ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ห้างหุ้นส่วนจำกัด เออีซี ซุปเปอร์ เลขที่ 380 หมู่ 6 ตำบลหนองกอมเกาะ อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย ซึ่งเป็นห้างขายปลีก-ขายส่งเครื่องใช้สำนักงานและเครื่องเขียนขนาดใหญ่ ลักษณะอาคารชั้นเดียวเป็นคลังเก็บอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงานและเครื่องเขียนที่ผลิตมาจากพลาสติก เป็นเหตุให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วทำให้ตัวอาคารที่เป็นห้างและคลังเก็บสินค้าไฟไหม้เสียหายทั้งหลัง โดยเบื้องต้นประเมินความเสียหายประมาณ 50 ล้านบาท เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บแต่อย่างใด ในเบื้องต้น ได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สำนักงาน คปภ. ภาค 3 (ขอนแก่น) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดหนองคาย เร่งช่วยเหลือและสำรวจความเสียหายอย่างเร่งด่วนผ่าน Platform การรายงานข้อมูลกรณีอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยสำนักงาน คปภ. จังหวัดหนองคาย ได้ลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการประกันภัยให้กับผู้ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์เพลิงไหม้อย่างใกล้ชิดแล้ว รวมทั้งติดตามและตรวจสอบข้อมูลการทำประกันภัยของห้างหุ้นส่วนจำกัดดังกล่าว เพื่อให้ระบบประกันภัยช่วยบรรเทา เยียวยาความเดือดร้อนให้กับผู้ได้รับความเสียหายอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม
ทั้งนี้ ได้รับรายงานจากสำนักงาน คปภ. จังหวัดหนองคาย ว่าห้างหุ้นส่วนจำกัด เออีซี ซุปเปอร์ เลขที่ 380 หมู่ 6 ตำบลหนองกอมเกาะ อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย ได้ทำประกันอัคคีภัยซึ่งได้ขยายความคุ้มครองถึงภัยลมพายุและภัยจากการระเบิดไว้กับบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เลขที่ 521-01112-4565 เริ่มต้นคุ้มครองวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 สิ้นสุดความคุ้มครอง วันที่ 21 พฤษภาคม 2567 จำนวนเงินเอาประกันภัย 48,700,000 บาท ทรัพย์สินที่เอาประกันภัย คือ สิ่งปลูกสร้างตัวอาคาร (ไม่รวมฐานราก) เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้และอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ 8,700,000 บาท และสต๊อกสินค้า 40,000,000 บาท
สำหรับการติดตามการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เอาประกันภัย โดยบริษัทประกันภัยดังกล่าวได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามและเร่งสำรวจภัยเพื่อประเมินความเสียหายแล้ว ทั้งนี้ ได้สั่งการให้สำนักงาน คปภ. จังหวัดหนองคาย เข้าร่วมบูรณาการเพื่อให้การจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เอาประกันภัยเป็นไปโดยเร็วและเป็นธรรม
"สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจกับผู้ประกอบการที่ประสบเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเช่นนี้เกิดขึ้นได้ทุกเวลาและทุกสถานที่ จึงฝากเตือนมายังผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย โดยควรทำประกันอัคคีภัย หรือการประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สินที่ให้ความคุ้มครองทรัพย์สินต่าง ๆ ภายในอาคารหรือสถานที่ประกอบการ รวมถึงการประกันภัยความรับผิดต่อบุคคลภายนอก เพื่อที่ระบบประกันภัยจะได้เข้ามาช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัยสามารถสอบถามได้ที่สายด่วน คปภ. 1186? เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย
ที่มา: http://www.oic.or.th