ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีศาลาบริเวณริมแม่น้ำแม่กลอง ท่าเรือข้ามฟากแสงวนิช อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม ทรุดพังลงแม่น้ำแม่กลองไปทั้งหลัง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 20 ราย โดยมีผู้บาดเจ็บที่ต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า จังหวัดสมุทรสงคราม จำนวน 7 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ตนได้สั่งการให้สายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ และสายกลยุทธ์องค์กร(กลุ่มงานสื่อสารองค์กร) บูรณาการร่วมกับ สำนักงาน คปภ. ภาค 7 (นครปฐม) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดนครปฐม ซึ่งดูแลงานด้านประกันภัยในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม เร่งติดตามและรายงานความเสียหายอย่างเร่งด่วนผ่าน Platform การรายงานข้อมูลกรณีอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์และให้ประสานความร่วมมือกับบริษัทประกันภัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งให้ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมว่าผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บได้มีการทำประกันชีวิตหรือประกันอุบัติเหตุประเภทอื่นๆ ไว้หรือไม่เพื่อใช้ระบบประกันภัยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม
ความคืบหน้าล่าสุดในเรื่องนี้ได้รับรายงานจาก สำนักงาน คปภ. จังหวัดนครปฐม ว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย มีเฉพาะรายนางสาวพรพิไล เสือเล็ก อายุ 24 ปี ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่า ได้ทำประกันภัยไว้จำนวน 2 กรมธรรม์ คือ กรมธรรม์ประกันสุขภาพกลุ่ม เลขที่ 1305046-PH เลขที่สมาชิก 9420031 ไว้กับ บริษัท บางกอกสหประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสงคราม เป็นผู้ถือกรมธรรม์ประกันภัย โดยให้ความคุ้มครองการประกันอุบัติเหตุ (อบ.2) กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตา และทุพพลภาพ วงเงินเอาประกันภัยจำนวน 100,000 บาท อีกกรมธรรม์เป็นการทำประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่ม ทำไว้กับ บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ชื่อ กรมธรรม์ประกันภัย THE SCHEDULE กรมธรรม์ประกันภัยเลขที่ 32122427 เริ่มคุ้มครองวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 สิ้นสุดการคุ้มครองวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 โดยให้ความคุ้มครอง กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตา การรับฟังเสียงหรือทุพพลภาพถาวรจากอุบัติเหตุทั่วไป วงเงินเอาประกันภัยจำนวน 100,000 บาท รวมวงเงินที่ผู้เสียชีวิตรายนี้จะได้รับจากการทำประกันภัยทั้ง 2 บริษัท จำนวน 200,000 บาท
แต่ผู้เสียชีวิตอีกรายคือ นางสุรีพร อุราชื่น อายุ 37 ปี จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นไม่พบว่ามีการทำประกันภัยไว้แต่อย่างใด
ในส่วนของการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บนั้น จากการติดตามอย่างใกล้ชิดทราบว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย เป็นคนในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม โดยครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้นำศพของนางสาวพรพิไล เสือเล็ก กลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดปัจจันตาราม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม ทั้งนี้ ได้รับรายงานจาก บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท บางกอกสหประกันภัย จำกัด (มหาชน) ว่า ได้มีการติดต่อกับทายาทของผู้เสียชีวิตในรายที่มีการทำประกันภัยและจะมีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ทายาทโดยธรรมในวันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคมนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนจัดทำเอกสารประกอบการจ่ายค่าสินไหมทดแทนต่อไป ส่วนศพของ นางสุรีพร อุราชื่น อายุ 37 ปี ทางครอบครัวนำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดน้อยแสงจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม ในส่วนของผู้บาดเจ็บ 7 ราย ที่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า จังหวัดสมุทรสงคราม สำนักงาน คปภ. จังหวัดนครปฐม ได้อำนวยความสะดวกด้านประกันภัยด้วยการแจ้งสิทธิค่ารักษาพยาบาลให้กับผู้บาดเจ็บและโรงพยาบาลได้รับทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ จากอุบัติเหตุดังกล่าว ทั้งนี้ อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาและทุกสถานที่ จึงควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัยและเยียวยาความสูญเสียต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัยสามารถสอบถามได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186 หรือ สามารถศึกษาข้อมูลด้านประกันภัยแบบเข้าใจง่ายๆได้จาก “คู่มือประกันภัย ฉบับประชาชน” โดยสามารถดาวน์โหลดเป็นต้นฉบับออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ www.oic.or.th” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย
ที่มา: http://www.oic.or.th