คำถาม คำตอบ การช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยและประชาชน กรณีการเพิกถอนใบอนุญาต บริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน)

ข่าวทั่วไป Saturday September 8, 2018 15:10 —คปภ.

1.คำถาม : สาเหตุของการเพิกถอนใบอนุญาตของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน)

คำตอบ : เนื่องจากบริษัทมีปัญหาฐานะและการดำเนินงาน มีการฝ่าฝืนกฎหมายหลายประการอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน ดังนี้

ดำรงเงินกองทุนไม่ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด

ดำรงทรัพย์สินสำหรับเงินสำรองสำหรับเบี้ยประกันภัยที่ยังไม่ตกเป็นรายได้ของบริษัท เงินสำรอง ค่าสินไหมทดแทนและเงินสำรองอื่นของบริษัทประกันวินาศภัยตามมาตรา 23 และจัดสรรสินทรัพย์ไว้สำหรับหนี้สินและภาระผูกพันตามสัญญาประกันภัย ตามมาตรา 27/4 ไม่ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด

ยื่นงบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทไม่ถูกต้องตามความเป็นจริงหลายครั้ง มีพฤติกรรมปิดบังซ่อนเร้นฐานะการเงินหรือการดำเนินการ โดยบันทึกรายการหนี้สินจากการประกันภัยต่อ และเงินสำรองค่าสินไหมทดแทนที่ได้รับรายงานแล้ว ต่ำกว่าความเป็นจริง ทำให้สำนักงาน คปภ. ไม่ทราบฐานะการเงินที่แท้จริงของบริษัท

ผู้สอบบัญชีแสดงความเห็นต่องบการเงินของบริษัทอย่างมีเงื่อนไขเกี่ยวกับความสามารถในการดำเนินงานต่อเนื่องอันเป็นสาระสำคัญ เป็นเหตุให้บริษัทมีฐานะการเงินหรือการดำเนินการอยู่ในลักษณะอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน

เพื่อมิให้ปัญหาลุกลามทำให้ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชนเดือดร้อนเพิ่มขึ้น นายทะเบียนโดยความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ตามมติที่ประชุม คปภ. ครั้งที่ 3/2561 เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2561 จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 มีคำสั่งที่ 17/2561 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2561 สั่งให้บริษัทหยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว และกำหนดเงื่อนไข 4 ข้อ ให้บริษัทดำเนินการ โดยให้ดำเนินการให้แล้วสร็จภายในวันที่ 29 มิถุนายน 2561 ซึ่งในระหว่างระยะเวลาดังกล่าว สำนักงาน คปภ. ได้ติดตามกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งปรากฏว่าบริษัทยังไม่มีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาฐานะและการดำเนินงานตามคำสั่งนายทะเบียนอย่างมีนัยสำคัญ โดยสำนักงาน คปภ. ได้ ติดตามและกำชับเป็นลายลักษณ์อักษรให้บริษัทเร่งรัดการดำเนินการเพื่อแก้ไขฐานะและดำเนินการตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 17/2561 มาโดยตลอด

ก่อนครบกำหนดเวลาแก้ไขปัญหาฐานะและการดำเนินการ บริษัทได้ขอขยายเวลาการแก้ไขปัญหาฐานะการเงินและการดำเนินการ โดยให้เหตุผลว่ามีความคืบหน้าในการแก้ไขฐานะการเงินและการดำเนินการ โดยการเพิ่มทุนเป็นเงินสด และมีแผนการดำเนินการที่จะเพิ่มทุนโดยการแปลงหนี้เป็นทุน นายทะเบียนโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ในการประชุม คปภ. ครั้งที่ 7/2561 เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2561 พิจารณาแล้วเห็นว่า บริษัทมีความคืบหน้าในการแก้ไขฐานะและการดำเนินการโดยได้เพิ่มทุนมาแล้วบางส่วนและอยู่ระหว่างแก้ไขฐานะด้วยการแปลงหนี้เป็นทุน จึงมีคำสั่ง ที่ 35/2561 ลงวันที่ 29 มิถุนายน 2561 ให้ขยายระยะเวลาการแก้ไขปัญหาฐานะการเงินและการดำเนินการออกไปจนถึงวันที่ 28 สิงหาคม 2561 โดยบริษัทยังคงอยู่ภายใต้คำสั่งให้หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราวที่กำหนดเงื่อนไข 4 ข้อ ทั้งนี้ หากปรากฏหลักฐานว่าเจ้าหนี้ของบริษัทได้ตกลงหรือยินยอมเข้าร่วมโครงการแปลงหนี้เป็นทุนกับบริษัทตามคำร้องขอขยายระยะเวลา ภายในวันที่ 28 สิงหาคม 2561 ให้ขยายระยะเวลาแก้ไขฐานะและการดำเนินการออกไปจนถึงวันที่ 27 กันยายน 2561 แต่หากเจ้าหนี้ของบริษัทดังกล่าวไม่ตกลงหรือยินยอมเข้าร่วมโครงการแปลงหนี้เป็นทุนกับบริษัทภายในวันที่ 28 สิงหาคม 2561 ให้นายทะเบียนนำเสนอคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัดต่อไป โดยสำนักงาน คปภ. ได้เผยแพร่คำสั่งนายทะเบียนดังกล่าว และได้แจ้งคำสั่งนี้ให้บริษัททราบและเข้าใจเงื่อนไขต่างๆ โดยละเอียดแล้ว และระหว่างช่วงเวลาที่กำหนดตามคำสั่งของนายทะเบียน สำนักงาน คปภ. ได้ติดตามและประเมินผลการแก้ไขปัญหาของบริษัทอย่างใกล้ชิด ทั้งยังให้โอกาสบริษัทชี้แจงและแสดงหลักฐานเพื่อประกอบการพิจารณา แต่จนถึงวันที่ 28 สิงหาคม 2561 ซึ่งเป็นวันครบกำหนดตามเงื่อนไขในคำสั่งนายทะเบียนที่ 35/2561 บริษัทยังไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดได้ โดยไม่ปรากฏหลักฐานต่อนายทะเบียนว่าเจ้าหนี้ของบริษัทได้ตกลงหรือยินยอมเข้าร่วมโครงการแปลงหนี้เป็นทุนกับบริษัทภายในวันที่ 28 สิงหาคม 2561 อีกทั้งบริษัทยังคงไม่สามารถแก้ไขปัญหาฐานะและการดำเนินการได้ครบถ้วน ได้แก่ ไม่สามารถดำรงเงินกองทุนให้ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด โดยมีหนี้สินเกินกว่าทรัพย์สิน จำนวน 267.78 ล้านบาท มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนจำนวนร้อยละ -210.28 จัดสรรเงินสำรองตามมาตรา 23 และจัดสรรสินทรัพย์ไว้สำหรับหนี้สินและภาระผูกพันตามสัญญาประกันภัยตามมาตรา 27/4 ไม่ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด จำนวน 79.44 ล้านบาท และ 157.18 ล้านบาท ตามลำดับ แม้ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตตรวจสอบและรับรองงบการเงิน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2561 แต่รายงานของผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแสดงความเห็นแบบมีเงื่อนไขเกี่ยวกับความสามารถในการดำเนินงานต่อเนื่องอันเป็นสาระสำคัญ ซึ่งเป็นลักษณะที่เป็นเหตุให้บริษัทมีฐานะการเงินหรือการดำเนินการอยู่ในลักษณะอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน ดังนั้น หากให้บริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจต่อไปจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน สำนักงาน คปภ. ด้วยความเห็นชอบของ คปภ. ได้นำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังใช้อำนาจตามความในมาตรา 59 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ.2535 เสนอให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของบริษัท โดยต่อมารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว เห็นชอบตามที่เสนอ จึงมีคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 1213/2561 ลงวันที่ 7 กันยายน 2561 เพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันภัยของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในการนี้ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 60 และมาตรา 62 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 แต่งตั้งกองทุนประกันวินาศภัยเป็นผู้ชำระบัญชี

2. คำถาม : เงื่อนไข 4 ข้อ ตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 17/2561 ในระหว่างการสั่งให้หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราวที่สั่งให้บริษัทแก้ไขมีอะไรบ้าง

คำตอบ : เงื่อนไข 4 ข้อ คือ

ต้องดำรงเงินกองทุนให้ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด

ต้องยื่นรายงานประมาณการฐานะการเงินและความเพียงพอของเงินกองทุนเป็นรายไตรมาส เป็นระยะเวลา 1 ปี เริ่มตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ของปี พ.ศ. 2561 ต้องปรับปรุงการบันทึกรายการบัญชีให้ถูกต้องตรงต่อความเป็นจริง เพื่อให้งบการเงินของบริษัทมีความน่าเชื่อถือ และผ่านการรับรองจากผู้สอบบัญชีรับอนุญาตที่แสดงความเป็นแบบไม่มีเงื่อนไข หรือแบบมีเงื่อนไข ในลักษณะที่ไม่เป็นเหตุให้บริษัทมีฐานะการเงินหรือการดำเนินการอยู่ในลักษณะอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน จัดให้มีระบบงานและบุคลากรที่มีคุณภาพ ได้แก่ ระบบบัญชีการเงิน ระบบการรับเงินจ่ายเงิน ระบบการจัดการค่าสินไหมทดแทน ระบบการบริหารความเสี่ยง ระบบควบคุมภายในที่เหมาะสมและเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และให้มีคู่มือการปฏิบัติงานของพนักงานเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมทั้งให้มีการทดสอบระบบงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

3. คำถาม : สำนักงาน คปภ. ได้เข้าไปตรวจสอบ ควบคุม และป้องกันมิให้เกิดความเสียหายลุกลามอย่างไร

คำตอบ : สำนักงาน คปภ.ได้ติดตามการดำเนินงานของบริษัทมาโดยตลอด และมีข้อสงสัยว่า บริษัทอาจมีการทำธุรกรรมที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งสำนักงาน คปภ.ได้เข้าตรวจสอบและรวบรวมหลักฐานในเชิงลึกจนพบว่า มีการบันทึกบัญชีไม่ถูกต้องตรงต่อความเป็นจริงมีผลให้บริษัทดำรงเงินกองทุน จัดสรรทรัพย์สินไว้ตามมาตรา 23 และมาตรา 27/4 ไม่ครบถ้วน สำนักงาน คปภ.จึงได้นำเสนอต่อที่ประชุม คปภ.เพื่อขอความเห็นชอบให้นายทะเบียนสั่งหยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการห้ามมิให้บริษัทขยายการรับประกันวินาศภัย และกระทำการระงับธุรกรรมทั้งหมดโดยสำนักงาน คปภ. ได้เข้าควบคุมธุรกรรมการเงินเพื่อให้มั่นใจได้ว่า ระหว่างที่บริษัทต้องคำสั่งหยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราวและ อยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหาตามคำสั่งฯ จะไม่มีการโยกย้ายทรัพย์สิน หรือมีการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้เอาประกันภัยและประชาชน

4.คำถาม : การเพิกถอนใบอนุญาตของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) จะกระทบต่อ ผู้เอาประกันภัยหรือไม่ และสำนักงาน คปภ. มีแนวทางการเยียวยาผลกระทบอย่างไร

คำตอบ : สำนักงาน คปภ. ได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับผู้เอาประกันภัยของบริษัทที่มีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทน หรือมีภาระผูกพันตามกรมธรรม์ประกันภัย โดยได้จัดทำโครงการช่วยเหลือผู้เอาประกันภัย และผู้มีสิทธิเรียกร้องตามกรมธรรม์ประกันภัย และขอให้บริษัทประกันวินาศภัยที่มีฐานะการเงินมั่นคงที่มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนเกินกว่าร้อยละ 200 เข้าร่วมโครงการ ซึ่งมีบริษัทที่เข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้น 26 บริษัท ซึ่งผู้เอาประกันสามารถเลือกบริษัทใดบริษัทหนึ่งที่เข้าร่วมโครงการได้

5. คำถาม : แนวทางการช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยและประชาชนมีอย่างไร

คำตอบ : แนวทางการช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยและประชาชนมี ดังนี้

กรณีกรมธรรม์ที่ยังไม่มีการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเกิดขึ้น บริษัทที่เข้าร่วมโครงการฯ จะเข้ารับช่วงและให้ความคุ้มครองแก่ผู้เอาประกันภัยที่เข้ามาติดต่อบริษัท โดยมีเงื่อนไขว่า ผู้เอาประกันภัยจะต้องทำสัญญาประกันภัยประเภทและชนิดเดียวกันนั้นกับบริษัทต่อไป โดยผู้เอาประกันภัยจะได้รับการขยายความคุ้มครองเพิ่มเติมตามระยะเวลาที่ยังคงเหลืออยู่จากกรมธรรม์เดิม โดยไม่มีการคิดเบี้ยประกันภัยเพิ่ม แต่ต้องโอนสิทธิที่จะได้รับเบี้ยประกันภัยสำหรับระยะเวลาที่เหลือจากกองทุนประกันวินาศภัย ในฐานะผู้ชำระบัญชีของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ให้แก่บริษัทที่รับโอนกรมธรรม์ประกันภัยนั้นด้วย

กรณีที่กรมธรรม์มีความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว การเรียกร้องค่าเสียหายนั้นให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดโดยผู้ชำระบัญชีของบริษัทที่รัฐมนตรีมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาต โดยสำนักงาน คปภ. ในทุกพื้นที่จะทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานและอำนวยความสะดวกแก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชนเป็นเบื้องต้น

6.คำถาม : บริษัทประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยและผู้มีสิทธิเรียกร้องตากรมธรรม์ประกันภัย จำนวน 26 บริษัท ประกอบด้วยบริษัทใดบ้าง

คำตอบ : บริษัทประกันภัย จำนวน 26 บริษัท มีรายชื่อดังต่อไปนี้

ที่          ชื่อบริษัท          รายชื่อผู้ให้บริการ                   ช่องทางติดต่อ

1          บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน)                 คุณสุภาษ  เหลืองศิริมีชัย          โทร. 02-285–7911

E-mail : supas.l@bangkokinsurance.com

                                                           คุณเกษม เจริญจรัสกุล            โทร. 02-285-8941

E-mail : kasame@bangkokinsurance.com

                                                           คุณปริศนา  ช่วยจตุรัส            โทร. 02-285-8935

E-mail : pritsana.c@bangkokinsurance.com

2          บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด (มหาชน)             คุณอรุณ  เพชรรัตน์              โทร. 02-624-1111 ต่อ 3312

E-mail : arun.p@kpi.co.th

3          บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด               คุณจีระศักดิ์  รอบแคว้น           โทร. 02-100-9191 ต่อ 5711 มือถือ 086-600-5106 โทรสาร 02-248-6977

E-mail : Jeerasakr@rvp.co.th

4          บริษัท เจนเนอราลี่ ประกันภัย (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)   คุณศรินรัตน์ นิทัศน์ธนาวุฒิ          โทร. 02-685-3828 ต่อ 844 หรือ 845

E-mail : sarinratn@generali.co.th

                                                           คุณชนนทร์ เพ็ชญไพศิษฐ์           โทร. 02-022-8220 ต่อ 8170

E-mail : chor.nonp@generali.co.th

                                                           คุณถิรธนา วิเศษภักดี             โทร. 02-022-8220 ต่อ 8190

E-mail : tirathanav@generali.co.th

5          บริษัท ชับบ์สามัคคีประกันภัย จำกัด (มหาชน)               คุณวีรชัย วงศ์สินธุ์เชาว์           โทร. 02-611-3860

Email: veerachai.wongsinchao@chubb.com

                                                           คุณวรินทร ปฐมรัตน์              โทร. 02-611-3862

Email: Varintohn.Pathomrat@chubb.com

6          บริษัท ซิกน่า ประกันภัย จำกัด (มหาชน)                  คุณปิยะ วราอุบล                โทร. 02-651-5995 ต่อ 301 มือถือ 084-664-5551 โทรสาร 02-650-9720

E-mail: Piya.Vara-ubol@Cigna.com

7          บริษัท โตเกียวมารีนประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คุณสุรสิทธิ์  ศิริจิระพัฒนา          โทร. 02-686-8888 ต่อ 1327

E-mail : Surasit.Sirijirapatana@tokiomarine.co.th

8          บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)                    คุณปราณี มณีสว่างวงศ์            โทร.02-118-4000 ต่อ 2133

E-mail : pranees@dhipaya.co.th

9          บริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน)                  คุณทิพวรรณ เหลืองสกุลพงษ์        โทร. 02-080-1599  ต่อ 6163

E-mail: thippawan@deves.co.th

                                                           คุณจิราภรณ์ จันทร์สมปอง          โทร. 02-080-1599  ต่อ 6111

E-mail: chiraporn@deves.co.th

10         บริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน)                    คุณวีริยา เหลืองธาดา            โทร. 02-613-0100 ต่อ 601-602

E-mail : veeriya@thaiins.com

11         บริษัท ไทยศรีประกันภัย จำกัด (มหาชน)                  คุณสรชา สวัสดิ์วุฒิพงษ์            โทร. 02-878-7129

E-mail : sorracha.sa@thaisri.com

12         บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน)                  คุณทิวา วงศ์ธนาภา              โทร. 02-308-9214

คุณสุภาวรรดี พัฒนะพงษ์วิบูลย์ โทร. 02-308-9300

13         บริษัท นวกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน)                   คุณวัลลภ กันฉาย                โทร. 02-664-7755 ต่อ 7731

E-mail : vanlop_k@navakij.co.th]

14         บริษัท ประกันคุ้มภัย จำกัด (มหาชน)                     คุณนันทิยา เจริญจิตรตระกูล        โทร. 02-257-8424

คุณบุปผารัตน์ จารุเศรษฐการ โทร. 02-257-8426

15         บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน)                คุณชุติมณฑน์ นุ่มรัตน์              โทร. 02-695-0800 ต่อ 2981

Email : Chutimon_num@thaivivat.co.th

                                                           คุณราตรี โพธิ์ศรี                โทร. 02-695-0800 ต่อ 2953

Email : agent07@thaivivat.co.th

16         บริษัท พุทธธรรมประกันภัย จำกัด (มหาชน)                คุณอรทัย ขนุนทอง               โทร.02-585-9009 ต่อ 3400 มือถือ 089-488-1876

E-mail : pti.motor@hotmail.com

                                                           คุณสมบูรณ์ แก้วกิตติกาญจนา        โทร.02-585-9009 ต่อ 3300 มือถือ 089-667-6879

E-mail : pti2006@yahoo.com

17         บริษัท ฟอลคอนประกันภัย จำกัด (มหาชน)                 คุณประวิทย์ พิชญ์พิธาน            โทร. 02-676-9888 ต่อ 150

Email: pravitp@falconinsurance.co.th

18         บริษัท มิตซุย สุมิโตโม อินชัวรันซ์ สาขาประเทศไทย          คุณ หิรัญญา ชั่งดวงจิตร์           โทร. 02-679-6165-87 ต่อ 3102

Email: hirunya@ms-ins.co.th

19         บริษัท มิตรแท้ประกันภัย จำกัด (มหาชน)                  คุณนริตา บุญสุทธิ์                โทร. 02-640-7777  ต่อ 7815
                                                           คุณรุ่งทิพย์ ทองศักดิ์              โทร. 02-640-7777  ต่อ  7812
20         บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน)                คุณศักดิ์สยาม ไชยนิสิต            โทร. 02-665-4000 ต่อ 4187

E-mail: saksiam.c@muangthaiinsurance.com

                                                           คุณจักรี วรรณศิลป์               โทร. 02-665-4000 ต่อ 4760

E-mail: jhakkree.w@muangthaiinsurance.com

21         บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน)              ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ และเจ้าหน้าที่รับ        โทรศัพท์ สายด่วน 1557สอบถามข้อมูลผ่านเว็บไซต์บริษัท www.viriyah.co.th

ประกันภัยของบริษัทฯ ทุกสาขาทั่วประเทศ

22         บริษัท ศรีอยุธยา เจนเนอรัล ประกันภัย จำกัด (มหาชน)      คุณทิพวดี คงประเสริฐลาภ         โทร. 02-657-2555 ต่อ 2512

E-mail : thipwadee@sagi.co.th

23         บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน)                 คุณอมรศักดิ์ ศรีมงคลชัย           โทร. 02-378-7000 ต่อ 7129
                                                           คุณธานี  บุญวัฒนศิริ              โทร. 02-378-7000 ต่อ 1522
24         บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน)                   ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์              โทร. 1726

E-mail : seiccare@segroup.co.th

25         บริษัท เอซ ไอเอ็นเอ โอเวอร์ซีส์                       คุณวีรชัย วงศ์สินธุ์เชาว์           โทร. 02-6113860
           อินชัวรันซ์ จำกัด สาขาประเทศไทย                                                  Email: veerachai.wongsinchao@chubb.com
                                                           คุณวรินทร ปฐมรัตน์              โทร. 02-6113862

Email: Varintohn.Pathomrat@chubb.com

26         บริษัท ไอโออิ กรุงเทพ ประกันภัย จำกัด (มหาชน)          คุณสุเทพ ขันธโสภา              โทร. 02-620-8000 ต่อ 8033 โทรสาร 02-677-3979 มือถือ 081-880-4114

E-mail : suthep@aioibkkins.co.th

รวม ๒๖

7. คำถาม : เจ้าหนี้ของบริษัทจะขอรับชำระหนี้อย่างไร

คำตอบ : สำหรับผู้เป็นเจ้าหนี้ตามสัญญาประกันภัยของบริษัท ให้ยื่นขอรับชำระหนี้ต่อกองทุนประกันวินาศภัย ในฐานะผู้ชำระบัญชีของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ภายใน 60 วันนับแต่วันที่กองทุนประกันวินาศภัยกำหนดในประกาศ โดยให้นำเอกสารต้นฉบับพร้อมทั้งสำเนา จำนวน 2 ชุด ประกอบการยื่นขอรับชำระหนี้ ดังนี้ กรมธรรม์ประกันภัย บัตรประจำตัวประชาชน ใบเคลม ใบนัดชำระหนี้ หรือเอกสารอื่นใดที่แสดงถึงมูลหนี้ หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีเป็นนิติบุคคล) สำหรับเจ้าหนี้อื่นที่ไม่ใช่เจ้าหนี้ตามสัญญาประกันภัย ให้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อกองทุนประกันวินาศภัย ในฐานะผู้ชำระบัญชีของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ภายใน 60 วันนับแต่วันที่กองทุนประกันวินาศภัยกำหนดในประกาศ พร้อมทั้งนำเอกสารแสดงความเป็นเจ้าหนี้ ต้นฉบับพร้อมทั้งสำเนา จำนวน 1 ชุด ประกอบการยื่นขอรับชำระหนี้ ดังนี้ หลักฐานแสดงถึงมูลหนี้ บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีเป็นนิติบุคคล) หากเจ้าหนี้ไม่สามารถยื่นได้ด้วยตนเอง จะต้องมีหนังสือมอบอำนาจโดยติดอากรแสตมป์ 30 บาท พร้อมกับสำเนาบัตรประชาชนผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ ยื่นต่อกองทุนประกันวินาศภัย ในฐานะ ผู้ชำระบัญชีของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน)

สถานที่ที่สามารถยื่นคำขอรับชำระหนี้ มีดังต่อไปนี้

ส่วนกลางยื่นได้ 3 แห่ง ดังนี้

กองทุนประกันวินาศภัย อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 ชั้น 15 เลขที่ 1010 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 หมายเลขโทรศัพท์ 0-2791-1444 ต่อ 11-15 และ 21-24

สำนักงาน คปภ. เขตท่าพระ เลขที่ 287 ซอยรัชดาภิเษก 6 ถนนรัชดาภิเษก-ท่าพระ แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร 10600 หมายเลขโทรศัพท์ 0-2476-9940-3

สำนักงาน คปภ. เขตบางนา เลขที่ 1/16 อาคารบางนาธานี ชั้น 8 ถนนบางนาตราด กม.3 แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260 หมายเลขโทรศัพท์ 0-2361-3769-70 ?ในส่วนของพื้นที่ต่างจังหวัด สามารถยื่นขอรับชำระหนี้ได้ที่ สำนักงาน คปภ. ภาค และสำนักงาน คปภ. จังหวัด ทั่วประเทศ ทั้งนี้ เจ้าหนี้สามารถดาวน์โหลดแบบคำทวงหนี้ได้ที่ www.gif.or.th หัวข้อ “แบบฟอร์ม” ได้อีกด้วย

8.คำถาม : เจ้าหนี้ของบริษัทจะได้รับเงินเมื่อใด

คำตอบ : แบ่งเจ้าหนี้เป็น 2 กลุ่ม คือ

เจ้าหนี้ตามสัญญาประกันภัย ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อกองทุนประกันวินาศภัยในฐานะ ผู้ชำระบัญชีของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่กองทุนประกันวินาศภัยกำหนดในประกาศกองทุนประกันวินาศภัย โดยจะนำหลักทรัพย์ประกันและเงินสำรองประกันภัยของบริษัทที่วางไว้กับนายทะเบียนมาเฉลี่ยจ่ายให้แก่เจ้าหนี้ที่ไม่มีข้อโต้แย้ง และกองทุนประกันวินาศภัยจะนำเงินของกองทุนประกันวินาศภัยมาจ่ายส่วนที่ขาด (รวมแล้ว ไม่เกินหนึ่งล้านบาทต่อราย) ตามหลักเกณฑ์และระยะเวลาที่กองทุนกำหนด

เจ้าหนี้อื่น ที่ไม่ใช่เจ้าหนี้ตามสัญญาประกันภัย ให้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อกองทุนประกันวินาศภัยในฐานะ ผู้ชำระบัญชีของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่กองทุนประกันวินาศภัยกำหนดในประกาศกองทุนประกันวินาศภัย และหลังจากที่มีการนำทรัพย์สินของบริษัทจ่ายให้แก่เจ้าหนี้ตามสัญญาประกันภัยครบถ้วนแล้ว หากมีทรัพย์สินของบริษัทเหลือจะนำมาให้แก่เจ้าหนี้อื่น และหากไม่เพียงพอเจ้าหนี้อื่นจะต้องยื่นขอรับชำระหนี้ส่วนที่ขาดจากกองทรัพย์สินในคดีล้มละลายอีกครั้งหนึ่ง

9.คำถาม : สำนักงาน คปภ. ได้ดำเนินการเพื่อมิให้บริษัทมีการโยกย้ายเงินและทรัพย์สินของบริษัทอย่างไร

คำตอบ : ตั้งแต่นายทะเบียนมีคำสั่งที่ 17/2561 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2561 สั่งให้บริษัทหยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว จนถึงการเพิกถอนใบอนุญาตการประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของบริษัท สำนักงาน คปภ. ได้มีหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงิน หน่วยงานของรัฐ เป็นต้น เพื่อแจ้งให้ทราบการมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตการประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) และขอระงับการเคลื่อนย้ายทรัพย์สิน และได้ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมการจ่ายเงิน ณ ที่ทำการบริษัท โดยให้พนักงานเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ที่บริษัททุกวันทำการ และได้แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาการจ่ายเงินอื่นของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) เพื่อเสนอความเห็นพิจารณาอนุมัติค่าใช้จ่ายต่างๆ ต่อนายทะเบียน ให้เป็นไปตามรอบคอบ

ภายหลังจากคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 1213/2561 ลว. 7 กันยายน 2561 และคำสั่งแต่งตั้งกองทุนประกันวินาศภัยเป็นผู้ชำระบัญชีของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) สำนักงาน คปภ. ได้มีหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงิน หน่วยงานของรัฐ เป็นต้น เพื่อแจ้งให้ทราบการมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตการประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) และดูแลทรัพย์สินของบริษัท มิให้มีการเคลื่อนย้าย หรือยักย้ายถ่ายเท หรือนำออกไปจากสำนักงาน เว้นแต่เป็นการกระทำของผู้ชำระบัญชี

สำนักงาน คปภ. มีหนังสือสั่งการไปยังผู้อำนวยการสำนักงาน คปภ. ภาค 1 – 9 ผู้อำนวยการสำนักงาน คปภ. จังหวัด และผู้อำนวยการสำนักงาน คปภ. เขตท่าพระ และเขตบางนา เพื่อแจ้งให้ทราบการมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตการประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) และให้บริการช่วยเหลือและเยียวยาผู้เอาประกันภัยและประชาชนอย่างเต็มที่

10. คำถาม : การเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) จะกระทบต่อความเชื่อมั่นของอุตสาหกรรมประกันภัยไทยหรือไม่ และภาพรวมของธุรกิจประกันวินาศภัยของไทยขณะนี้ เป็นอย่างไร

คำตอบ :: กรณีของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้มีการดำเนินการตามลำดับขั้นตอน และมีการสื่อสารเกี่ยวกับเรื่องที่บริษัทประสบปัญหาและสำนักงาน คปภ. ให้โอกาสแก้ไขและช่วยเหลือ โดยเฉพาะโครงการแปลงหนี้เป็นทุน โดยบริษัทต้องดำเนินการตามเงื่อนไขที่ คปภ. กำหนดไว้ แต่เมื่อตรวจสอบรายละเอียด จึงพบข้อเท็จจริงอื่นที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายปรากฏเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงมีคำสั่งหยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว เพื่อจำกัดความเสียหายตามมติ คปภ. นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. ได้ประสานงานกับกองทุนประกันวินาศภัยอย่างใกล้ชิด ซึ่งผู้จัดการกองทุนประกันวินาศภัยคนปัจจุบัน เป็นผู้มีประสบการณ์ที่สามารถบริหารจัดการเกี่ยวกับกระบวนการภายหลังการเพิกถอนใบอนุญาตได้ สำหรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นอาจจะมีบ้าง แต่ไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นต่ออุตสาหกรรมประกันภัยในภาพรวม เนื่องจากบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดเล็กน้อยเพียงร้อยละ 0.06 ทั้งนี้ ปัจจุบันตัวเลขธุรกิจประกันภัยช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 มีเบี้ยประกันวินาศภัยรับตรง จำนวน 113,381 ล้านบาท อัตราการขยายตัวร้อยละ 4.76 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งธุรกิจประกันภัยเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพ และความมั่นคง รวมถึงมีบทบาทที่สำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ

ที่มา: http://www.oic.or.th


แท็ก ประกันภัย  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ