่วประเทศ เช่น การตรวจสอบพื้นที่การทำประกันภัยข้าวนาปี การตรวจสอบพื้นที่ การทำประกันทรัพย์สิน รวมทั้งการแสดงฐานข้อมูลของอุตสาหกรรมประกันภัยไทย เช่น จำนวนกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ กรมธรรม์ประกันอัคคีภัย กรมธรรม์อัคคีภัย และการทำประกันภัยทางทะเล เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีการโชว์นวัตกรรมเทคโนโลยีประกันภัยล่าสุดจากต่างประเทศ ตลอดจนการให้บริการกรมธรรม์ออนไลน์ ซึ่งมีการออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่สนใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ประกันภัยผ่านออนไลน์ รวมทั้งมีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาบริหารจัดการปรับปรุงและพัฒนาระบบการทำงานให้เป็นโครงข่ายใยแมงมุมแบบเรียลไทม์ โดยมีการเชื่อมโยงข้อมูลถึงกันเป็นเครือข่ายออนไลน์อีกด้วย
ดังนั้น จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนมาเที่ยวงานสัปดาห์ประกันภัย ปี 2560 ภายใต้แนวคิด "เทคโนโลยีประกันภัย เชื่อมต่อโอกาสและความท้าทาย เพื่ออนาคตไทย" (InsurTech Connect : Opportunities and Challenges for Thailand Future) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-24 กันยายน 2560 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นอกจากจะได้รับความรู้เกี่ยวกับประกันภัยและนวัตกรรมต่างๆ ด้านการประกันภัยแล้ว ยังสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ประกันภัยราคาถูกพิเศษลดสูงสุด 30% และลุ้นรับของรางวัลมากมาย ตลอดจนพบกับความบันเทิงจากศิลปินดาราชั้นนำได้ภายในงานสัปดาห์ประกันภัยครั้งนี้ชนิดที่เรียกว่า "มางานเดียว ทั้งคุ้ม ทั้งครบ จบในที่เดียว" เลขาธิการ คปภ. กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา: http://www.oic.or.th