ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีถังเก็บสารเคมีระเบิดภายใน บริษัท หมิงตี้ เคมิคอล จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 87 หมู่ 15 ซอยกิ่งแก้ว 21 ถนนกิ่งแก้ว ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเม็ดโฟมและพลาสติก โดยแรงอัดของการระเบิดในครั้งนี้ ทำให้โรงงานบ้านเรือน ยานยนต์ ที่อยู่โดยรอบรัศมี 500 เมตร ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 นั้น สำนักงาน คปภ. ได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการกำหนดมาตรการช่วยเหลือด้านประกันภัยให้กับประชาชนผู้เดือดร้อนจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยได้ออกมาตรการช่วยเหลือไปแล้ว 2 มาตรการ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 นั้น
ต่อมาเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2564 เลขาธิการ คปภ. พร้อมคณะผู้บริหารของ สำนักงาน คปภ. ได้ประชุมร่วมกับสำนักงาน คปภ. ภาค 6 (ชลบรี) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อรับทราบสถานการณ์และความต้องการการสนับสนุนเพิ่มจากสำนักงาน คปภ. ส่วนกลาง เพื่อระดมสรรพกำลังจากระบบประกันภัยเข้าช่วยเหลือประชาชนในครั้งนี้อย่างเต็มที่ โดยจากการหารือได้ข้อสรุปมาตรการเพิ่มอีก 3 มาตรการ ดังนี้
1. บูรณาการร่วมกับภาคอุตสาหกรรมประกันภัย โดยสมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมประกันวินาศภัยไทย และบริษัทประกันภัย เร่งตรวจสอบข้อมูลการทำประกันภัยของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ เพื่อให้ความช่วยเหลือเยียวยาด้านประกันภัยอย่างเร่งด่วน ทั้งจากการประกันชีวิต การประกันภัยอุบัติเหตุ และการประกันภัยประเภทอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บได้ทำประกันภัยรองรับไว้
2. บรูณาการร่วมกับสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี จังหวัดสมุทรปราการ และสถานีตำรวจภูธรบางแก้ว สมุทรปราการ ตั้งศูนย์รับแจ้งความเสียหาย เพื่อบูรณาการการทำงานและข้อมูลความสูญเสียหรือความเสียหายของบ้านเรือน และทรัพย์สินอื่น ๆ ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ เพื่อใช้ระบบประกันภัยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ได้อย่างทันท่วงที
3. เร่งบูรณาการการจ่ายสินไหมทดแทนให้กับประชาชนผู้เดือดร้อนจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ โดยจะประสานและอำนวยความสะดวกในทุกด้านที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การจ่ายสินไหมทดแทนเป็นไปอย่างถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นธรรม
ทั้งนี้ สำหรับรายที่ไม่ได้ทำประกันภัยครอบคลุมความสูญเสียหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นไว้ จะได้รับการชดใช้จากการประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอก ซึ่งโรงงานได้ทำประกันภัยดังกล่าวรองรับไว้ด้วยวงเงินเอาประกันภัย 20 ล้านบาท ทั้งความสูญเสียหรือความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายในการดับเพลิง และการเช่าที่พัก อย่างไรก็ตาม สำหรับความสูญเสียหรือความเสียหายที่เกินกว่าวงเงินเอาประกันภัย จำเป็นต้องเรียกร้องจากผู้ที่กระทำการละเมิด โดยสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี จังหวัดสมุทรปราการ และสถานีตำรวจภูธรบางแก้ว สมุทรปราการ จะช่วยดำเนินการในกรณีดังกล่าว โดยสำนักงาน คปภ. และบริษัทประกันภัย จะร่วมบูรณาการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. จังหวัดสมุทรปราการ ได้รายงานสถานการณ์จากศูนย์ประสานงานช่วยเหลือด้านประกันภัย ณ ศูนย์อพยพผู้ประสบภัยเพลิงไหม้ องค์การบริหารส่วนตำบลบางพลีใหญ่ ซึ่งมีผู้ประสบภัยเข้ามาพักอาศัยอยู่ประมาณ 200 ราย และศูนย์รับแจ้งความเสียหาย ณ สถานีตำรวจภูธรบางแก้ว สมุทรปราการ มีประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบเข้าแจ้งความเสียหายกว่า 150 รายแล้ว
?ผมขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับความสูญเสียหรือความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ดังกล่าว และจะทุ่มเทสรรพกำลังบูรณาการการทำงานร่วมกันกับทุกภาคส่วนอย่างเต็มที่ และหวังว่ามาตรการเพิ่มด้านประกันภัยดังกล่าวข้างต้นจะช่วยเหลือเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดในครั้งนี้ได้โดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัย สามารถสอบถามได้ที่สายด่วน คปภ. 1186? เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย
ที่มา: http://www.oic.or.th