ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีรถตู้โดยสารไม่ประจำทางของห้างหุ้นส่วนจำกัด มนตรีทรัพย์เจริญ ทะเบียน 30-0078 อำนาจเจริญ เกิดอุบัติเหตุเสียหลักเฉี่ยวชนการ์ดเลนกลางถนน บนถนนมิตรภาพขาเข้ากรุงเทพฯ กม. 100+600 หมู่ 6 ตำบลลาดบัวขาว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ทำให้เกิดประกายไฟลุกไหม้รถตู้เสียหายทั้งคัน ผู้โดยสารรวมพนักงานขับรถเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 11 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2566 นั้น
จากการตรวจสอบพบว่ารถตู้โดยสารไม่ประจำทาง ทะเบียน 30-0078 อำนาจเจริญ ที่เกิดอุบัติเหตุคันดังกล่าว ได้ทำประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับบริษัท มิตรแท้ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เริ่มต้นคุ้มครองวันที่ 31 มีนาคม 2565 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2566 โดยคุ้มครองกรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 500,000 บาท ต่อคน
กรณีบาดเจ็บสูงสุดไม่เกิน 80,000 บาทต่อคน กรณีสูญเสียอวัยวะ 200,000 - 500,000 บาทต่อคน กรณีทุพพลภาพอย่างถาวร 300,000 บาทต่อคน และกรณีเข้ารักษาในสถานพยาบาลในฐานะคนไข้ในจะได้รับค่าชดเชยรายวัน 200 บาทต่อวัน รวมกันไม่เกิน 20 วัน
นอกจากนี้ รถตู้คันเกิดเหตุ ได้ทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ (ประเภท 3+) ไว้กับบริษัท มิตรแท้ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เริ่มต้นคุ้มครองวันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2566 โดยคุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย ของบุคคลภายนอก 500,000 บาทต่อคน แต่ไม่เกิน 10,000,000 บาทต่อครั้ง
ความเสียหายต่อทรัพย์สินไม่เกิน 1,000,000 บาทต่อครั้ง และความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย อุบัติเหตุส่วนบุคคล โดยคุ้มครองกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวร ผู้ขับขี่ 1 คน 100,000 บาท ผู้โดยสาร 11 คน 100,000 บาทต่อคน ค่ารักษาพยาบาล 100,000 บาทต่อคน และการประกันตัวผู้ขับขี่ 300,000 บาทต่อครั้ง
ดังนั้น ครอบครัวของผู้เสียชีวิตที่เป็นผู้โดยสารทั้ง 10 ราย จะได้รับค่าสินไหมทดแทน รายละ 1,100,000 บาท จากการประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) รายละ 500,000 บาท การประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ (ประเภท 3+) รายละ 500,000 บาท และความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย อุบัติเหตุส่วนบุคคล รายละ 100,000 บาท และกรณีของผู้ขับขี่ที่เสียชีวิตอีก 1 ราย จะได้รับค่าสินไหมทดแทนจำนวน 135,000 บาท จากการประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) จำนวน 35,000 บาท และการประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ (ประเภท 3+) ความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย อุบัติเหตุส่วนบุคคล จำนวน 100,000 บาท
ทั้งนี้ เนื่องจากผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดอำนาจเจริญ สำนักงาน คปภ. ภาค 4 (นครราชสีมา) จึงได้ประสานสำนักงาน คปภ. ภาค 5 (อุบลราชธานี) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดอำนาจเจริญ ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวก ตลอดจนติดตามการจ่ายค่าสินไหมทดแทนอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ระบบประกันภัยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม
สำหรับความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิต ได้รับรายงานจากสำนักงาน คปภ. ภาค 5 (อุบลราชธานี) ว่า เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 บริษัท มิตรแท้ประกันภัย จำกัด (มหาชน)
ซึ่งเป็นบริษัทรับประกันภัยให้กับรถตู้คันดังกล่าว ได้จ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ทายาทของผู้เสียชีวิต ทั้ง 11 รายแล้ว โดยจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับทายาทของผู้เสียชีวิตที่เป็นผู้ขับขี่ จำนวน 135,000 บาท และทายาทของผู้โดยสาร ที่เสียชีวิตจำนวน 10 คน ๆ ละ 1,100,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 11,135,000 บาท โดยมีนายสรภ์ศักย์ ภิธเจริญสายทอง กรรมการบริหารและรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท มิตรแท้ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้มอบค่าสินไหมทดแทน โดยมี นางอันชรีย์ สีหาสาร ผู้อำนวยการสำนักงาน คปภ. จังหวัดอำนาจเจริญ และนางสาวเยาวเรศ สุขรอบ ผู้อำนวยการสำนักงาน คปภ. จังหวัดอุบลราชธานี ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ที่ทำการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนนาดูสามัคคี จำกัด อำเภอลืออำนาจ จังหวัดอำนาจเจริญ และสำนักงานตัวแทนประกันวินาศภัย ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
?สำนักงาน คปภ.ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและหวังว่าการส่งมอบค่าสินไหมทดแทนในครั้งนี้จะช่วยเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้ไม่มากก็น้อย ทั้งนี้อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลาและกับทุกคน และเพื่อความอุ่นใจ ควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย โดยเฉพาะการประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) การประกันภัยรถภาคสมัครใจ และการประกันภัยประเภทอื่น ๆ เพื่อให้ระบบประกันภัยช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมด้านประกันภัย ติดต่อสายด่วน คปภ. 1186? เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย
ที่มา: http://www.oic.or.th